ผู้สื่อข่าวรายงานเกาะติดความเคลื่อนไหวการเมืองพื้นที่ จ.ตรัง ตามที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย หรือผู้ใหญ่ตาล ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ว่าเบื้องต้นตนได้พูดคุยกับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ แล้วว่าในเขตเลือกตั้งที่ 2 ตนเองจะลงเหมือนเดิม ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ หรือ ท่ามเฮง ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 4 ก็คงหนีไม่พ้น อ.สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ซึ่งเคยเป็นอดีต ส.ส.ในเขตดังกล่าว แต่สมัยที่แล้วยอมเสียสละไปลงสมัครในระบบปาร์ตี้ลิสต์ แม้สมัยที่แล้วสามารถลงเลือกตั้งในระบบเขตเลือกตั้งได้เพราะ นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.ตรัง เขต 3 ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปแล้ว แต่เนื่องจาก นายสมชาย ได้ยื่นความจำนง ให้ลูกสาว คือ น.ส.สุณัฐชา ลงรับสมัครจนชนะการเลือกตั้ง ทำให้ นายชวน หลีกภัย ในฐานะที่นั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ชักชวนให้ อ.สมบูรณ์ ไปตำรงตำแหน่งเลขาประธานสภาฯ ทำให้สมัยนี้ หลังจากพูดคุยกับนายชวน แล้วจึงเห็นสมควรให้โอกาส อ.สมบูรณ์ ลงรับสมัครเลือกตั้งในเขตการเลือกตั้งที่ 4 โดยขณะนี้ นายสมบูรณ์ ได้หยุดการทำงานในพื้นที่ กทม. ลงพื้นที่กลับมา จ.ตรัง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 1 ชูธง นพ.ตุลกานต์ มักคุ้น โฆษก ศบค.ตรัง แคนดิเดตว่าที่ผู้สมัคร ตามที่ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้

 

ล่าสุด นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ หรือโกหนอ อดีต ส.ส.ตรัง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เขต 3 ออกมากล่าวว่า จากกรณีที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย หรือผู้ใหญ่ตาล ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่าสมัยการเลือกตั้งที่ผ่านมา นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขาประธานสภาผู้แทนราษฎร ยอมเสียสละไปลงเลือกตั้งในระบบปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อให้ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ หรือท่ามเฮง ลูกสาวตน ได้ลงรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 3 เนื่องจากตนเป็นคนขอแสดงความจำนงว่าให้ลูกสาวตนเป็นคนลงนั้น ทั้งที่เป็นสิทธิ์ของนายสมบูรณ์ ที่จะต้องลงในเขตการเลือกตั้งที่ 3 นั้น ซึ่งเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น 

 

นายสมชาย กล่าวอีกว่า แท้จริงเป็นการต่อสู้กันในพรรค ระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคในขณะนั้น กับ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าภาคใต้ขณะนั้น เป็นคนชี้ขาดว่าให้ น.ส.สุณัฐชา ซึ่งเป็นลูกสาวของตนนั้นลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะทั้ง 2 คนเชื่อมั่นว่าหากนายสมบูรณ์ ลงเลือกตั้งก็ต้องแพ้พ่ายอย่างแน่นอน เนื่องจากนายสมบูรณ์เกาะหลังนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ และประธานสภาที่ปรึกษาพรรคมาตลอด ไม่เคยลงพื้นที่ ไม่รู้จักชาวบ้าน แกนนำ จับชายจีวรนายชวนมาโดยตลอด อีกทั้งการเลือกตั้งสมัยที่ผ่านมาสู้กันรุนแรง ทำให้ทางพรรคตัดสินใจเลือกลูกสาวตนเป็นคนลงเลือกตั้ง 

 

ซึ่งในช่วงนั้น นายสมบูรณ์ ได้พาภรรยาไปเฝ้าพบนายชวน ภายในที่ทำการพรรคขอลงเลือกตั้งด้วย ซึ่งไม่ได้มองดูตัวเองเลย และการที่นายสาทิตย์ บอกว่านายสมบูรณ์เสียสละเพื่อให้ลูกสาวของตนเองนั้นฟังดูดีเหมือนเล่นบทพระเอกหนังแต่ตนยืนยันว่าไม่จริง โดยหลังจากนั้นทางนายสมบูรณ์ ได้ทำหนังสือคัดค้านและร้องไปถึงกรรมการบริหารพรรคขอให้ทำมติพรรค หรือไพรมารีโหวต ว่าควรให้นายสมบูรณ์ หรือ น.ส.สุณัฐชา ลูกสาวของตนลง ทั้งที่มติพรรคเคาะแล้วว่าให้ น.ส.สุณัฐชา ลูกสาวตนลงสมัคร สุดท้ายเมื่อรู้ว่าตัวเองต่อสู้ไม่รอดแล้วจึงได้ถอนหนังสือฉบลับดังกล่าวออก โดยมีนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนชี้แจง หลังจากนั้น นายสมบูรณ์ก็ได้ไปวิ่งเพื่อให้ได้ลงรับเลือกตั้งในแบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ จึงมีโอกาสวางตัวได้ลำดับที่ 30 กว่า แต่ยังดีที่ผู้ใหญ่เมตตาปัจจุบันได้เป็นเลขาประธานสภาฯ ส่วน นายสาทิตย์ จะสวมบทพระเอกพูดเอาดีใส่ตัวไม่ได้ว่า นายสมบูรณ์เสียสละ นายสมชาย กล่าวย้ำ

 

ส่วนการเตรียมพร้อมรับมือศึกเลือกตั้งสมัยหน้าตนได้คุยกับ นายเดชอิศม์ ขาวทอง หรือนายกชาย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ภาคใต้) แล้วว่าต้องทำไพรมารีโหวต ว่าจะให้นายสมบูรณ์ลงเลือกตั้งเขต 4 อีกหรือไม่ในสมัยหน้าเพราะชาวบ้านเขารู้สึกเบื่อแล้ว ไม่ทำพื้นที่เกาะนายชวนอย่างเดียวแต่พอจะถึงช่วงเลือกตั้งก็กลับมาอีก ประเมินดูแล้วเขต 4 สมัยหน้าเสี่ยงมากต่อกระแสตอบรับ เพราะผู้สมัครจากหลายพรรคจะถาโถมจ้องไปลงที่เขต 4 เพราะนายสมบูรณ์อ่อนแอ นี่คือคำพูดจากปากผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคหลายท่าน

 

ส่วนผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมี นพ.ตุลกานต์ มักคุ้น นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลตรัง และเป็นโฆษก ศบค.ตรัง ถือเป็นแคนดิเดตตามที่เป็นข่าวแต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนเสนอชื่อเข้าภาค และเข้าพรรค ตามกระบวนการสรรหาแต่คาดว่าไม่ต้องทำไพรมารีโหวต เพราะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีใครเสนอชื่อแข่งอยู่แล้ว เพราะ นพ.ตุลกานต์ ตนเป็นผู้เสนอด้วยตนเองผ่าน นายกิจ หลีกภัย อดีตนายก อบจ.ตรัง โดยให้ นายชวน หลีกภัยพี่ชายเป็นผู้ดูแลและพิจารณา ส่วน จ.ตรัง ต้องเข้าใจว่าเป็นพื้นที่พิเศษ เนื่องจากมีนายชวน หลีกภัย อยู่ จะทำอะไรก็ต้องถามความเห็นและให้เกียรติท่าน โดยความตั้งใจของตนอยากให้ประชาธิปัตย์ได้พื้นที่คืนกลับมาครบทั้ง 4 เขต แต่ก็ต้องพิจารณาสรรหาคนสักหน่อย พวกที่เป็นไอ้ห้อยไอ้โหน ก็อย่าเอาเข้ามา นายสมชาย กล่าวทิ้งท้าย.

 

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ จ.ตรัง ในปี 2565 ว่าจากเดิมเขตการเลือกตั้งมี 3 เขต จะกลายเป็น 4 เขตเลือกตั้งเช่นเดิม ซึ่งตนก็ยังไม่ทราบว่าทาง กกต.จะแบ่งพื้นที่เขตการเลือกตั้งอย่างไร ถ้าคิดตามโมเดลเดิมก็คงไม่หนีไปจากเดิมมากมายนัก ประชาธิปัตย์หงายไพ่วางตัว ส.ส.ไว้แล้วทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง เตรียมสู้ศึกสมัยหน้า “สมบูรณ์” เลขาฯ “ชวน” ศึกครั้งนี้มีศักดิ์ศรีและอนาคตการเมืองเป็นเดิมพันหวนกลับมาลง ส.ส.เขต 4 ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 1 พื้นที่เมืองหลวงประชาธิปัตย์ “หมอตุลกานต์” โฆษก ศบค.ตรัง แคนดิเดตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 สมัยหน้าค่อนข้างแน่ หวังชูจุดขายคนรุ่นใหม่ไฟแรง หวังทวงคืนเก้าอี้พื้นที่ไข่แดง จาก “พลังประชารัฐ” หลังพ่ายให้ “นิพันธ์” มั่นใจดึงเก้าอี้กลับมา ขณะที่เขต 2 นายสาทิตย์ และเขต 3 น.ส.สุณัฐชา ยังเกาะพื้นที่เดิม.