สุรินทร์ กำนันตำบลแตล ศีขรภูมิ ถูกมือดีลอบ ตัดสายเบรกรถยนต์ จขณะขับรถออกจากบ้าน เข้าแจ้งความตำรวจคาดการเมืองท้องถิ่นช่วงเลือกที่ผ่านมา

วันนี้(12ม.ค.65) นายจำเริญ บรรลือทรัพย์ อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 67 บ้านหนองคู หมู่ที่ 5 ตำบลแตลอำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งกำนันตำบลแตล อำเภอศีขรภุมิ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.กิตธิพงษ์ พรหมบุตร พนักงานสอบสวน สภ.ศีขรภูมิ ว่าเมื่อวันที่ 10ม.ค.65 เวลา 17.30น. ที่ผ่านมาตนเองสตาร์ท รถยนต์โตโยต้า Toyota Hilux Vigo Prerunne TRD lu ดำ เลขทะเบียน กต 7767 สุรินทร์ จอดอยู่ภายในโรงเก็บรถในบริเวณบ้าน ซึ่งเป็นรถของตนเองจะเดินทางไปทำธุระนอกบ้าน จึงได้ขึ้นไปบนรถและสตาร์ทเครื่องยนต์ ขณะขับรถออกได้เล็กน้อย ได้เยียบเบรกรถ แต่ปรากฏว่ารถเบรกไม่อยู่ จึงลงจากรถ ก้มลงดูที่ใต้ท้องเครื่องยนต์ พบว่าที่บริเวณขั้วสายเบรก ถูกคนร้ายลักลอบตัดสายเบรก ที่ล้อรถด้านซ้ายขาด จนน้ำมันเบรก ไหลหยดลงพื้นดิน

ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดเป็นผู้กระทำโดยรถยนต์จอดไว้อยู่แต่ภายในบ้านของตนเองตลอดโดยคาดว่าคนร้ายน่าจะเข้ามาในขณะที่ตนเองไม่ได้อยู่บ้านซึ่งวันเวลาดังกล่าวตนเองได้เดินทางไปร่วมงานการแข่งขันกีฬาภายในหมู่บ้าน ตนเองเกรงว่าจะได้รับอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินจึงได้เดินทางมาแจ้งความเอาไว้เพื่อเป็นแนวทางการสืบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

นายจำเริญ ยังกล่าวอีกว่า ตนเองไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับกับผู้ใดซึ่งเรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นเรื่องของการเมืองท้องถิ่น มาก กว่า ที่ผ่านมามีการเลือกตั้ง นายกอบต.และสมาชิกอบต. แต่มีนักการเมืองท้องถิ่นบางคนมาขอร้องให้ตนช่วยในการสนับสนุหาเสียงในพื้นที่ตำบลแตล แต่ตนเองไม่กล้ารับปากและทำตามคำขอจากนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง จนกระทั่งมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นโดยคนร้าย อาจถูกรับจ้างมาตัดสายเบรกรถยนต์ ล้อหน้าซ้าย ถ้าหากว่าวันนั้นตนเองไม่ระมัดระวังขับออกมาสู่ถนนใหญ่คาดว่าตนเองคงจะต้องได้รับอันตรายแน่ๆ

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามเรื่องราวกับ พ.ต.อ.กรธัช อู๊ดเจริญ ผกก.สภ.ศีขรภูมิจ.สุรินทร์ โดยทาง ผกก.สภ.ศีขรภูมิ บอกว่าตนเองยังไม่ได้ทราบรายงานเลยว่ามาจากสาเหตุมาจากอะไรจากเท่าที่พอทราบก็มีหลายประเด็นที่เราไม่สามารถฟันธงได้ว่ามาจากสาเหตุอะไรเรื่องชู้สาวประเด็นการเมืองท้องถิ่นหรือว่าประเด็นเรื่องธุรกิจส่วนตัวก็เป็นไปได้ทั้งนั้นต้องรอให้เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนเข้าไปสอบสวนตรวจสอบอีกครั้ง