เมื่อเวลา 08.30 น. นาย เอ (นามสมมุติ) อาชีพนักธุรกิจ ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ประมาณต้นเดือนสิงหาคม 2560 นายวรวรรษณ์  มาชักชวนให้ทำธุรกิจเครือข่ายชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง จากการพูดคุยนายวรวรรษณ์ แนะนำว่า เพื่อให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วยิ่งถ้ามีเงินทุนก็จะประสบความสำเร็จอย่างง่ายๆ โดยให้ทางเราใช้เงินทำงาน ส่วนตัวเขาเองจะหาและมีทีมงานที่เป็นมืออาชีพในการทำธุรกิจนี้หลายทีมมากๆ (มดงานที่เป็นมืออาชีพในธุรกิจนี้)เพียงแต่เราเสนอและให้โอกาสเขาเหล่านั้นตามความสามารถของแม่ทีมว่ามีสมาขิกที่พร้อมรับโอกาสกี่คน 

 

จากนั้นจัดการรวบรวมสมาชิกทั้งหมดจัดประชุมเพื่อกำหนดเป้าหมายและทิศทางให้สมาชิกทุกคนสร้างองค์กร ขับเคลื่อนโดยการจัดประชุมทั้งกลุ่มใหญ่และกลุ่มย่อยตามผู้นำทีมจัดขึ้น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายตามหลักฐานการโอนเงินที่แนบมาด้วยนี้ และต้องดำเนินการให้เรียบร้อยไล่เรียงไปตามลำดับอย่างต่อเนื่องตามแผนและข้อตกลงที่คุยกันมาตามลำดับจึงจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ แต่ทว่านายวรวรรษณ์ ไม่ได้ทำตามเป้าหมายและขั้นตอนดังกล่าวกับนำเงินไปใช้ในกิจการอย่างอื่น เมื่อติดตามทวงถามก็บอกว่าจะรับผิดชอบเงินจำนวนดังกล่าวให้ทั้งหมด เพียงแต่ขอเวลารอเงินก้อนใหญ่ที่กำลังจะได้รับคืนให้ทั้งหมดตั้งแต่เดือน มกราคม-มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่เป็นไปตามที่นัดหมายแต่อย่างใด แผนการสร้างทีมทำธุรกิจก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ติดต่อทางโทรศัพท์หรือทางไลน์ก็ไม่รับไม่ดูบ่ายเบี่ยงไม่ยอมพบพูดคุย 

 

ข้าพเจ้าได้เขียนจดหมายลงทะเบียนส่งไปถึง 3 ฉบับให้ติดต่อกลับมาก็ไม่เป็นผล จึงนำเรื่องดังกล่าวมาแจ้งความเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษตามรายละเอียดดังกล่าวซึ่งเจ้าหน้าที่ สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ได้รวบรวมหลักฐาน ส่งหมายเรียก 2 ครั้ง และขออำนาจศาลออกหมายจับนายวรวรรษณ์ ในข้อหา ฉ้อโกง ตั้งแต่เดือน ก.ค 63 ยังไม่สามารถติดตามตัวได้และยังมีผู้เสียหายอีกหลายคนถูกหลอกลวงในลักษณะต่างๆกันไป หลายรูปแบบสุดท้ายก็สูญเงินรวมกันไปกว่าร้อยล้านบาท และได้แจ้งความไว้แล้วตามส.น ต่างๆเท่าที่ทราบนายวรวรรษณ์ เปลี่ยนทั้งชื่อ และนามสกุล มา2-3ครั้งแล้วนับเป็นภัยสังคมที่ยังลวยนวลและจะสร้างความเสียกับผู้อื่นอีกนับไม่ถ้วนถ้าบุคคลผู้นี้ยังไม่ถูกควบคุมตัว