วันที่ 29 ม.ค.64 ที่วัดปราสาทเทพนิมิต บ้านหนองเกาะ ต.ตระเปียงเตีย อ.สำดวน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดดังกล่าว หลังจากเมื่อวานนี้ (28 ม.ค.64) เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ 4 /2564 ลงวันที่ 26 มกราคม 2564 มาทำการตรวจค้นโกดังไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 6 ซอยดอนหมี -กกเพือง ตำบลมุกดาหาร อ. เมือง จังหวัดมุกดาหาร โดยต้องสงสัยว่าเป็นที่เก็บซุกซ่อนไม้พะยูงผิดกฎหมายไว้ในสถานที่ดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พบกับนายกิตติทัศน์ พิริยะศิริฉัตร อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 79 หมู่ 20 ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ได้นำเอกสารมาแสดงรายการไม้พะยูงและรับว่า เป็นเจ้าบ้าน และเป็นผู้ครอบครองสถานที่ดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงหมายค้นให้ดูและตรวจสอบ โดยนายกิตติทัศน์ ได้พาเจ้าหน้าที่ตรวจไม้พะยูงดังกล่าว

 

จากการตรวจสอบ พบว่า ไม้พะยูงแปรรูปจำนวน 101 ท่อน ใกล้เคียงสอดคล้องกับเอกสารที่นำมาแสดง ซึ่งเจ้าหน้าที่ ได้ไปตรวจสอบตอไม้พะยูง ทั้ง 7 ตอ ที่วัดปราสาทเทพนิมิต อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ ตามที่กล่าวอ้างว่าได้ซื้อไม้ทั้งหมดมาจากวัดในจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีลักษณะค่อนข้างใหม่ และหน้าตัดตอ มีรูปลักษณ์สอดคล้องกับภาพถ่าย และหลักฐานที่นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกการตรวจค้นไม้พะยูงในโกดังดังกล่าว เพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบไม้พะยูงต่อไป

 

 

จากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าว ในบริเวณวัดปราสาทเทพนิมิต บ้านหนองเกาะ ต.ตระเปียงเตีย อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ พบว่าด้านหลังจากกุฏิที่พักพระภิกษุ พบว่าเป็นพื้นที่ป่าไม้มีต้นไม้ขนาดใหญ่ ขึ้นในพื้นที่ค่อนข้างหนาแน่น และพบว่า มีเศษกิ่งไม้ของต้นพะยูง ถูกตัดทอนออกเป็นท่อนๆ อยู่จำนวนหนึ่ง และที่ใช้งานไม่ได้ก็จะถูกเก็บเผาทิ้ง เพื่อทำความสะอาดพื้นที่บริเวณโดยรอบกุฏิพระสงฆ์ และพบตอไม้พะยูงที่ถูกตัดโค่นลงไปแล้ว 7 ตอ ลำต้นได้ถูกขายไปแล้ว เหลือแต่ตอ

 

จากการสอบถามพระสงฆ์ลูกวัดและโยมที่ทำความสะอาดเผากิ่งไม้ ทราบว่า ทางกรรมการวัด ชาวบ้าน ทำประชาคม ได้มีมติขายไม้พะยูง ไปจำนวน 7 ต้น ในราคา  2,200,000 บาท  โดยได้ขายไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่เนื้อไม้สวยงาม เพราะที่ผ่านมา มีโจรเข้ามาขโมยลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตวัดไปแล้วถึง 8 ต้น เป็นต้นไม้พะยูงขนาดใหญ่สวยงาม ขณะที่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ไม่สามารถทำอะไรโจรได้เลย เพราะกลุ่มโจรมากันไม่ต่ำกว่า 7 คน พร้อมอุปกรณ์ตัดไม้แถมมีอาวุธสงคราม คุ้มครอง กลุ่มโจร ให้สามารถ ตัดต้นไม้พะยูงได้อย่างสบาย  ชาวบ้านและทางวัดทำอะไรไม่ได้เลยกลัวอันตราย

 

 

ทางด้านพระครูนิมิตสุทธิวงศ์ เจ้าอาวาสวัดปราสาทเทพนิมิต กล่าวว่า การที่ทางวัดได้ขายไม้พะยูงภายในวัดไปจำนวน 7 ต้น ทางวัดและทางกรรมการวัด ชาวบ้าน ได้ทำการประชาคม กันแล้วมีมติขายต้นไม้พะยูง จำนวน 7 ต้น ครั้งแรก ในราคา หนึ่งล้านสองแสนบาท ทางกรรมการวัดเลยขอเพิ่มจำนวนเงินขึ้นไปอีก เป็นสองล้านสองแสนบาท เงินที่ได้จะนำมาทำบุญให้หลวงพ่อ เพื่อนำเงินมาสร้างมณฑป บรรจุสรีระสังขาร พระครูสุเทพจันสาร เจ้าอาวาสวัดรูปเดิม ที่ท่านได้มรณภาพ ไปตั้งแต่ปี 2541 เป็นเวลา กว่า 22 ปี แล้ว ตอนนี้ยังไม่มีทุน ก็พูดกันมานานว่าจะทำมณฑป ให้หลวงพ่อ แต่ไม่ได้ทำสักที ส่วนไม้ที่ขายไปนี่เพราะที่ผ่านมา ไม้พะยูงมันหายไปที่ต้นสองต้น มีคนมาลักลอบตัดมากว่า 8 ต้น เลยทำการประชาคมหมู่บ้านว่า ไม้พะยูงที่หายไปไม่เกิดประโยชน์อะไร เรามาขายนำเงินมาทำมณฑป ให้หลวงพ่อจะดีไหม ทุกคนก็เห็นดีด้วย เพราะพื้นที่วัดมีโฉนด และกฎหมายใหม่ที่ออกมาจากไม้พะยูงเป็นไม้หวงห้ามมาเป็นไม้ที่ไม่หวงห้าม เราเลยกล้าขาย ก่อนขายมีการหารือกันปรึกษากันตอนนี้เงินอยู่กับคณะกรรมการวัด ตอนนี้กำลังออกแบบเขียนแบบถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็จะสร้างมณฑปให้หลวงพ่อเงินสองล้านสองแสนคิดว่าคงไม่พอ ต้องบอกลูกหลานชาวบ้านที่ทำงานต่างจังหวัด ให้ช่วยกันทำผ้าป่าช่วยกันสร้างมณฑปให้หลวงพ่อ ต่อไป