วันที่ 18 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากลูกศิษย์วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรีว่ามีผู้ไม่หวังดี กุเรื่องงานกฐินว่าไม่มีการแจงรายละเอียดยอดเงิน  และหอบเงินหนีไป จนทำให้ทางวัดเสื่อมเสีย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบเป็นวัดสุขอารีย์ธรรมาราม ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี มีพระอธิการช้อย รติโก เจ้าอาวาสวัดสุขอารีย์ธรรมาราม พร้อมด้วย นายประสงค์ สุขอารีย์ อายุ 66 ปี ประธานการสร้างวัดและผู้บริจาคที่ให้กับกรมการศาสนา จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 64 ที่ผ่านมาทางวัดได้มีการจัดงานทอดกฐินที่วัด ซึ่งงานได้ดำเนินการไปตามปกติ แต่หลังจากเสร็จสิ้นงานก็ได้มีผู้ไม่หวังดีปล่อยคลิปลงในสื่อโซเชียลมีเดีย โดยมีการลงคลิปวีดีโอพร้อมทั้ง พิมพ์ข้อความว่า ภายในการตีกันวุ่น ไม่มีระบบชัดเจน ไร้กรรมการวัดในการจัดสรรทำระบบ เสร็จงานหอบเงินเข้ากรุ ขึ้นรถหายเงียบ พยายามสอบถามถึงยอดรายได้ แต่กลับได้คำตอบมาว่า “ไม่บอก...อย่ามายุ่ง”  และล่าสุดได้มีการลบโพสและเพจหนีหายไปแล้ว

 

พระอธิการช้อย รติโก กล่าวว่า ทางวัดเพิ่งจัดงานกฐินเสร็จไป แล้วที่เกิดมีประเด็นขึ้นมาเพราะว่าเขาต้องการขอเงินแบ่งครึ่งแต่พอทางวัดไม่ให้ก็เลยมีการโพสดังกล่าวขึ้น ซึ่งในส่วนของประเด็นที่มีการนำเงินหนีหายไปนั้นไม่จริง ตนเองก็ได้นั่งมองอยู่ที่วัดตอนนับเงิน ซึ่งการเอาเงินกฐินไปนับนอกวัดนั้นมันทำไม่ได้มันผิดกฎ และพอนับเงินเสร็จก็ได้แจกแจงยอดกฐินที่ได้ทันทีแต่ตัวเขาเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เพียงคนเดียว พอออกมาพูดแบบนี้ก็จะหาว่ามาแก้ตัวกัน แต่มันคือเรื่องจริงว่าเงินกฐินได้นับในวัด โดยได้ยอดกฐินทั้งหมด 405,590 บาท ปัจจัยเองก็ไม่ได้เยอะ

 

ด้านนายประสงค์ ประธานการสร้างวัด ได้เปิดเผยว่า งานกฐินที่ผ่านมาได้มีผู้หลักผู้ใหญ่มาทอดกฐิน เสร็จแล้วก็ได้นับเงิน โดยนับที่หน้าพระพุทธตรงที่พุ่มกฐินได้ตั้งไว้พอเสร็จแล้วก็ได้เงินประมาณ 4 แสนกว่าบาทแล้วจึงแจ้งให้เจ้าอาวาสทราบ ต่อมาก็ได้มีบุคคลหนึ่งได้มาขอเงินแบ่งครึ่งแต่ทางวัดและคณะกรรมการไม่ให้ จึงทำให้ไม่พอใจก็เลยไปโพสต์เฟสทำให้วัดเสียหาย หาว่าเอาเงินออกนอกวัด ตีกันบ้าง ซึ่งไม่ใช่อย่างที่กล่าวเลย ตนรับประกันได้ว่า การจัดงานนั้นเรียบร้อย ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาขอแบ่งครึ่งพอมาถึงก็ยื่นคำขาดเลยว่าจะแบ่งครึ่งเงินกฐิน ซึ่งคนๆ นี้พระได้ไปบอกบุญแล้วเจอเข้าก็เลยได้ให้มาจ้างขับรถให้กับทางวัดโดยจ้างวันละ 500 บาท แต่ถ้าไม่ได้ขับก็ไม่จ่าย  พออะไรไม่พอใจก็ด่าพระในวัดและยังเอาไปโพสเสีย ๆ หาย โดยได้มีการร่วมมือกันทำ2คน และเราก็ทราบด้วยว่าใครเป็นคนทำ แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ได้เบิกเงินไปแล้ว กว่า1หมื่นบาท ซึ่งเพิ่งจะขับรถได้ประมาณ 1 อาทิตย์เศษ ที่ทางวัดจ้างก็คิดว่าเป็นคนดี แต่พอไม่สบอารมณ์ก็ไปโพสให้ทางวัดเสียหาย

 

ซึ่งตอนนี้ทางคณะกรรมการวัดได้ไปแจ้งความว่ามีการโพสให้วัดเสียหายและมอบหน้าที่ให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ ตอนนี้คนที่โพสได้ถูกจับแล้ว 1 คน ในคดี ฉ้อโกง ที่บริเวณหน้าวัดในวันงาน และยังอยู่อีก1 คนยังมีการด่าทอและกล่าวหาอยู่อีก ไม่คิดเลยว่าจะมาทำกับทางวัดได้แบบนี้ ทางเราก็ได้มีการเจาะไปที่เพจนี้จึงได้รู้ว่าบุคคลนั้นเป็นคนเอาลง ก่อนจะปิดเพจนั้นไป และมีการเอาอีกเพจหนึ่งเข้ามาช่วยทางวัด โดยอ้างว่าเห็นว่าทางวัดมีปัญหา พร้อมทั้งขู่ว่าตอนนี้เรื่องถึงสำนักพุทธแล้ว  และจะมีการมาตรวจสอบ ซึ่งทางวัดสามารถยืนยันความบริสุทธิ์ได้ และหลักฐานเราก็มีทั้งหมด