วันที่ 14 มกราคม นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่หน่วย หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ กจ.3 (ห้วยป่าเลา) ร่วมกับ กจ.14 (ห้วยสัตว์ใหญ่) และทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก ดูแลความปลอดภัย ช้าง-คน บริเวณพื้นที่ที่ล่อแหลมที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาช้างป่าเดินข้ามถนนในช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวและชุมชนในพื้นที่สัญจรไปมาตามถนนเส้นทางอ่างเก็บน้ำบ้านป่าละอู-พุไทร ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบช้างรุ่นจำนวน 2 ตัว ออกหากินอยู่ชายป่าข้างถนน จึงได้ผลักดันให้ช้างกลับเข้าป่าไป ขณะเดียวกันหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.16 (ห้วยป่าแดง) ที่ดูแลปัญหาช้างป่าเข้ามาหากินในพื้นที่หมู่ 3 และหมู่ 7 ตำบลป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน รายงานพบช้างป่าจำนวน 26 ตัว ช้างแรกเกิด 4 ตัว ช้างรุ่นไม่มีงา 9 ตัว ช้างใหญ่มีงา 1ตัว ช้างใหญ่ไม่มีงา 12 ตัวลงเล่นกินน้ำในสระไร่ปิ่นมุขอย่างสนุกสนานท่ามกลางอากาศหนาวเย็น เจ้าหน้าที่ต้องคอยดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวที่จอดรถพาเด็กๆชมและเซลฟี่ภาพช้างเก็บไว้ดู พร้อมทั้งเฝ้าระวังไม่ให้ช้างออกนอกรั้วไปหากินในชุมชน

นายมานะ กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานยังเปิดให้เข้าชม ยกเว้น บ้านโป่งลึก-บางกลอย แหล่งชมวัฒนธรรมวิถีชีวิตของชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยงกะหร่างที่ทางชุมชนร้องขอให้ปิดเนื่องจากพื้นที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยทางอุทยานฯได้จัด จนท. 4 ชุดร่วมกับกองกำลังสุรสีห์ ออกเดินเท้าลาดตระเวนและบินสำรวจเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองและโรคโควิด-19 ขณะที่ น้ำตกป่าละอู แหล่งท่องเที่ยวดัง อ.หัวหิน มีนักท่องเที่ยวน้อย ทำให้สัตว์ป่าออกหากินโดยไม่หวาดระแวง สำหรับ “พลายบุญมี” ช้างที่ชอบหากินในพื้นที่ชุมชน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ที่ทางอุทยานได้เสนอเรื่องให้ติดปลอกคอติดตามตัวสัตว์สัญญาณดาวเทียม (GPS Collar) เพื่อทราบเส้นทางการเคลื่อนที่แต่ยังไม่สามารถติดปลอกคอได้ มาระยะหลังพบว่า “พลายบุญมี” ไม่ค่อยออกมารบกวนชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯคอยผลักดันตลอด 24 ชม.