วันที่ 18 ม.ค. 65 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศคนเดินทางมาทำบุญไหว้พระ นมัสการกราบไหว้หลวงพ่อโสธร เพื่อขอพรและแก้บนที่บริเวณวัดโสธรวรารามวรวิหาร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ว่าในวันนี้มีพุทธศาสนิกชนเดินทางเข้ามาทำบุญอย่างบางตา ทั้งภายในพระมหาวิหารหลังใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อโสธรองค์จำลอง และเป็นสถานที่บูชาดอกไม้ถวายไข่ต้มแก้บน และขอพรพระรวมถึงการเสี่ยงทายเซียมซีนั้น

 

ที่ด้านบนชั้นวางถาดหรือตะกร้าไข่ต้มแก้บน ภายในพระมหาวิหารยังมีแต่ความว่างเปล่า จนแทบจะไม่มีไข่ต้มแก้บนวางไว้เพื่อถวายเป็นเครื่องบูชาสำหรับแก้บนต่อองค์หลวงพ่อโสธรอยู่เลย รวบถึงกระบอกสำหรับเขย่าเสี่ยงเซียมซีภายในพระวิหารชั้นใน ที่วางเรียงรายอยู่หน้าองค์พระ และผู้มาทำบุญต้องรอต่อคิวเพื่อที่จะเขย่าเสี่ยงทาย หรือมีการเสี่ยงทายกันอย่างต่อเนื่อง จนเสียงกระทบระหว่างแท่งไม้และกระบอกดังสนั่นขึ้นอย่างไม่ขาดสายนั้น กลับเงียบสงัดโดยมีการเขย่าให้ดังขึ้นเป็นเพียงบางช่วงเวลาเท่านั้น

 

ขณะที่ภายในพระอุโบสถหลังใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อโสธรองค์จริง ซึ่งเป็นสถานที่นมัสการกราบไหว้องค์หลวงพ่อโสธรและอธิษฐานจิตในสิ่งที่ผู้มาขอพรปรารถนาจะให้ได้สมดังหวังนั้น ต่างมีผู้คนเดินทางเข้ามาอย่างบางตาเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นวันทำงานตามปกติของประชาชนทั่วไป ประกอบกับยังเป็นช่วงที่กำลังเกิดปัญหาจากสภาวะเศรษฐกิจ ที่สินค้าขยับราคาขายสูงขึ้นเกือบทุกชนิด จึงทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะใช้จ่ายเงินหรือเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแก้บนด้วยไข่ต้มตามปกติ

 

โดย นางวัชรี เปี่ยมสมัย อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/16 ถ.ประชาสรรค์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา แม่ค้าขายไข่ต้ม “ป้าจิ๋วไข่ต้ม” ซึ่งตั้งแผงอยู่บริเวณริมถนนเทพคุณากร ใกล้กับปากทางเข้าวัดโสธร (สามแยกโรงเรียนเทศบาล 2) กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ยอดขายไข่ต้มลดลงอย่างมาก จากเดิมที่เคยขายได้วันละกว่า 50-60 ตะกร้า หรือประมาณ 5-6 พันฟองต่อวัน ขณะนี้เหลือยอดขายเพียงแค่วันละ 200 ฟอง หรือ 2 ตะกร้า 3 ตะกร้า สูงสุดในขณะนี้ 5 ตะกร้า หรือ 500 ฟองเท่านั้น

 

โดยเฉพาะวันนี้ที่มานั่งขายตั้งแต่เช้าตรู่ตลอดทั้งวัน ขายได้แค่ 300 ฟอง หรือ 3 ตะกร้า แต่มีรายได้จากผลกำไรเหลือแค่เพียง 120 บาท หรือมีกำไรตะกร้าละแค่ 40 บาทเท่านั้น จึงทำให้รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่ายต่อวัน เนื่องจากยังต้องเช่าพื้นที่ตั้งแผงในราคา 130 บาทต่อวันด้วย จึงกำลังได้รับผลกระทบจากภาวะราคาไข่ไก่ที่ขยับตัวสูงขึ้น และแพงมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จนทำให้คนไม่กล้าที่จะมาซื้อนำไปแก้บนถวายหลวงพ่อในช่วงเวลานี้

 

พอเราขายแพงขึ้นเนื่องจากรับเขามาแพง จึงทำให้ไม่มีคนมาซื้อ จากเดิมที่เคยรับไข่ไก่ที่ต้มแล้วขนาดบรรจุตะกร้าละ 100 ฟองมาวางขายในราคาต้นทุนตะกร้าละ 300 บาท ก่อนนำมาวางขายราคา 340-350 บาท จึงทำให้มีกำไรตะกร้าละ 40-50 บาท แต่มาถึงขณะนี้เมื่อไข่ไก่ขึ้นราคาสูงจนถึงขั้นแพงมากที่สุด ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค.65 หรือปีใหม่ที่ผ่านมา จึงทำให้ร้านค้าส่งขายไข่ไก่มาให้แก่ตนเพื่อวางขายในราคาตะกร้าละ 350 บาท

 

โดยตนจะต้องนำมาบวกเพื่อทำกำไรขายในราคาตะกร้าละ 390-410 บาท แต่เมื่อเราขายแพงมากจากต้นทุนที่ขยับขึ้นสูงจึงทำให้ขายไม่ออก ไม่มีคนแวะเข้ามาซื้อไข่ต้มจากเราไปแก้บนหลวงพ่อ ในบางครั้งจึงจำเป็นต้องลดราคาให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาซื้อไปในราคา 380-390 บาท จึงทำให้เหลือกำไรแค่เพียง 30-40 บาท ขณะที่วันนี้แทบจะขายของไม่ได้เลย จึงทำให้เหลือผลกำไรจากการขายไข่ไก่ได้เพียง 3 ตะกร้า ตะกร้าละ 40 บาทรวมเป็นเงิน 120 บาท ซึ่งยังไม่พอกับค่าเช่าที่ดินตั้งแผงขายของเลย จึงอยากฝากไปให้ทางรัฐบาลหรือผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ช่วยแก้ไขปัญหาจากสภาวะข้าวของขึ้นราคาแพงกันจนเกือบทุกชนิดในครั้งนี้ด้วย นางวัชรี กล่าว