วันพฤหัสบดี ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2568 02:55 น.

ภูมิภาค

บุกพิสูจน์ศาลต้นโพธิเฮี้ยน ล่ำลือมีเสียงช้างร้อง ได้ยินแต่จิ้งหรีดร้องระงม

วันศุกร์ ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 13.35 น.
เมื่อเวลา10.00 น. วันที่ 27 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี รายงานข่าวคืบหน้า หลังจากที่เมื่อปีที่ผ่านมา  ริมถนนในหมู่บ้านโคกสว่าง    ชาวบ้านมีการนำศาลพระภูมิ ,ซากปรักหักพังของเทวรูป,พระพุทธรูป, ไปทิ้งริมถนน  เป็นจำนวนมากใกล้ต้นโพธิ์ – ศาลริมถนน  ภายหลังมีเสียงร่ำลือว่า  มีเสียงเด็กร้อง  และกล่าวขานเป็นอภิ นิหารจากกุมารทองที่ถูกนำมาทิ้ง  เป็นข่าวผ่าน “สื่อ”  โด่งดังไปทั่วพร้อมมีการทรงเจ้า  หาเลขเด็ด  และ  หนุ่ม-สาวชาวบ้านที่ทำงานย่านนิคมอุตสาหกรรมที่ต้องผ่านถนนสายที่ตั้งต้นโพธิ์ – ศาลเจ้าเกิดความสะพรึงกลัวในยามค่ำคืน   จนต้องมีการทำพิธีสงฆ์  ย้ายต้นโพธิ์ –  ตั้งศาลใหม่   ห่างจากริมถนนกว่า 20เมตรเศษ  ให้เกิดความเรียบร้อยในชุมชน   แต่ต่อมาได้มีคนถูหวย  แล้วนำช้างพลาย ปูนปั้นขนาดเท่าช้างตัวจริงสูงกว่า 1.50 เมตรมาตั้งไว้ราว 1 เดือนเศษ พร้อมกับมีข่าวลือ มีเสียงช้างร้อง  ในบริเวณต้นโพธิ์เก่าแก่ – ศาลดังกล่าวผ่าน “สื่อ”  อีกครั้งหนึ่ง ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี จึงได้บุกพิสูจน์  “ข้อเท็จจริง”  เมื่อวันที่ 26 พ.ย.63  โดยไปอยู่ที่ศาลต้นโพธิ์เฮี้ยน   ซึ่งมีคนได้ยินเสียงช้างร้องตามลำพังคนเดียวตลอดทั้งคืนจรดรุ่งเช้า  ไม่พบสิ่งผิดปกติ  หรือ มีเสียงช้างร้องแต่อย่างใด ตามที่ได้นำเสนอรายละเอียด  ก่อนหน้านี้นั้น    
 
ความคืบหน้าล่าสุด เพื่อพิสูจน์ความจริง!อีกครั้ง ในคืนนี้ จึงได้บุกสำรวจที่ศาล–ต้นโพธิ์เป็นคืนที่ 2 ที่ในหมู่บ้านโคกสว่าง ม.7 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  โดยผู้สื่อข่าวซุ่มเฝ้าบริเวณต้นโพธิ์ ข้าง ๆ ศาล ตั้งแต่เวลา 22.00น.เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากคืนแรกได้เฝ้าทั้งคืน ไม่พบเสียงร้องของช้าง ตามที่มีคนได้ยินว่ามีเสียงช้างร้อง
 
จากการสอบถามชาวบ้านโคกสว่างหลายคนบอกว่า  ได้ยินคนพูดว่าได้ยินเสียงช้างร้อง ที่ต้นโพธิ์แต่ไม่สามารถระบุตัวตนบุคคลได้ว่าเป็นใคร ชาวบ้านบางคน กล่าวว่า คนที่พูดว่าได้ยินเสียงช้างร้อง ที่ต้นโพธิ์นั้นไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะพอรู้ตัวว่าบุคคลดังกล่าวนั้น มีอาการหลอนไปเอง ซึ่งไม่ขอพูดเรื่องส่วนตัวของเขา 
 
โดยในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้มีการแอบซุ่มฟังเสียงช้างร้องอีกคืนหนึ่งท่ามกลางบรรยากาศความมืดทั้งคืน ไม่พบมีเสียงใดๆ นอกจากเสียงจิ้งหรีด ,เรไร กระทั่ง เวลา 04.30 น. ค่อนรุ่ง (27 พ.ย.) ก็ยังไม่มีเสียงช้างร้องแต่อย่างใดกระทั่งเวลา 05.00 น.ยังไม่ได้เสียงช้างร้อง จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ไปนมัสการสอบถามพระครูอรุณ จันทวงศ์ เจ้าอาวาสวัดโคกสว่าง เจ้าอาวาสกล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองเป็นคนในพื้นที่นี้คนหนึ่งเช่นกัน เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง ที่มีข่าวว่ามีโยมได้ยินเสียงช้างร้องที่ศาล-ต้นโพธิ์ดังกล่าว
 
ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ที่มีการได้ยินเสียงเด็กร้อง ที่บริเวณต้นโพธิ์ ซึ่งห่างจากปากทางเข้าหมู่บ้านที่มีบ้านอยู่ประมาณ 10 กว่าหลังคาเรือน     ดังนั้นคนที่ได้ยินเป็นผู้หญิงในหมู่บ้านฉันนี้ซึ่งมีอาการหลอนไปเอง และ ตกเป็นข่าวโด่งดังมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้ ตรงบริเวณดังกล่าว มีคนนำศาลพระภูมิเก่า ตลอดจนเทวรูป พระพุทธรูปที่ปรักหักพังต่างๆ มาทิ้งวางไว้ที่ข้างต้นโพธิ์เป็นจำนวนมาก ต่อมาทางการไฟฟ้าแรงสูงตัดผ่านตรงจุดที่ต้นโพธขึ้นอยู่   จึงทำการตัดแนวป่าบริเวณนั้นออก รวมถึงต้นโพธิ์ขนาดใหญ่จะต้องขุดออก เพื่อความปลอดภัยเนื่องจากสายไฟฟ้าแรงสูงตัดผ่าน เกรงว่าจะมีการเสียดสีกับสายไฟฟ้าแรงสูง
 
ขณะเดียวกันมีคนขอไม่ให้ขุดต้นโพธิ์ทิ้ง จึงนำเอาไปขุดปลูกไว้ ซึ่งอยู่ห่างจุดเดิมไปประมาณ 20 เมตร และมีการขนย้ายศาลพระภูมิและเทวรูปต่างๆออกไปไว้ที่ใต้ต้นโพธิ์ด้วย จึงเป็นที่มาของการขอเลขขอหวย ตามความเชื่อของบรรดาญาติโยม ที่ชอบเสี่ยงดวง ประกอบกับมีการเข้าทรงเพื่อขอโชคลาภ    จึงเป็นที่มาของความเชื่อต่างๆ และมีการนำรูปปั้นช้าง 2 ตัวมาตั้งไว้ ที่บริเวณดังกล่าวเป็นความเชื่อของส่วนบุคคลที่ไม่กี่คน ซึ่งมีการโยงถึงเรื่องเลขเด็ดจากเกจิอาจารย์ดัง
 
จึงมีการโจทย์ขานกันในกลุ่มเล็กๆ ที่จุดบริเวณนี้ อาทิ ใบ้ - ให้เลขเด็ด นอกจากนี้ยังมีการจัดฉาก เพื่ออยากดังเรียกคนดู เพื่อที่จะมาสถานที่ตรงนี้   โดยอาศัยความเชื่อ – สิ่งเร้นลับ! เรื่องที่มีคนได้ยินเสียงช้างร้องนั้น น่าจะเกิดจากคนๆเดียว ที่เป็นต้นเรื่อง เรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นจริงอย่างที่มีกระแสข่าว   ว่าได้ยินเสียงช้างร้อง แปร่น ๆๆ ที่บริเวณศาลต้นโพธิ์
 
จุดสำคัญของเรื่องนี้ คือผู้สื่อข่าวได้มาสังเกตการณ์โดยได้แอบซุ่มดูอยู่ถึง 2 คืนติดต่อกันซ้อนเพียงลำพังหนึ่งเดียว แต่ก็ไม่ปรากฏได้ยินเสียงช้างร้อง ตามที่มีการกล่าวอ้างเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา จึงเชื่อได้ว่า เป็นการจัดฉาก จากคนไม่กี่คน จึงอยากจะฝากขอให้ทุกคนได้หยุดและฉุกคิด ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า มันเป็นไปได้หรือไม่ มากน้อยแค่ไหน  การที่ผู้สื่อข่าวแอบมาซุ่มฟังเสียงช้างร้องทั้ง 2 คืน แต่ไม่ปรากฏว่าได้ยินเสียงช้างร้องนั้น พิสูจน์ได้แล้วตามหลักเหตุ –ผล    ว่าไม่มีเรื่องน่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้นแต่อย่างใด หากมีสิ่งลี้ลับเกิดขึ้นจริง   หรือมีเสียงช้างร้องอย่างที่กล่าวอ้างนั้น คิดว่าผู้สื่อข่าวที่มาคนเดียว เฝ้าดูทั้ง 2 คืน    ไม่ได้ยินเสียงช้างร้องแต่อย่างใด เป็นการจัดฉากจากคนสร้างกระแสให้คนตื่น

หน้าแรก » ภูมิภาค