วันอาทิตย์ ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 05:00 น.

ภูมิภาค

เชื่ออาถรรพ์ศาลเจ้าพ่อเสือ หนุ่มหาปลาเจอดี ชาวบ้านเคยเห็นงูยักษ์

วันอังคาร ที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 20.40 น.
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 5ต.ค.64 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานข่าวคืบหน้ากรณีนายอารีย์ ทำนพ อายุ 36 ปี อยู่ ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เห็นหญิงแต่งชุดไทยสีเขียว ขณะที่กำลังนั่งตอกหลักไม้ไผ่เพื่อดักตาข่ายหาปลาในสระน้ำกลางป่าข้างโรงเรียนร้าง (โรงเรียนประไพปัญญา) สังกัดการศึกษาเอกชนม.1 ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ตั้งห่างศาลเจ้าพ่อเสือริมแควขโมงประมาณ 300 เมตรเศษหลังจากจ้องมองหญิงแต่งชุดไทยสีเขียว ก็เกิดมีอาการเหม่อลอย และนั่งอยู่ตรงขอบสระน้ำ2ชม.
 
กระทั่งใกล้ค่ำจึงลุกออกจากขอบสระเดินออกมาถนนสาย304(กบินทร์บุรี –นาดี) แล้วโทรศัพท์บอกให้ภรรยามารับกลับบ้าน ขณะกลับบ้านมีอาการเหม่อลอยดวงตาแข็งกร้าว ไม่พูดเหมือนคนปกติ กระทั่งรุ่งเช้าจึงบอกกับภรรยาว่าให้พากันไปตามหารถจยย.เพราะจอดไว้ที่หาปลาแต่หาไม่เจอ ภรรยาและพ่อแม่พากันออกมาหารถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน-ขาวหมายเลขทะเบียน1กฉ7959ปราจีนบุรี ขณะที่ทุกคนเดินเข้ามาบริเวณที่จอดรถทิ้งไว้พากันขนลุก และเห็นรถจักรยานยนต์จอดอยู่ข้างป่ามันสำปะหลังห่างจากจุดที่นายอารีย์นั่งอยู่ขอบสระเพียง10เมตร นางชลธิชา ลีบุตร ภรรยาได้ออกไปซื้อธูปเทียนมาจุดเพื่อขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง ที่ดลบันดาลให้พบเห็นรถจยย.ที่ตามหาไม่เห็นตั้งแต่เมื่อค่ำวานที่ผ่านมา   
 
ขณะที่นายดาวเรือง จันทร์สมดี เจ้าของไร่มันสำปะหลัง ที่อยู่ข้างที่เกิดเหตุเป็นคนนำจุดธูปเทียนขอขมาต่อเจ้าที่เจ้าทาง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่านายอารีย์ อาจฉี่รถจอมปลวด หรือ ตอตะเคียนหรือพูดจาลบหลู่เจ้าที่เจ้าทาง จึงทำให้เกิดเรื่องนี้ลับนี้ขึ้น
 
ล่าสุดช่วงก่อนพลบค่ำ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง ดูตรงจุดที่นายอารีย์นั่งตอกหลักไม้ไผ่สำหรับดักตาข่ายในสระน้ำกว้าง30เมตร ยาว80เมตร ลึก5เมตร และได้เดินไปสำรวจยังโรงเรียนร้าง เป็นอาคารปูนชั้นเดียวและ พบกับคนงานที่มาหักข้าวโพดซึ่งคนงานหักข้าวโพดพูดตรงกับนายอารีย์ที่บอกว่าครั้งแรกตนเองเคยมาหาปลา เห็นงูใหญ่มากอยู่บริเวณสระน้ำ
 
ด้านป้าบังอรเป้าสี นายณัฐวุฒิ วงศ์คำภู คนงานหักข้าวโพด กล่าวว่า ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาพวกตน กับเพื่อนคนงาน มาทำไร่ข้าวโพด ก็เห็นงูใหญ่ตัวหนึ่งซึ่งมีขนาดใหญ่มาก อยู่บริเวณแห่งนี้ และบางวันมาใส่ปุ๋ยข้าวโพด ฝนตกเข้าไปหลบฝนในโรงเรียนร้าง รู้สึกวังเวงอย่างบอกไม่ถูกจนขนลุกเกรียว จึงพากันออกมาอาศัยอยู่ตามร่มไม้แทน ยอมรับว่าเข้าไปในโรงเรียนร้างรู้สึกวังเวงและขนลุกอย่างบอกไม่ถูก บริเวณดังกล่าวห่างจากศาลเจ้าพ่อเสือ ที่เป็นสถานที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีคนแวะเวียนมาเคารพกราบไหว้อยู่ประจำแทบทุกวัน สิ่งที่นายอารีย์พบเห็นอาจจะเป็นนางตะเคียนมาปรากฏให้เห็นก็เป็นได้
 
ด้านนายอุดม  แนวสุข นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองกี่ อ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า “สำหรับโรงเรียนร้างดังกล่าว สังกัดการศึกษาเอกชน (โรงเรียนประไพปัญญา) ก่อตั้งโดยกลุ่มญาติพี่น้อง (ครู) รวมทุนกัน เป็นนักธุรกิจการศึกษาที่ ต.สำพันตา อ.นาดี  จ.ปราจีนบุรี  แต่จากสภาพภูมิประเทศเป็นที่ลุ่มต่ำใกล้แควขโมง จึงถูกน้ำท่วมระดับสูงทุก ๆ ปี และยุบโรงเรียนมากว่า 10 ปีแล้ว
 
สำหรับศาลเจ้าพ่อเสือ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิเป็นที่เคารพสักการะอีกแห่งหนึ่งของชาวอ.กบินทร์บุรี อ.นาดี และใกล้เคียง เป็นเส้นทางเดินกองทัพผ่านของกองทัพไทย ในการปกป้องประเทศทั้งเดินทัพไปโจมตีหัวเมืองประเทศราชอาทิ ประเทศลาว  หรือ ประเทศกัมพูชา ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และรัตนโกสินทร์ตอนต้น เห็นมาก่อนหน้านี้กว่า 70 ปี  โดยบริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของโรงเลื่อย หริตวรณ์ ตลอดแควขโมงจะเป็นเส้นทางล่องท่อนซุงทั้งต้นลงมาจากผืนป่าดงพญาเย็น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลานก่อนล่องต่อไปแควหนุมาน และมาลงที่ต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี ทุก ๆ ปีทางโรงเลื่อยจะจัดพิธีบวงสรวงใหญ่ด้วยเครื่องเซ่นไหว้ หัวหมู ข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียน อาหารคาว หวาน ผลไม้ยิ่งใหญ่ทุก ๆ ปี  และมีสิ่งศักดิ์สิทธิหลายอย่าง อาทิ เจ้าพ่อเสือที่คนมักไปขอพร โฃชคลาภ เจ้าแม่ตะเคียนให้เลขเด็ดถูกกันจำนวนมาก

หน้าแรก » ภูมิภาค