วันที่ 16 พ.ย.64 เวลา 07.49 น. ที่บริเวณด้านหน้าวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีพิธีแห่หลวงโสธร (องค์จำลอง) ทางบกในเทศกาลงานประเพณีที่มีการปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนานถึงกว่า 131 ปี ซึ่งในปีนี้ได้มีกำหนดการจัดงานขั้นระหว่างวันที่ 12-21 พ.ย.64 หลังจาก นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีการบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง ด้วยการถวายเครื่องราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด เมื่อเวลา 04.19 น.

 

และมีพิธีบวงสรวงเจ้าพ่อหลักเมืองในเวลา 05.09 น. ต่อเนื่องด้วยพิธีบวงสรวงปู่ท้าวมหาพรหม ที่เชิงสะพานเฉลิมพระเกียรติฯ และมีพิธีบวงสรวงหลวงพ่อโสธร ด้วยไข่ไก่ต้มจำนวน 119,999 ฟองพร้อมด้วยผลไม้สำคัญภายในจังหวัดในเวลา 06.09 น. ที่บริเวณด้านหน้ามุขพระอุโบสถหลังใหญ่ ก่อนอัญเชิญองค์หลวงพ่อโสธรขึ้นสู่ขบวนรถบุษบก ในเวลา 07.09 น. จากนั้นจึงได้เคลื่อนขบวนออกจากบริเวณด้านหน้าพระอุโบสถในเวลา 07.49 น.

 

 

โดยในปีนี้ นายไมตรี ได้มีนโยบายในการปรับลดขบวนบุปผชาติประกอบขบวนบุษบกแห่องค์หลวงพ่อให้สั้นลง เหลือแค่เพียง 8 คัน และยังมีการแบ่งขบวนแห่ออกเป็น 2 รอบ ในช่วงเช้าสเวลา 07.49 น. และในรอบเย็นในเวลา 16.29 น. ซึ่งจะเป็นขบวนการแสดงและดุริยางค์ของนักเรียนจากสถานศึกษาที่มาเข้าร่วมแค่เพียง 8 ขบวน ขบวนช้างม้ารถประดับเชิดสิงโต มังกรอีก 9 ขบวนเท่านั้น

 

จากเดิมเมื่อหลายปีก่อนตามที่ได้มีการจัดอย่างต่อเนื่องกันมายาวนานนั้น จะมีผู้นำรถบุษบกและบุปผชาติ พร้อมกับการแสดงประกอบมาประดับบารมีหลวงพ่อโสธรเป็นจำนวนมากไม่น้อยกว่า 30 ขบวน จึงทำให้ในปีนี้ บรรยากาศขบวนแห่องค์หลวงพ่อโสธร เพื่อให้ประชาชนรายทางได้ตั้งโต๊ะเครื่องสูงบูชาสักการะกร่อยลงในทันที

 

 

โดยตลอดรายทางที่ขบวนแห่เคลื่อนผ่านใชช่วงเช้านั้น ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายืนเรียงรายเพื่อรอเฝ้าชมความสวยงามและการแสดงตลอดรายทาง ซึ่งส่วนใหญ่นั้นมีเพียงการจัดโต๊ะหมู่บูชาจากสถานศึกษาต่างๆ จากในแต่ละอำเภอนั้น ที่ได้นำมาตั้งวางรอสักการะองค์หลวงพ่อโสธรเท่านั้น

 

สำหรับการจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธร และงานประจำปีของทาง จ.ฉะเชิงเทรา นั้น ได้มีการจัดขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2433 หลังจากมีโรคไข้ทรพิษหรือโรคฝีดาษระบาดเกิดขึ้นในพื้นที่ จนทำให้มีผู้คนล้มป่วยตายไปเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะมีการบนบานขอต่อองค์หลวงพ่อให้ช่วยปัดเป่าโรคร้ายให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่  และในเวลาต่อมา โรคระบาดได้หายไปจนหมดสิ้นตามคำกล่าวที่ได้บนบานเอาไว้

 

 

จึงได้มีการจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธรขึ้นในช่วงกลางเดือน 12 มาอย่างต่อเนื่องยาวนานในทุกๆ ปี ทั้งยังมีขบวนแห่ทางบกและทางน้ำ เพื่อให้ประชาชนได้ตั้งโต๊ะเครื่องสูงและโต๊ะหมู่บูชาถวายด้วยความรำลึกถึงบุญญาภินิหารจนถึงยังหน้าบ้านเรือนร้านค้า เสริมความเป็นสิริมงคล ให้กิจการร้านค้าและการประกอบอาชีพได้เจริญรุ่งเรือง มาในทุกๆ ปี

 

อีกทั้งในปีนี้ยังได้มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางของขบวนแห่ จากเดิมที่เคยใช้เส้นทางถนนมรุพงษ์เป็นเส้นทางหลักก่อนวนเข้าสู่ในตัวตลาดทรัพย์สินเก่า ภายในเขตตัวเมืองฉะเชิงเทรา ได้เปลี่ยนมาใช้เส้นทาง ถ.ศรีโสธรตัดใหม่ ถ.มหาจักรพรรดิ์ ถ.ศุขประยูร ถ.ชุมพล ตลาดบ่อบัว และ ถ.ศุภกิจ ไปยังตลาดบ้านใหม่ กลับมายัง ถ.พานิช ตลาดทรัพย์สินใหม่ และสิ้นสุดขบวนลงในเวลา 15.00 น.