เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 4 ก.พ. 2565 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามนโยบาย  "ทส.เป็นหนึ่งเดียว" และทส.ยกกำลัง X ของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และข้อสั่งการ ของนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม  และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ดูแลผู้บาดเจ็บ และระวังภัยเสือโคร่งให้กับชาวบ้าน พร้อมกับให้อนุรักษ์และฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ง ให้คงอยู่ตามวิถีในป่าธรรมชาติ 

  

ทั้งนี้นายกมลาศ อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นำกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟรีแลนด์ เดินทางไปยังหมู่บ้านปิล็อกคี่ หมู่ที่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยเข้าเยี่ยมดูอาการบาดเจ็บและมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้นายหวาน ไม่มีนามสกุล ชาวกะเหรี่ยงวัย 46 ปี ที่ถูกเสือโคร่ง 3 ตัว ทำร้ายได้รับบาดเจ็บ โดยอาการบาดเจ็บของนายหวานฯ ดีขึ้นมาก สามารถพูดคุยตอบโต้ และเคลื่อนไหวร่างกายได้ดี  สภาพใส่เฝือกที่แขนและมือ ที่ถูกเสือกัดและหักทั้ง2ข้าง ปิดพลาสเตอร์ตามร่างกายหลายแห่ง โดยเฉพาะที่บริเวณคางและลำคอ ที่ถูกเสือกัด  

 

นายหวานได้เล่าถึงนาทีชีวิตรอดตายอย่างหวุดหวิดว่า ขณะที่เข้าไปไล่ฝูงควาย 8 ตัว ที่ต้อนพามาจากหมู่บ้าน ไปปล่อยเลี้ยงในป่าห้วยปิล็อก-ห้วยสะมะท้อ กลับหมู่บ้าน โดยพาสุนัขไปด้วย3ตัว ก็พบเสือโคร่ง3ตัว ตัวแรกใหญ่และยาวราว 4 เมตร ส่วนอีก2ตัวมีขนาดเล็กกว่า ทันใดนั้น เสือโคร่งตัวใหญ่ได้กระโจนใส่เข้าทำร้าย ส่วนเสือโคร่งอีก 2 ตัวยืนแกว่งหางคุมเชิงอยู่ ขณะเดียวกันสุนัขที่พาไปด้วย ได้เข้าสกัดสู้ล้อมหน้าล้อมหลังเสือโคร่งอีก2ตัว ตนถูกเสือโคร่งตัวใหญ่กระโจนใส่ มีดพกที่ติดตัวกระเด็นหายไป มีแต่มือเปล่าจึงยกแขนเอามือกัน แต่ก็ถูกเสือตะปบและกัดที่บริเวณมือและคางลำคอ จนฟันหลุด แข็งใจชกเสือที่บริเวณจมูกและตาอย่างเต็มกำลังหลายครั้ง จนข้อมือหัก นาทีที่เสือชะงักหยุดขย้ำ เพราะถูกตนชกที่ตาและจมูกจนมึน และอาจจะเหนื่อยที่ปล้ำสู้กัน จึงแข็งใจรีบลุกวิ่งไปที่กอไผ่ แล้วปีนขึ้นไปจนสูง เมื่อมองจากยอดไผ่ ก็เห็นเสือโคร่งตัวใหญ่ที่ขย้ำตน ยืนแหงนหน้าแกว่งหางไปมาแยกเขี้ยวมองตน ส่วนเสือโคร่งอีก2ตัวสู้กับสุนัขและกัดสุนัขตาย2ตัว ส่วนสุนัขอีกตัวหายไป เชื่อว่าคงบาดเจ็บและวิ่งหลบหนีเข้าป่า 

 

นายหวานเล่านาทีชีวิตอย่างตื่นเต้น ต่อเหตุการณ์ที่ได้พบต่อว่า เมื่อเห็นว่าเสือยังไม่ยอมไป จึงหักไม้ไผ่ขว้างลงมาใส่เสือโคร่งหลายครั้ง ราว10นาที เสือโคร่งตัวใหญ่จึงเดินเข้าป่า โดยมีเสือโคร่งทั้ง2ตัวที่เล็กกว่า เดินตามหายไป จากนั้นตนได้ยืนเกาะกอดต้นไผ่อยู่ราวครึ่งชั่วโมง เห็นว่าเงียบสงัดเชื่อว่าเสือคงไปไกลแล้ว จึงรีบปีนกอไผ่ลงมา แล้วรีบวิ่งไปที่ฝูงควายที่อยู่ไม่ห่าง ขึ้นหลังควายออกจากป่ากลับหมู่บ้าน ให้ญาติช่วยนำส่งรพ.เดชะบุญที่เสือกัดที่คอแต่ตนเอี้ยวหลบ จึงถูกกัดเข้าที่บริเวณคางและใต้คอไม่ลึก จนฟันหักหลุดไป1ซี่ หลังจากตนหายดีแล้ว ก็จะทำบุญบวงสรวงให้เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าที่เจ้าทาง ที่ให้ตนมีชีวิตรอดจากคมเขี้ยวของเสือโคร่ง มาได้อย่างปาฏิหารย์   

 

เวลาต่อมา นายกมลาศ อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นำกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟรีแลนด์ เดินทางเข้าไปในป่า เพื่อติดตั้งกล้องดักถ่ายจำนวน 20 ตัว บริเวณป่าห่างจากหมู่บ้านปิล็อกคี่ราว2กม. และบริเวณลำห้วยปิล็อก - ลำห้วยสะมะท้อ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ที่นายหวานฯชาวกระเหรี่ยง ได้ต่อสู้กับเสือโคร่งทั้ง 3 ตัว รวมทั้ง บริเวณป่าลึกเขตรอยต่อระหว่างชายแดนไทย -พม่า ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ 

 

ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในการติดตั้งกล้องดักถ่ายเสือโคร่ง ประมาณ 4 - 5 วัน ในการติดตั้งกล้องดักถ่ายในครั้งนี้ เพื่อที่จะได้ทราบว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าว ยังมีเสือโคร่งอาศัยอยู่บริเวณนั้นหรือไม่ หรือถ้ามีเสือโคร่งยังอาศัยอยู่บริเวณนั้น จะมีเสือโคร่งอาศัยอยู่บริเวณนั้นกี่ตัว และเสือโคร่งตัวใหญ่ขนาด 4 เมตร เป็นเรื่องจริงหรือไม่  เพื่อจะได้นำมาวางแผนอนุรักษ์และฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งต่อไป   

 

ขณะเดียวกันนายกมลาศ หน.อุทยานแห่งชาติเขาแหลมได้จัดชุด เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเฝ้าระวังเสือโคร่ง และผลักดันเสือโคร่ง จำนวน 7 นาย โดยมีการลาดตระเวนในป่าทุกวัน เพื่อคอยผลักดันฝูงเสือโคร่ง และระวังภัยเสือโคร่ง ให้กับชาวบ้านปิล็อกคี่ จนกว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ