วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และ นพ.สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม แถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(covid-19) ระลอก 3 สายพันธุ์อังกฤษ ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 4 ราย รวมยอดสะสม 119 ราย ในจำนวนดังกล่าวรักษาหายแล้ว 53 ราย เสียชีวิต 2 ราย และกำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ 64 ราย
           

ผวจ.ฯเปิดเผยว่าในจำนวน 4 รายที่พบ หนึ่งในนั้นตั้งใจมาจาก กทม. ที่เหลือ 3 รายอยู่ในระหว่างการกักตัวของเจ้าหน้าที่ สิ่งที่กังวลคือผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าผู้ว่าฯจะยกเลิกการกักตัวที่บ้านนั้น ต้องขอชี้แจงว่าไม่ได้ยกเลิก แต่ถ้าผู้มาจากพื้นที่เสี่ยงต้องการกักตัวอยู่ที่บ้าน จะต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปประเมินว่าบ้านหลังนี้เหมาะไหมกับการกักตัว เช่น มีคนแก่ คนป่วย หรือเด็กเล็ก สภาพบ้านคับแคบ ถ้าเจ้าหน้าที่ประเมินแล้วไม่เห็นสมควรให้กักตัวอยู่ในบ้าน ผู้ที่โดนกักตัวก็ต้องมาอยู่ในโลคอล ควอรันทีน (Local Quarantine) คือการกักไว้อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ของเชื้อโรค ที่ทางราชการจัดไว้ให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย วัตถุประสงค์คือต้องการแยกผู้ป่วยออกจากคนปกติ

ด้าน นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ กล่าวว่าเมื่อ 2-3 วันก่อนเรามีตัวเลขที่ค่อนข้างดีคือไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม ก็อยากให้ทุกท่านทราบว่าเนื่องจากสถานการณ์ของกรุงเทพฯ ตอนนี้มีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ตัวเลขรวมทั้งประเทศไทยยังสูงอยู่  ในส่วนของมีการติดตามในกลุ่มผู้เสี่ยงสัมผัสสูงเราจะต้องมีการตรวจ กรณีครั้งแรกไม่พบเชื้อ เว้นระยะไปอีก 5-10 วัน ก็ต้องมีการตรวจติดตามเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีผู้ติดเชื้ออยู่ในบ้านเรา ผู้ป่วยหลักจะมาจากกรุงเทพฯประมาณ  90%  รองลงมาเป็นสมุทรปราการและนนทบุรี พื้นที่ยังไม่พบผู้ป่วยมี  3 อำเภอคือนาทม โพนสวรรค์ และอำเภอนาแก  พื้นที่ที่พบมากก็คืออำเภอเมืองฯ รองลงมาธาตุพนมและก็อำเภอปลาปาก ฯลฯ

นพ.สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผอ.รพ.นครพนม เปิดเผยว่าตอนนี้มีผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลที่กำลังรับกำลังรักษาอยู่ทั้งสิ้น 64 ราย แล้วก็รักษาหายแล้ว 53 ราย ทั้ง 64 รายนี้ไม่มีผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะวิกฤตก็คือไม่มีผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่มีผู้ป่วย 12 รายที่มีภาวะปรสิตร่วมด้วยซึ่งแพทย์ได้ให้ยาต้านเชื้อไวรัสแล้ว ส่วนผู้ป่วยอีก 52 รายนี้ก็มีอาการเล็กน้อยถึงไม่มีอาการเลย  ทั้งหมด 52 รายนี้รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสนามและที่โรงพยาบาลอำเภอ

กรณีที่บุคลากรของโรงพยาบาลนครพนมที่พบว่ามีการติดเชื้อ ตอนนี้ได้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยการตรวจค้นหาเชิงรุกไปทั้งสิ้น  966  รายผลออกมาแล้ว 334 รายไม่พบว่ามีบุคลากรติดเชื้อเพิ่ม แต่ยังรอผลอยู่อีก 630 2 ราย ส่วนด้านการปรับการให้บริการของโรงพยาบาล เนื่องจากเรามีบุคลากรน้อยลงแล้วก็ได้ปรับส่วนบริการที่มีความจำเป็น โดยลดเรื่องไอซียูของผู้ป่วยอายุรกรรม และศัลยกรรม ซึ่งในกรณีนี้เราก็ได้ประสานโรงพยาบาลพี่เลี้ยงคือโรงพยาบาลศูนย์สกลนครให้ช่วยรับผู้ป่วยหนักในเขตจังหวัดนครพนมของเราในช่วง 14 วัน(ระหว่างวันที่ 4-17 พฤษภาคม) หรือจัดส่งยาทางไปรษณีย์ ทั้งนี้ก็มีการเข้มงวดมาตรการระบบป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลให้เข้มข้นขึ้น ก็นำเรียนพี่น้องชาวนครพนมก็ยังมาใช้บริการที่โรงพยาบาลนครพนมได้แต่พยายามมาเท่าที่จำเป็นเพราะว่าเรามีอัตรากำลังเราลดลง

ขณะเดียวกัน มี 4 องค์กรหลักประกอบด้วย หอการค้าจังหวัดนครพนม สมาคมพ่อค้าจังหวัดนครพนม กลุ่มรำกระบองจังหวัดนครพนม และเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ได้รวบรวมเงินจำนวน 352,894 บาท มอบให้แก่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนครพนม โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมเป็นประธาน เพื่อนำไปจัดซื้อตู้ชีวนิรภัย Biological Safety Carbinets Class ll เพื่อสู้ภัย covid-19 โดยตู้ชีวนิรภัยจะนำไปติดตั้งที่ท่าอากาศยานนครพนม มีประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคเชื้อโรคสูง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในรายที่ 117 เป็นผู้ป่วยชายอายุ 40 ปีเดินทางมาจากกรุงเทพฯ อาชีพขับรถแท็กซี่ต้องสัมผัสผู้โดยสารมากหน้าหลายตา เริ่มมีอาการตั้งแต่วันที่ 24 เมษายนฯ เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพย่านพระราม 2 คาดว่าตนเองติดเชื้อโควิดแน่นอน คำนวณดูแล้วถ้ารอรับการรักษาอยู่ที่กรุงเทพฯ อาจจะเหมือนในสื่อต่างๆนำเสนอว่าทางโรงพยาบาลไม่มีเตียงว่าง จึงตัดสินใจขับรถแท็กซี่กลับบ้านที่อำเภอธาตุพนม แล้วรีบเข้ารับการตรวจหาเชื้อพบว่าติดโควิดจริง โดยคนขับรถแท็กซี่รายนี้ไม่ได้ไปสัมผัสกับญาติพี่น้องคนไหนทั้งสิ้น