นายอำเภอเป็นงง “หมวดเสือ”แอบเซ็นชื่อในบันทึกจับกุมบ่อนการพนัน อ.ขนอม-ยืนยันกบ รอง ผบก.ภ.จว.นศ.ชุดจับกุมเป็นฝ่าสยปกครองล้วน ๆ ไม่มีตำรวจร่วมจับกุมแต่อย่างใด

 
จากกรณีที่ พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ลงนามสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนและย้าย 5 เสือโรงพักขนอม จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนายจิรโรจน์ สำแดง นายอำเภอขนอม จ.นครศรีธรรมราช นายทวีวัฒน์ บุญขวัญ ปลัดอาวุโส หัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครอง นายภานุรุจ รัชสุทธิ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง น.ส.ธนิดา จงจิตต์ ปลัดอำเภอฝ่ายศูนย์ดำรงธรรม อ.ขนอม สั่งการให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พรน้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเข้าจับกุมการลักลอบเล่นการพนัน บริเวณบ้านเลขที่ 43/1 หมู่ 1 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมร พบว่าเปิดเนร้านเสิรมสวยบังหน้า แต่ลกลอบเล่นการพนันไพ่ผสมสิบ และสลากเที่ยงทายรับรางวัลเป็นเงินสด จึงจับกุมเอาไส้ได้13 คน หลบหนีไปได้หลายสิบคน นายไชยวัฒน์ อินทวงศ์ และนางปิ่นรัตน์ ชูเขียว สองสามีภรรยาเจ้าของบ้านและเจ้าของร้านเสริมสวย ผู้จัดให้มีการเล่นการพนันรวมอยู่ด้วย  เหตุเกิดเมื่อ เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2564 มี เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา“ร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน (ไพ่รัมมี่ ) และสลากเสี่ยงทายรับโชครางวัลเป็นเงินสด ซึ่งเป็นการเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต และฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9 (2) ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน” ส่งพนักงานมอบสวน สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามที่เสนอข่าวมาแล้วนั้น  

 
(2 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวบ้านในพื้นที่ ต.ควนทอง และ อ.ขนอม โดยภาพรวมต่างจับกลุ่มวิพากวิจารณ์เรื่องราวการลักลอบเล่นการพนันในจุดดังกล่าวอย่างกว้างขวาง เพราะก่อนกหารจับกุมหลังได้รับการร้องเรียนนายวิโรจน์ สำแดง นายอำเภอขนอม ได้สืบสวนสอบสวนพบว่ามีการเปิดลักลอบเล่นมานานแล้ว มีการไล่ไพ่ป็อก 52 ใบหลายประเภท ทั้งรัมมี่ ผสมสิบ ป๊อกเด้ง  เก้าตัวเก (เก้าเก) และมีสลากเที่ยงทายรับรางวัลเงินสดแขวนที่ตะแกรงผนังบ้านไว้ให้บริหารมานานแล้ว แม้จะอยู่ในช่วง พ.ร.ก.ควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัฐโควิดอย่างรุนแรงก็ไม่ละเว้น  ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐชื่อ “หมวดเสือ” ที่ชาวบ้านรู้จักกันกว้างขวางรู้เห็นและเก็บส่วยมาตลอด

 
หลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขนอม รวมทั้ง “หมวดเสือ” ขอร่วมลงชื่อในบันทึกจับกุมด้วย แต่นายจิรโรจน์ สำแดง นายอำเภอขนอม ๆไม่ยอมให้ลงชื่อร่วมจับกุม และควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางและบันทึกการจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.ขนอม อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ร่วมจับกุมคนหนึ่งยืนยันว่าในบันทึกการจับกุมที่ส่งให้พนักงานสอบสวนไม่มีชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมจับกุม และนายอำเภอได้ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน แต่ทราบว่ามีตำรวจลักลอบเซ็นร่วมจับกุมในพื้นที่ว่างด้านล่างของเอกสารบันทึกการจับกุมด้วย

 
นายจิรโรจน์ สำแดง  กล่าวว่า พ.ต.อ.สมชาย ซื่อตรงต่อตระกูล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช คณะกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้มาสอบสวนข้อเท็จจริงและนำบันทึกการจับกุมมาประกอบการสอบสวน ตนงงมากเพราะมีชื่อตำรวจเซ็นชื่อในบันทึกการขับกุมด้วย และตนได้ยืนยันกับ พ.ต.อ.สมชายไปแล้วว่าในการจับกุมมีเฉพาะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ตามที่ระบุชื่อด้านบนเอกสารการจับกุม “ไม่มีตำรวจหรือเจ้าหน้าที่อื่นใด”ร่วมจับกุมด้วย แต่กลับมาตำรวจนายหนึ่งแอบเซ็นชื่อในที่ว่างท้ายเอกสารบันทึกการจับกุมด้วย “สุดยอดมาก ผมงงหมดแล้ว” นายอำเภอกล่าวยืนยัน

         
นอกจากนี้นายจิรโรจน์ สำแดง นายอำเภอขนอม ยังได้ทบันทึกเหตุการณ์รายงานต่อนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตามเอกสารใช้ในกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ความเร่งด่วน ด่วนที่สุด ที่ นศ.1318/247ลงวันที่ 30 เม.ย. 2564 ระบุว่าข้อความว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย.64 เวลาประมาณ 14.40 น. ภายใต้การอำนวยการของนายจิรโรจน์  สำแดง นายอำเภอขนอมและนายทวีรัตน์  บุญขวัญ ปลัดอาวุโส อ.ขนอม พร้อมด้วยปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ตำบลควนทองและสมาชิก อส.ได้นำกำลังชุดปฏิบัติการฯออกตรวจสอบค้นหาเชิงรุกและจับกุมผู้ลักลอบเล่นการพนัน ซึ่งมีการมั่วสุมเสี่ยงต่อการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(covid-19) ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.ควนทอง อ.ขนอมสามารถจับกุมผู้ต้องหาเล่นการพนันไพ่รัมมี่พร้อมเจ้าของบ้านได้รวม 13 คน ของกลางไพ่รัมมี่จำนวน 3 สำรับ เงินสดอีกจำนวน 940 บาท โดยแจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกจับทั้งหมดว่าร่วมกันลักลอบเล่นการพนันไพ่รัมมี่พนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมายและร่วมกันชุมนุม จัดกิจกรรมหรือมั่วสุมฯ อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดฯ (ฉบับที่15) ข้อ 3.และมาตรา 34 (6) แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 จึงได้นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ขนอม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพื่อโปรดทราบ ซึ่งไม่พบข้อความหรือรายชื่อ “หมวดเสือ”และเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมจับกุมในคดีนี้ด้วยแต่อย่างใด.