วันจันทร์ ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2568 02:01 น.

ภูมิภาค

ผงะ! ปักเบ็ดแม่น้ำตรัง ได้ฉลามน้ำหนัก 3.9 กิโลกรัม

วันจันทร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 17.19 น.
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นายกล้อย เกื้อนะ อายุ 48 ปี หลังมีข่าวว่านายกล้อยตกปลาฉลามในแม่น้ำตรังได้เป็นคนแรกใน จ.ตรัง บริเวณบ้านหนองบัว ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ไปตกปลาในแม่น้ำตรัง โดยใช้ลูกปลาดุกเป็นเหยื่อล่อ ทิ้งไว้ 1 คืนก่อนที่รุ่งเช้าจะไปดูเบ็ดที่ปักไว้ และพบว่าเป็นปลาตัวใหญ่ ตอนแรกคิดว่าเป็นปลาสวาย แต่เมื่อจับขึ้นมาได้กลับพบว่าเป็นปลาฉลามที่ยังมีชีวิตอยู่ น้ำหนักชั่งได้ 3.9 กิโลกรัมความยาวประมาณ 70 เซนติเมตร ซึ่งก็ได้สร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านที่พบเห็นเป็นอย่างมาก เนื่องจากในแม่น้ำตรังยังไม่เคยมีใครตกได้ปลาฉลามแม้แต่คนเดียว
 
ปลาฉลามที่ได้คาดว่าจะเป็นฉลามทรายหรือฉลามหัวบาตร ที่สามารถอาศัยอยู่ในน้ำจืดได้ ประกอบกับแม่น้ำตรังเป็นแม่น้ำที่เชื่อมติดกับทะเลบริเวณปากอ่าวในอำเภอกันตัง จ.ตรัง บางเวลามีน้ำทะเลหนุนสูงและบางช่วงจะเป็นน้ำกร่อย จึงเป็นไปได้กว่าลูกฉลามตัวนี้อาจจะว่ายน้ำพลัดหลงเข้ามา จนกระทั่งมาติดเบ็ดของชาวบ้าน
 
อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวการพบปลาฉลามในแม่น้ำตรัง ทำให้สองฝั่งแม่น้ำตรังเกิดความตื่นกลัวเป็นอย่างมากว่า จะยังมีฉลามอาศัยอยู่อีกหรือไม่ ชาวบ้านจึงงดลงเล่นน้ำในแม่น้ำตรังตลอดสายเป็นการชั่วคราว ขณะที่นายกล้อย เองก็ยังเชื่อว่าจะยังมีฉลามอยู่ในพื้นที่ คาดหากได้กลิ่นเลือดก็กลัวว่าจะเข้ามาทำร้ายคนได้ ล่าสุด นายโกวิทย์ เก้าเอี้ยน ประมง จ.ตรังระบุว่าน่าจะเป็นฉลามหัวบาตร ซึ่งจะลงตรวจสอบแหล่งที่พบอีกครั้ง
 
ด้านนายกล้อย เล่าว่า วันเกิดเหตุตนได้เอาลูกปลาดุกไปเป็นเหยื่อล่อทิ้งไว้ 1 คืนก่อนที่จะมาดูในตอนเช้า ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นปลากดหรือปลาสวาย แต่เมื่อเอามาดูใกล้ ๆกลับพบว่าเป็นปลาฉลาม ซึ่งในชีวิตตกปลามาเกือบ 20 ปีแล้วยังไม่เคยพบเห็น ทำให้รู้สึกแปลกใจและยืนงงอยู่พักใหญ่ เพราะไม่เชื่อว่าบริเวณบ้านป่าหมาก-หนองบัว ต.นาตาล่วง จะมีฉลามอาศัยอยู่ได้ ทำให้ตอนนี้ชาวบ้านแถวนั้นไม่กล้าลงเล่นน้ำในแม่น้ำตรัง เพราะเชื่อว่ายังมีฉลามอยู่อีก.

หน้าแรก » ภูมิภาค