วันที่ 22 กรกฎาคม 64 เวลา 15.45 พ.ต.ต.กิตติ์นเรศ อารักษ์รุ่งพงศ์ สวป.สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม รับแจ้งว่ามีคนปีนเสาโทรศัพท์ และมีท่าทีจะกระโดดลงมา บริเวณหน้าร้านกาแฟชะตา ธรรมชาติซอยไร่ขิง 26  หมู่7 ตำบล ไร่ขิง อำเภอสามพราน นครปฐม จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ชีพไร่ขิง ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าอำเภอสามพราน เจ้าหน้าที่อส.จากเทศบาลเมืองไร่ขิง รวมกว่า 30 นาย พร้อมด้วยรถกระเช้าและเบาะลม และอุปกรณ์ช่วยชีวิต

 

เมื่อไปถึงเป็นช่วงที่มีฝนตกลงมา โดยพบว่าบนยอดเสาโทรศัพท์มีความสูงประมาณ 30 เมตร พบชายวัยกลางคน ทราบชื่อต่อมา คือนายอนุพงษ์ อายุ 45 ปี เจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งทำท่าปีนป่ายลักษณะหวาดเสียว บางครั้งก็เอาขาล็อคกับคานเสาและเอาหัวห้อยลงมาหลายครั้ง รวมทั้งมีการตะโกนบ่นถึงปัญหาชีวิตและมีการตะโกนด่าคนชื่อตู่ และขอฉีดวัคซีนโดยมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กำลังยืนลุ้นกันเพื่อให้ชายคนดังกล่าวไม่กระโดดลงมา

 

 

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองไร่ขิงได้ทำการเป่าเบาะลมเพื่อป้องกันการกระโดดลงมาและได้รับอันตรายและได้มีการใช้เครื่องขยายสียงเจรจาความต้องการของนายอนุพงษ์ตลอดเวลา ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอสามพราน ได้นำรถกระเช้าเข้ามาเพื่อส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปทำการช่วยเหลือและได้ นำบุตรชายชื่อน้องกาฟิว อายุ 12 ปี ขึ้นไปหาและเจรจาผ่านเครื่องขยายเสียงให้ผู้เป็นพ่อยอมกลับลงมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ โดยมีเจ้าหน้าทีตำรวจได้ทำการส่งเสียงเกลี้ยกล่อมให้สงบสติอารม แต่เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อได้ข้อมูลทราบว่านายอนุพงษ์ มีอาการมึนเมาพร้อมกับบอกว่ามีความเครียดหลายเรื่อง

 

สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่าช่วงเกิดเหตุได้มีเห็นมีเสียงตะโกนโวยวายอยู่บนไฟฟ้า จึงได้มองขึ้นไปและเห็นชายท่าทางหวาดเสียว โดยมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูมเมอร์ สีน้ำเงิน จอดอยู่ จึงได้ประสานให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งเวลาผ่านไปราว 45 นาที นายอนุพงษ์ก็ยังไม่ยอมลงมาซึ่งได้ขอเหล้า 35 ดีกรี แต่ได้บอกว่ามีจดหมายเขียนทิ้งไว้ในเบาะที่รถจักรยานยนต์ ถึงการเตรียมจะกระโดดเสาโทรศัพท์เพื่อฆ่าตัวตาย มีข้อความขอให้ติดต่อกับนางสมศรี ภรรยา เจ้าหน้าที่จึงได้มีการประสานไปแต่พบว่าอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งกำลังเดินทางกลับมาพบโดยรับปากกันทางโทรศัพท์

 

 

นางสมร สุขสมัย อายุ 56 ปี บอกว่า ตนเองอยู่บ้านติดกับนายอนุพงษ์ ที่ซอยไร่ขิง 24 ห่างไปไม่ไกล ซึ่งเจ้าตัวเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง แต่ช่วงหลังไม่มีงานเพราะตามสภาวะการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งเก็บเงินจากลูกค้าไม่ได้ และมีหนี้สินหลายที่ รวมทั้งเมื่อ 2 เดือนก่อนได้แยกทางกับภรรยาทำให้ดื่มเหล้ามากขึ้น เมื่อวานนี้ก็ได้มาปลงทุกข์กับตนเอง ก่อนที่บ่าย 2โมงวันนี้ได้มาบอกขอฝากลูกชายไว้ด้วยเพราะจะไม่อยู่แล้ว มารู้เรื่องอีกทีก็มีคนบอกว่ามาปีนเสาโทรศัพท์ ตนเองก็ได้ไปหาน้องกาฟิว ลูกชายเขาซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเรียนออนไลน์ให้มาตามพ่อ และคิดว่าเขาเครียดสะสมมานานแล้ว

 

ทั้งนี้การพยายามไกล่เกลี่ยเจรจาให้นายอนุพงษ์ ซึ่งกำลังสติแตกและบอกให้เอารถกระเช้าที่เลื่อนบันไดขึ้นไปหาเอาตัวบันไดลง ซึ่งให้ข้อมูลปิดท้ายว่าจะขอพบหน้า นางสมพิศภรรยาที่เลิกรากันไปกลับมาคุยเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงได้คอยประคองสถานการณ์ ซึ่งเวลาได้ล่วงไป 3 ชั่วโมงแต่นายอนุพงษ์ก็ยังไม่ยอมลงมา โดยความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป