เมื่อเวลา 12.45 วันที่ 19 ต.ค.64 ร.ต.อ.สมยศ ไกรกิจธนโรจน์  รอง สว.(สอบสวน)  สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ  ได้รับแจ้งเหตุมีคนขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น Wave สีดำเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขึ้นไปจอดบนสะพานภูมิพล 2 แล้วกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยา  หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพขึ้นไปตรวจสอบ

 

 

ที่เกิดเหตุอยู่เกือบกลางสะพาน ภูมิพล 2  ขึ้นจากถนนปู่เจ้าสมิงพราย มุ่งหน้าถนนสุขสวัสดิ์ ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง ที่ริมสะพานพบรถยนต์ยี่ห้อ HONDA และสีเทาดำดังกล่าวที่ตะกร้าหน้ารถมีหมวกกันน๊อคสีดำวางอยู่ 1 ใบ และที่ท้ายเบาะมีกระเป๋าร้อนสำหรับใส่อาหารจอดอยู่  ใกล้กันกลางทางเดินในราวสแตนเลสข้างสะพาน พบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และรองเท้าแตะ 1 คู่วางอยู่อย่างเรียบร้อย  จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของนายเจิญโชค เป็นตามวา อายุ 26 ปี อยู่ ต.ดอนยะ อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก  และได้กระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาไปแล้วยังไม่ทราบว่าเป็นหรือตาย  

 

 

ต่อมาได้มี น.ส.กัณฐ์มณี อายุ 26 ปี อยู่ซ.ท่าดินแดง16 ถนนดินแดง แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นภรรยาของนายเจิญโชค คนที่กระโดดสะพาน ได้อุ้มลูกชายวัย 2 ขวบมาดูที่เกิดเหตุ และ ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนตนกับนาย เจิญโชค มีปากเสียงทะเลาะกันเกี่ยวกับปัญหาทางครอบครัวเรื่องเงินไม่ค่อยพอใช้จ่ายและเรื่องส่วนตัว กระทั่งเมื่อตอนเช้านาย เจิญโชค ก็ออกไปทำงานปกติแต่ก็ยังมีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่  โดยมาช่วงก่อนเที่ยงนายเจิญโชคสามี ได้ถ่ายรูปส่งมาให้ดูว่ายืนถอดรองเท้าอยู่บนสะพานภูมิพล2  เเละส่งข้อความเหมือนน้อยใจ ทำให้ตนรู้สึกตกใจทำอะไรไม่ถูก   สักพักก็มีเพื่อนของแฟน โทรศัพท์มาแจ้งว่า แฟนของตนได้กระโดดสะพานภูมิพลลงแม่น้ำเจ้าพระยาและจมหายไป จึงได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุดังกล่าว 

 

 

ส่วนนายคม วิชัยศร อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่   21/1 หมู่4 ต.แคนใหญ่ อ.เมืองร้อยเอ็ด  จ.รัอยเอ็ด มีอาชีพเป็น รปภ. แถววัดด่านสำโรง ยืนน้ำตาคอและบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ที่กระโดดสะพานภูมิพล โดยก่อนที่นายเจิญโชคจะกระโดดสะพานได้ลงในสตอรี่เฟสบุ๊กว่าอยู่ในความทรงจำของเพื่อนเหมือนกำลังจะกระโดดสะพานฆ่าตัวตายจึงรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุแต่ก็ไม่ทันแล้วเพื่อนรักได้กระโดดลงไปก่อนที่ตนจะมาถึงดังกล่าว. 

 

    

จากการดูคลิปกล้องวงจรปิดบนสะพานภูมิพล2จะเห็นว่านายเจิญโชค ขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นมาจอดบนสะพานก่อนตัดสินใจเดินข้ามรั้วทางเดินไปถอดรองเท้าแตะและวางโทรศัพท์มือถือไว้คู่กับรองเท้าแบบเรียบร้อยจากนั้นได้ปีนข้ามราวสแตนเลสอีกช่วงไปยืนอยู่นอกราวในสภาพสงบนิ่งจากนั้นได้นั่งลงที่ขอบปูนก่อนจะยกมือท่วมหัวเหมือนไหว้แม่น้ำเจ้าพระยาก่อนตัดสินใจกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาและจมหายไป

 

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานนักประดาน้ำเพื่อคนหาร่างของนายเจิญโชค ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตแล้ว เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป