นครราชสีมา เมื่อช่วงบ่ายวันนี้(9 พ.ย. 2563) ที่ห้องประชุมสวนหม่อน ชั้น 7 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดการะทรวงสาธารณสุข เดินทางมาเป็นประธานในการประชุมสรุปผลการระดมความคิดและการนำเสนอการจัดตั้งเขตพัฒนาพิเศษด้านสุขภาพที่ 9 โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข รอง ผวจ.นครราชสีมา  พร้อมด้วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ , ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์  โรงพยาบาลทั่วไป  ผู้แทน ผอ.รพ.สต. ผอ.สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครชัยบุรินทร์ 4 จังหวัดภาคอีสานตอนล่างรวมกว่า 300 คนร่วมประชุมครบ โดยมีผู้ป่วย ญาติผู้ป่วยที่ได้รับบริการการใช้บัตรประชาชนใบเดียว  โดยไม่ต้องมีใบส่งตัว อาทิ นางสาวจิรดาภรณ์ โชตินอก อายุ 21 ปี ที่ดูแลนางวงเดือน บุดดาพิมพ์ อายุ 47 ปี ที่ป่วยโรคไตเรื้อรัง จาก อ.สุศิริน จ.นราธิวาส ซึ่งทั้งสองรายมีความดีใจมาก ที่มีบริการที่ดี มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ที่ไม่ต้องขอใบส่งตัวจาก จ.นราธิวาสเพื่อมายื่นที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา เมื่อก่อนยุงยากมาก และขอ 1 ครั้งจะอยู่ได้ 3 เดือนพอครบ 3 เดือนก็ต้องเดินทางกลับไป จ.นราธิวาสเพื่อขอใบส่งตัวอีกการเดินทางไกลมากทำให้วุ่นวายไปหมด ตอนนี้ก็ขอขอบคุณ รมว.สาธารณสุขฯที่มีโครงการให้กับพี่น้องประชาชน และขอฝากให้ครอบคลุมทำทั่วประเทศเลย  รวมทั้ง นางอรัญนิกร วรกองกลาง อายุ 53 ปี ก็ดีใจและสะดวกมาก ไม่ต้องลางานนานมาก เจ็บ ป่วย เป็นมาใช้บริการได้ทันทีเลย เดิมอยู่กาชาด 4 นครราชสีมา มาจุดนี้ก็ไม่ต้องไปที่โน่นอีก ดีกว่ามาก

         
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า   จัดตั้งเขตพัฒนาพิเศษ ด้านสุขภาพเขตสุขภาพที่ 9 นี้ ได้จัดขึ้นตามนโยบายที่สำคัญ เนื่องด้วยกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักในการจัดระบบบริการสุขภาพของประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านสุขภาพอย่างทั่วถึง ครอบคลุมและมีคุณภาพในทุกพื้นที่ โดยมุ่งหวังให้ประชาชนมีสุขภาพดีมีอายุยืนยาว ปราศจากโคภัยไข้เจ็บ ประกอบกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในปัจจุบันได้มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างวเร็ว ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม รวมทั้งสภาพความเป็นอยู่ของประชาชน เช่น ที่อยู่อาศัย ความเป็นอยู่  สังคมเมือง การเดินทางที่รวดเร็ว การประกอบอาชีพที่หลากหลาย รวมทั้งการมีชาวต่างชาติเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศเพิ่มมาก จึงจำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินการที่ประสาน สอดคล้อง เชื่อมโยงกัน เนื่องจากในบางพื้นที่มีบริบทเฉพาะที่แตกต่างกับพื้นที่ทั่วไปอย่างมาก จนไม่อาจใช้แนวทางการดำเนินการแบบพื้นที่ทั่วไปได้ทั้งเรื่องการบริหารงานบุคลากรและระบบการเงินการคลัง ซึ่งต้องอาศัยกลไกการขับเคลื่อนเฉพาะพื้นที่ จึงให้มีการกำหนด  เขตพัฒนาพิเศษด้านสุขภา  ขึ้น เพื่อให้มีการสร้างกลไกการบริหารรองรับที่หมาะสมกับบริบทเฉพาะพื้นที่สำหรับเขตพัฒนาพิเศษด้านสุขภาพเพื่อบรรลุเป้าหมาย ประชาชนสุขภาพดี ข้าถึงระบบบริการสาธารณสุขที่ได้มาตรฐานและเป็นธรรม ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมและบูรณาการกันสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปีแผนการปฏิรูปประทศด้านสาธารณสุข และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ของกระทรวงสาธารณสุข

           
นายอนุทินฯ กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่นั้น เป็นนโยบายที่ต้องการให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้รับการรักษาพยาบาลได้ทุกาถานพยาบาลในประเทศไทย  สามารถรักษาได้ทุกที่  ทุกแห่ง  เนื่องจากระบบการรักษาพยาบาลของประเทศไทยเป็นระบบที่ใหญ่  จึงจำเป็นต้องค่อยเป็นค่อยไปในการเปิดให้การบริการ  ซึ่งพื้นที่เขตสุขภาพที่ 9 ภาคอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย  บุรีรัมย์ สุรินทร์ ชัยภูมิ โคราช นั้น ถือว่ามีความพร้อมจึงจะเป็นพื้นที่นำร่อง  และจะมีการขยายไปยังพื้นที่อื่น  คาดว่าจะเริ่มดำเนินการ ต้นปี 2564 โดยตั้งเป้าปี 2565  จะครอบคลุมทุกพื้นที่   ประชาชนที่ใช้บริการจะไม่ได้รับผลกระทบ  ประชาชนมีแต่จะได้ประโยชน์จากโครงการนี้