เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 28 พฤษภาคม 64 หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้าน มีกลุ่มแรงงานเข้าออกโรงงานแปรรูปไม้ ในช่วงวิกาล ติดต่อกันหลาย จนน่าสงสัยว่า มีการลักลอบขนแรงงานเถื่อนเข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมาย พ.ต.อ.สัณฑภวิษย์ มากช่วย รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สืบสวน ภ.จ.ชุมพร จึงได้สนธิกำลัง หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจปรามปราบ ภ.8 กอ.รมน.และชุดต่อต้านข่าวกรองที่ 1 หน่วยข่าวกรองการทหาร กองกำลังเทพสตรี กว่า 50 นาย บุกเข้าทำการขอตรวจสอบ

 

 

โดยที่เกิดเหตุ เป็นโรงงานของบริษัท นีโอเทค พลายวู้ด จำกัด เลขที่ 158 หมู่ที่ 18 ตำบลบ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร  ตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย 41 ขาขึ้น เป็นโรงงานขนาดใหญ่ประกอบกิจการในรูปแบบต่อเนื่องการเกษตร ด้านหน้าหลังประตูเข้าโรงงานด้านซ้ายมีกองไม้แปรรูป ตั้งกองอยู่จำนวนมาก ส่วนด้านขวามือเป็นที่ตั้งของสำนักงานของบริษัท เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทาง น.ส.วิชุดา คลอดศรีเพ็ง ผู้จัดการออฟฟิต ได้ทราบถึงการเข้ามา ก่อนที่จะขอเข้าทำการตรวจสอบแรงงานที่ผิดกฎหมาย ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากทางบริษัท เป็นอย่างดี โดยได้เรียกแรงงานทั้งหมด มาร่วมกันพร้อมนำเอกสารให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบแรงงานทั้งหมด ทั้งชายและหญิง จำนวนทั้งสิ้น 145 คน เป็นแรงงานชาวเมียนมาทั้งหมด โดยแยกพวกมีพาสปอร์ตแล้ว 81 คน และอยู่ระหว่างรอเอกสารจากจัดหางานจังหวัดอีก 64 คน  

 

 

ซึ่งหลังจากตรวจสอบ พ.ต.อ.สัณฑภวิษย์ มากช่วย รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ชุด กอ.รมน.จังหวัดชุมพร ได้เข้าตรวจสอบมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ไม่มีการวางแผนใด เนื่องจากเป็นการตรวจสอบตามคำสั่งจังหวัดที่เร่งรัดกวาดล้างแรงงานที่ผิดกฎหมายให้หมด เนื่องจากหวั่นหากมีการลักลอบใช้แรงงานผิดกฎหมาย อาจจะนำไปสู่การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ ซึ่งการตรวจสอบในครั้งนั้น ได้มีแรงงานชาวพม่ากระโดดข้ามกำแพงหลบหนีเข้าไปในป่าด้านหลังโรงงาน ไม่สามารถติดตามและตรวจสอบได้ จึงนำมาสู่การเข้าตรวจสอบอีกครั้งในวันนี้ และก่อนหน้าได้วางแผน จัดกำลังกระจายรอบโรงงาน เพื่อป้องกันการหลบหนีของแรงงานที่ผิดกฎหมาย

 

 

พ.ต.อ.สัณฑภวิษย์ มากช่วย รอง ผบก.ภ.จ.ชุมพร กล่าวว่า ประกอบได้มีชาวบ้านในละแวก แจ้งมีแรงงานชาวพม่า เข้าออกโรงงานในยามวิกาล หวั่นจะเป็นแหล่งแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าแรงงานทั้งหมดมีเอกสารหลักฐานของราชการที่อนุญาตให้ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง และมาทราบว่ากลุ่มแรงงานที่กระโดดกำแพงหลบหนี ไปนั้น เป็นแรงงานที่ถูกต้อง แต่ด้วยความตกใจ ขณะที่กำลังทำงานอยู่  แล้วมาเจอเจ้าหน้าที่จำนวนมากเข้าไปในโรงงาน จึงกลัวความผิดจึงได้แตกตื่นวิ่งหนีเข้าป่าไป และได้กลับเข้ามาในโรงงานในเวลาต่อมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่เดินทางกลับไปแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ชี้แจงให้กับทางกลุ่มแรงงานทุกคนได้ทราบโดยผ่านล่าม เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจต่อกันและให้เกียรติในความเป็นมนุษย์ที่ต่างสถานภาพความเป็นอยู่อีกด้วย