วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 09:17 น.

ภูมิภาค

เดินหน้า “Huahin Recharge” หวังดึง นทท.ต่างชาติ สร้างรายได้ในพื้นที่กว่าพันล้านบาท

วันจันทร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2564, 19.36 น.

 

เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมหารือโครงการ Huahin Recharge แผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่เทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีคณะทำงานโครงการประกอบด้วย นายกรด โรจนเสถียร กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมสปาไทย ประธานโครงการภาคเอกชน นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ สาธารณะสุข จ.ประจวบฯ ประธานโครงการภาครัฐ นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ เข้าร่วมประชุม

 


โครงการ Hua Hin Recharge เป็นความร่วมมือของภาครัฐ การท่องเที่ยว โรงพยาบาลและสาธารณสุข และภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการ อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ธุรกิจรถเช่า บริษัททัวร์ ฯลฯ ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมกันสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนในพื้นที่ รวมไปถึงการขอความเห็นชอบจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้พื้นที่เทศบาลเมืองหัวหินเป็นพื้นที่ที่ได้รับการพิจารณาการจัดสรรวัคซีนอย่างเร่งด่วนโดยสามารถให้การฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.64 เป็นต้นไปและครบถ้วนตามเป้าหมาย (70% ของประชากรในพื้นที่) ภายใน 30 กันยายน 64 เพื่อกำหนดพื้นที่เทศบาลเมืองหัวหินเป็นพื้นที่ที่สามารถเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน ให้สามารถเดินทางมาพักในพื้นที่ได้โดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 64 เป็นต้นไป อันจะนำมาซึ่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการจ้างงานทั้งในพื้นที่และภาพรวมของประเทศ

 

 

นอกจากนี้ “หัวหิน” ยังเป็นพื้นที่ที่มีชาวต่างชาติที่มาพักอาศัยระยะยาวและวัยเกษียณอายุพักอาศัยอยู่จำนวนมาก การกักตัวนับเป็นอุปสรรคที่ทำให้การเดินทางของญาติมิตรของชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาสร้างรายได้แก่พื้นที่หดหายไปด้วย ซึ่งทางภาคเอกชนหัวหินได้รับข้อมูลจากคู่ค้าบริษัททัวร์รายใหญ่ในต่างประเทศว่า ลูกค้าชาวต่างชาติมีความประสงค์ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่หัวหินอย่างแน่นอน หากการกักตัวถูกยกเลิก ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติยินดีให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆก่อนการเดินทางมายังประเทศไทย อาทิ ฉีดวัคซีนป้องกันให้ครบถ้วน ตรวจเพื่อแสดงการปลอดเชื้อและอื่นๆ ซึ่งคาดการว่าหากเมืองหัวหินสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวได้ภายใน 1 ตุลาคมนี้ ในช่วงไตรมาสที่ 4 เดือนตุลาคม - ธันวาคม 64 จะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเดินทางเข้ามาถึง 100,000 คน สร้างรายได้แก่พื้นที่กว่า 1,200 ล้านบาท นับเป็นการพลิกฟื้นชีวิตให้แก่ผู้ประกอบการ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านค้า และธุรกิจในทุกภาคส่วน รวมถึงพนักงานและแรงงานในภาคธุรกิจบริการอีกกว่า 89,000 คน

 


ดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์ เอส.เอ็ม.อี.ประจวบคีรีขันธ์ เลขาธิการโครงการ Hua Hin Recharge เปิดเผยว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ อ.หัวหิน ยังมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มต่อเนื่อง ดังนั้นหากจะมีการล๊อกดาวน์หรือจะมีเคอร์ฟิวก็จะต้องมีความชัดเจนว่าดำเนินการแล้วจะหยุดการแพร่เชื้อได้จริงหรือไม่ มาตรการนี้ต้องใช้เวลากี่วัน จะมีผลกระทบกับกิจกรรมใดบ้าง หรือจะมีมาตรการเยียวยาผลกระทบอย่างไร เพราะขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่หัวหินยังไม่เป็นศูนย์ แม้ว่าตัวเลขผู้ป่วยจะลดลงบ้าง ก็ถือว่าเป็นปัญหาที่ประชาชนและผู้ประกอบการภาคธุรกิจยังมีความกังวล ที่ผ่านมาหัวหินเมืองท่องเที่ยวนานาชาติ เคยเจอวิกฤตมาหลายรอบแต่ฟื้นเร็ว แต่รอบนี้ยอมรับว่าธุรกิจการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลัก เจอผลกระทบหนักสุด

 

 

ดังนั้นการแก้ปัญหาเพื่อให้มีทิศทางที่ชัดเจนควรเสนอให้ ศบค.จากส่วนกลางสั่งตรงถึงหัวหินเป็นการเฉพาะ โดยมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดมาทำหน้าที่ประธาน เพื่อวางแผนทำงานให้การประชุมครั้งเดียวเบ็ดเสร็จครบวงจร ไม่ใช่แก้ปัญหาเฉพาะหน้ารายวันตามที่รับรายงาน ไม่มีการกำหนดแผนระยะสั้นหรือระยะยาว หรือไม่มีการกำหนดยุทธศาสตร์ให้เห็นโอกาสที่ดีในอนาคต ไม่เช่นนั้นปัญหาที่หัวหินก็จะเรื้อรังต่อไป เพราะหากแก้ไม่จบ ไม่มีมาตรการเข้มงวด มีการประเมินตามหลักวิชาการว่าในจังหวัดอาจจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกมีประเมินไว้จะมีมากกว่า 2,000 ราย ฉะนั้นต้องแยกหัวหินที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคออกมา ไม่ให้กระจายไปที่อื่น แล้วเร่งระดมสรรพกำลังใช้ยาแรงทั้งอำนาจการบริหารเพื่อตัดสินใจใช้งบประมาณ เสริมบุคลากร เพื่อรักษาเยียวยาให้หายโดยเร็ว.

หน้าแรก » ภูมิภาค