วันพฤหัสบดี ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 06:52 น.

ภูมิภาค

เปิดใจ "นกน้อย อุไรพร" ขายคฤหาสน์ตองห้า 70 ล้าน รักษาสามีป่วย-ใช้หนี้

วันศุกร์ ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2564, 20.12 น.
ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานี รายงานว่า จากกรณีนางอุไร ฉิมพลี หรือนกน้อยอุไรพร ได้แถลงข่าวผ่านเพจเฟสบุ๊ค เสียงอิสาน นกน้อย อุไรพร เล่าความในใจหลายเรื่องว่า ถือเป็นการพูดเปิดใจ แถลงข่าวให้แฟนเพลงหมอลำเสียงอิสานได้รับทราบ หลังจากที่ยื้อเวลามาเกือบเดือนที่คุณพ่อหลอด หรือนายมัยกิจ ฉิมหลวง อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นสามีป่วยหลายโรค ทั้งความดัน เบาหวาน โรคไต โรคตับ จนต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล และมาปีนี้ทางคณะเสียงอีสานเตรียมเดินสายเปิดวงก็มาเจอโควิดรอบที่ 2 แต่โควิดรอบนี้คิวการแสดงของคณะเสียงอีสานกว่า 100งานถูกยกเลิกทั้งหมดไปถึงปี 2566
 
 
ต่อมาในวันที่ 15 ม.ค. 64 เวลา 16.00 น.ที่บ้านพักเลขที่ 555 บ้านหนองใส ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี นางอุไร ฉิมหลวง หรือนกน้อย อุไรพร ศิลปินลูกทุ่งหมอลำ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวครั้งแรกว่า ขณะนี้อาการของสามีล่าสุดมีอาการดีขึ้น ไม่มีภาวะติดเชื้อ และย้ายมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลอุดรธานี สำหรับบ้านที่ประกาศขายไปตัวบ้านพร้อมที่ดินมีพื้นที่ 4 ไร่กว่า ซึ่งยังไม่รวมพื้นที่ทั้งหมดที่มีราว 50 ไร่ บ้านหลังนี้สร้างขึ้นประมาณปี 2538 แล้วเสร็จปี 2550 ใช้เงินสร้างตอนนั้นประมาณ 100 ล้านบาท ใครสนใจก็มาพูดคุยได้ ตอนนี้มีคนสนใจติดต่อเข้ามาเยอะมากทั้งนายหน้าและนายทุน แต่ยังไม่สามารถตกลงราคากันได้ “ในใจคิดว่าจะขายเฉพาะบ้านพร้อมที่ดิน 4 ไร่ ประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งหากขายบ้านได้จะนำเงินไปรักษาอาการป่วยตัวสามี และจะนำเงินไปใช้หนี้ ซึ่งทั้งหมดตอนนี้มีหนี้ประมาณ 30 ล้าน ส่วนที่เหลือก็จะนำไปสานต่อคณะหมอลำเสียงอีสานต่อไป
 
 
แม่นกน้อย บอกอีกว่า สำหรับวงเสียงอีสานนั้นขอยืนยันยังจะคงอยู่ยังไม่มีการยุบวง” จากผลกระทบ covid 19 ทั้ง 2 รอบ ต้องยอมรับว่ามีผลกระทบเป็นลูกโซ่ยาว รอบแรกยังทนผ่านมาแล้ว และดีที่มีโครงการพักชำระหนี้ช่วยเหลือ พอมาการระบาดของเชื้อโควิชรอบ 2 งานที่รับไว้รับไปแล้วร้อยกว่าคิวงานก็ยกเลิกเลื่อนไปเป็นปี 2566 คิดเป็นความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งไม่นับความเสียหาย ที่โควิดรอบที่ 1
ตอนนี้ได้กำลังใจจากคนวงการเดียวกันจำนวนมากมาให้กำลังใจ ทุกคนทุกคณะพร้อมที่จะจัดงานคอนเสิร์ตเพื่อหารายได้ช่วยเหลือในวันที่ 19-20 มกราคมนี้ โดยจะจัดการแสดงสดไม่มีการขายบัตรและถ่ายทอดผ่านสื่อโซเชียลทุกแพลตฟอร์ม ณ บ้านเลขที่ 555 สำหรับใครที่อยากจะช่วยเหลือก็สามารถเข้ามาชมได้ที่เพจ เสียงอิสาน นกน้อย อุไรพร หากชื่นชอบผลงานสามารถมอบมาลัยน้ำใจ โดยโอนเงินเข้าบัญชีได้ตามหมายเลขที่ขึ้นหน้าจอที่จะรับชม ในวันนั้นเวลา 18:00 น ถึง 01:00 น ทั้งนี้มีศิลปินตอบรับมาแล้ว อาทิ ฝนธนสุนทร ระเบียบวาทศิลป์ ประถมบันเทิงศิลป์ วีระพงษ์วงศ์ศิลป์ เป็นต้น
 
 
ด้านนายบุญล้อม หงทอง อายุ 32 ปี ดาราตลก เจ้อ้วนสาวปะโค เปิดเผยว่า ถึงแจะมาอยู่วงเสียงอีสานได้แค่ 2 ปี เราก็มีผูกพัน จำความได้สมัยนั้นเรารู้จักวงนกน้อยเสียงอีสานตอนประถม 5 ตอนนั้นเสียงอีสานก็โดงดังมากก็เลยอยากมาอยู่ ฤดูกาลแสดงปี 2564 นี้ เพิ่งออกงานแสดงได้เกือบ 2 เดือน หลังรู้ข่าวว่าคุณแม่นกน้อยจะขายบ้านรู้สึกหดหู่ใจ ไม่อยากให้แม่ขายบ้าน ความรู้สึกที่มีต่อแม่นั้นส่วนตัวแม่นกฯ เป็นคนใจดีนะรักทุกคนในวง เมื่อไม่มีการแสดงช่วงนี้ลูกๆในวง ไม่ว่าจะเป็นตลก คอนวอย หางเครื่อง ตอนนี้หันมาค้าขายอาหารหน้าบ้านเลขที่ 555 เพื่อหารายได้เลี้ยงดูตัวเองไปก่อน บอกตามตรงอีกครั้งรู้สึกหดหู่ใจมากที่แม่ต้องประกาศขายบ้านเพื่อมาต่อลมหายใจหมอลำชื่อดัง ตนเองมาอยู่กับคณะเสียงอีสานได้เพียง 2 ปีแม่นกน้อยเห็นแววเป็นตลกได้จึงจับขึ้นเวทีเป็นดาวตลกในวงทันที
 
 
ส่วนนางรัตนพร วรงค์ อายุ 58 ปีและนายสมรชัย วรงค์ อายุ 63 ปี ชาวอ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ และเป็นสองสามีภรรยาที่มาอยู่กับแม่นกน้อยตั้งแต่ พ.ศ.2537 รวม 27 ปี เปิดเผยว่า เป็นลูกพี่ลูกน้องกับแม่นกน้อย มาอยู่กับแม่นกน้อยสมัยวงดังมากช่วงนั้น ก็มาช่วยแม่นกน้อยเป็นแม่บ้านและสามีเป็นพ่อบ้านทำงานทุกอย่าง ไม่มาเงินเดือนแต่เรามาอยู่แบบเป็นพี่เป็นน้องกัน มีอะไรก็กินด้วยกัน แต่มาเจอวิกฤติโควิดสงสารแม่นกน้อยมาก อยากให้มีวงหมอลำเสียงอีสานต่อไปคู่วัฒนธรรมอีสาน ไม่อยากให้วงเสียงอีสานต้องยุบไปกับโควิดเลย

หน้าแรก » ภูมิภาค