วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568 11:35 น.

ภูมิภาค

ร้องสื่อถูกหลอกขายหินกินเหล็ก สูญเงินเฉียดล้านบาท

วันจันทร์ ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2564, 16.01 น.

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่บ้านหลังหนัง ในเขต บ้านเขื่อนหมู่ 4 ต.เขื่อน อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม พบกับนางสาวพิยุวารี คุรุโคตร และนายไพฑูรย์ คุรุโคตร ซึ่งถูกพระรูปหนึ่ง ที่ จ.หนองคาย เสนอขาย หินกินเหล็ก แร่เหล็กเสริมบารมี ก่อนนัดเจอและทดลอง เชื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนโอนเงินซื้อขายหลายครั้งสูญเงินเกือบล้านบาท ก่อนเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.โกสุมพิสัย แต่คดีไม่คืบ
 

นางสาวพิยุวารี คุรุโคตร ลูกสาวผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2563 มีบุคคลโทรศัพท์เข้ามาหาพ่อ คือ นายไพฑูรย์ คุรุโคตร บอกว่ามีหินกินเหล็ก มาเสนอขาย มีใครอยากได้หรือไม่ ซึ่งพ่อตนมีความเขื่อเรื่องพวกนี้  จึงได้บอกว่ามี ซึ่งพ่อตนมีอาชีพรับเหมาสร้างโบสถ์ สร้างศาลาตามวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ มาทราบภายหลังว่าผู้ที่โทรศัพท์เข้ามาเป็นพระรูปหนึ่ง อยู่ที่ จ.หนองคาย ก่อนจะนัดเจอกัน โดยได้นำหินกินเหล็กมาด้วย ก่อนจะทำการทดลองด้วยการนำตะปู มาวางไว้บนหินประมาณ 1-2 นาที จากนั้นพระก็ได้หยิบตะปูขึ้นมา ก่อนจะหักออกเป็น 2 ท่อนอย่างง่ายดาย ทำให้พ่อหลงเชื่อว่าสิ่งที่เห็นเป็นหินกินเหล็กจริง โดยพ่อบอกว่าหินกินเหล็ก มีการซื้อขายกันในตลาดมืดราคาสูงกิโลกรัมละ 2,500 ล้านบาท โดยจะซื้อเพื่อนำไปขายให้นายทุนที่ต้องการแร่เหล็กชนิดนี้ไปเสริมบารมี โดยได้ทำการโอนเงินให้กับพระรูปดังกล่าวหลายครั้ง มีบัญชีที่โอนไปทั้งสิ้น 3 บัญชี รวมเป็นเงินเกือบ 1 หนึ่งล้าน


นานวันเข้าก็เริ่มรู้แล้วว่าโดนพระหลอก จึงได้เจรจาขอเงินคืนหลายครั้งแต่ก็ถูกพระบ่ายเบี่ยง จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.โกสุมพิสัย เมื่อเดือน สิงหาคม 2563 ก่อนที่ร้อยเวรเจ้าของคดีจะติดต่อให้พระมาเจรจา ซึ่งจากการเจรจานั้นพระสัญญาว่าจะชดใช้เงินคืนจำนวนเงิน 700,000 บาท แต่เวลาล่วงเลยมาจนถึงวันนี้ก็ไม่สามารถติดต่อพระได้ อีกทั้งเกรงว่าคดีไม่คืบหน้าจึงได้มาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว


ด้านนายไพฑูรย์ คุรุโคตร พ่อของ นางสาวพิยุวารี คุรุโคตร เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเรื่องทั้งหมดก็มาฉุกคิดได้ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เหมือนเป็นการจัดฉาก ที่ว่ามีคนมาบอกตนว่าต้องการหินกินเหล็ก จากนั้นก็มีโทรศัพท์จากพระโทรเข้ามาเสนอขายหินกินเหล็ก ซึ่งตนทำงานเกี่ยวกับวัดวา สร้างโบสถ์ สร้างศาลา ทำให้เชื่อว่า พระพูดความจริง พระไม่โกหก จึงได้เชื่อเรื่องนี้อย่างสนิทใจ แต่ต่อมาก็พบว่ามันไม่ใช่ ตนถูกหลอก จึงอยากฝากเตือนทุกคนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ  ล่าสุดได้โอนเงินมาหแล้ว 100,000 บาท ยังเหลืออีก 600,000 บาท 

 

ด้าน ร.ต.อ.สุพิส วิชัย พนักงานสอบสวน สภ.โกสุมพิสัย ให้ข้อมูลว่า เรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่ไม่นิ่งนอนใจ มีการะประสานผู้เสียหายให้เข้าให้ข้อมูล และออกหมายเรียกพระ และบุคคลอีก 2 คนเป็นหญิง 1 คน และชาย 1 คน มาพบพนักงานสอบสวน โดยหมายเรียกได้ออก 2 ครั้ง พระเดินทางมาในครั้งที่ 2 และเป็นตัวแทนของหญิงที่เป็นเจ้าของบัญชี ส่วนชายอีกคน ยังไม่ได้รับหมายเรียก ทั้งนี้ พระและผู้เสียหายได้มาเจรจากันที่ สภ.โกสุมพิสัยแล้ว เมื่อเดือน ธันวาคม 2563 โดยเจรจาตกลงกันที่พระจะชดใช้เงินให้ผู้เสียจำนวนเงิน 700,000 บาท ในกรอบเวลาที่กำหนด ซึ่งหากพระไม่ยอมจ่ายเงินคืน ขอให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้พนักงานสอบสวน ขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไป

หน้าแรก » ภูมิภาค