วันพฤหัสบดี ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2568 01:47 น.

ภูมิภาค

จบกันด้วยดี! ดราม่าสั่งปลดอาสาสวมชุดกู้ภัยร่วมคาร์ม็อบไล่นายก ชี้แหกกฎแต่พร้อมรับเข้าใหม่

วันอังคาร ที่ 03 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 20.45 น.
วันที่ 3 สิงหาคม 64 เวลา 13.45 น.ที่ มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน ถ.สี่ศรัทรา อ.เมือง จ.อุดรธานี นายสถาพร  ลิ้มมณีวิจิตร หัวหน้าศูนย์กู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน พร้อมคณะกรรมการมูลนิธิฯ และ นายราชา แซ่เต็ง อาสาสมัครมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีมูลนิธิมีการปลดอาสาสมัครกู้ภัย หลังร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบ ชู 3 นิ้วไล่นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
 
นายสถาพร  ลิ้มมณีวิจิตร หัวหน้าศูนย์กู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน กล่าวว่า ข้อเท็จจริงของการปลดนั้น เนื่องจากอาสาสมัครไม่รู้ไม่ได้ศึกษากฎระเบียบของมูลนิธิเป็นอย่างไร ซึ่งมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถานของเราก่อนที่ใครจะเข้ามาเป็นอาสาสมัครเรามีการประกาศอย่างชัดเจนว่า วัตถุประสงค์ของมูลนิธิเราคืออะไร ซึ่งวัตถุประสงค์ของมูลนิธิเรา คือ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆและช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนเราไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองใดๆทั้งสิ้น จากการที่น้องเข้าไปร่วมทำกิจกรรมรณรงค์ต่างๆนั้น การทำกิจกรรมนี้ทางมูลนิธิไม่ได้ปิดกั้น เราให้สิทธิเสรีภาพในการที่จะเสนอความคิดเห็น แต่อย่าใช้สัญลักษณ์ขององค์กรเข้าไปร่วมทำกิจกรรมรณรงค์เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่ามูลนิธิทำไมต้องไปสนับสนุนคนนั้นคนนี้จริงๆ
 
วันที่มีการรณรงค์ทำกิจกรรมทางมูลนิธิเข้าเมธาฯ มีเจ้าหน้าที่ฯ และอาสาสมัครเข้าเวรรอเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย เจ้าหน้าที่ทุกท่านมีการพูดคุยกันตลอดเวลาว่าหากมีการร้องขอหรือมีอุบัติเหตุจากการลดทำกิจกรรมรณรงค์นั้นเราจะเข้าไปช่วยทุกท่าน ซึ่งอาสาสมัครทุกๆคนที่ปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรวันนั้นก็เข้าใจ แต่อาสาที่เราสั่งปลดไปส่วนตัวแล้วผมก็ไม่เข้าใจว่าน้องเขาคิดอย่างไร เมื่อเหตุเราตรวจสอบแล้วพบว่าทำให้เกิดความเสื่อมเสียและเป็นการไม่ถูกต้องคณะกรรมการจึงมีมติสั่งปลด
 
การเปิดอาสาสมัครเรามีการปลดอาสาสมัครมาแล้วหลายคน เนื่องจากมีการทำผิดกฎและระเบียบ ปลดอาสาไปบางงคนก็ได้กลับมาทำงานเป็นอาสาต่อ การสั่งปลดนั้นอาสาท่านนี้ไม่ได้ทำผิดร้ายแรงแต่ทำผิดระเบียบที่ทางมูลนิธิกำหนดไว้ทั้งหมด 20 ข้อ อาสาสมัครมูลนิธิของเรามีจำนวนมากหากไม่ลงโทษเราจะควบคุมคนทำงานไม่ได้ การปลดไม่ได้ปลดแบบร้ายแรง หากเขาปฏิบัติตนได้ดีสักพักกับคณะกรรมการจะมีมติให้เขากลับมาทำงานเป็นอาสาสมัครที่มูลนิธิเช่นเดิม
 
นายราชา แซ่เต็ง อาสาสมัครมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถานที่ถูกปลด  เปิดเผยว่า ทางมูลนิธิไม่ได้จะเอาเรื่องอะไรผมแต่การที่ผมเข้าร่วมทำกิจกรรมส่วนตัวแล้วต้องการเรียกร้องสิทธิประชาธิปไตยเหมือนกันกับคนอื่นๆที่เห็นด้วย การที่ผมทำลงไปตนยอมรับว่าผิด การทำกิจกรรมนั้นผมไม่ได้เข้าไปอยู่ร่วมกลุ่มไม่ได้อยู่ในขบวน สมมุติขบวนใกล้ถึงแยกข้าง ตนก็เข้าไปอยู่หน้าขบวนเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร ส่วนภาพที่เห็นออกไปชู 3 นิ้วไม่จริงผมชู 2 นิ้ว ทั้งนี้ตนได้มีการประสานสื่อมวลชนขอให้ลบข่าวออกไปแล้วซึ่งผู้สื่อข่าวหลายๆคนก็ให้ความร่วมมือแต่ถึงยังไงก็อย่าไปว่าทางมูลนิธิ “ขอฝากไปถึงประชาชนว่าอย่าไปต่อว่าทางมูลนิธิ มูลนิธินั้นมีกฎของมูลนิธิ ซึ่งผมยอมรับว่าเป็นคนดื้อรั้น แต่การที่ผมเข้าไปช่วยมันก็เป็นสิทธิและจิตอาสาคนหนึ่งที่ไม่อยากให้รถติด”
 
นายสถาพร  ลิ้มมณีวิจิตร หัวหน้าศูนย์กู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน กล่าวตอนท้ายว่า ขอฝากไปถึงทุกท่านที่เป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครของมูลนิธิการทำกิจกรรมต่างๆขออย่าใส่เสื้อที่เป็นโลโก้องค์กรของเราไปร่วมทำกิจกรรมประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการเสนอความคิดเห็นอาสาสมัครของเราจะเข้าร่วมฝ่ายไหนก็ได้เราไม่ได้ปิดกั้นเราให้สิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างเต็มที่แต่เราขออย่างเดียวขออย่าใส่ชุดองค์กรเข้าไปร่วมทำกิจกรรมซึ่งหากทำลงไปแล้วจะเกิดผลที่ตามมาว่าทำไมองค์กรต้องเข้ามายุ่งขอฝากไปถึงประชาชนเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกท่าน

หน้าแรก » ภูมิภาค