ภูมิภาค
ชวนชิมขนมขึ้นชื่ออำเภอนาดี "ขนมเขียวมรกต" ของหวานยามเช้าเคียงคู่ชา-กาแฟ
วันจันทร์ ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2565, 20.32 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

วันที่ 25 เมย. 65 ผู้สื่อข่าวจปราจีนบุรีรายงานว่าจะพามารู้จักชวน ไปชิมของหวานยามเช้าเคียงคู่กาแฟ ชา หรือรายการอื่นๆตามใจชอบหรือเป็นของว่างไว้ต้อนรับแขกในบ้านรีสอร์ทที่ทำงานก็มีเสน่ห์ไม่น้อยมาชิมเมนูขนมเขียว ร้านแม่ปุก ขายมานานถึง 30 ปี ปัจจุบันเหลือน้อยร้านกันแล้ว แต่ก็ยังมีลูกค้าทั้งเก่าและใหม่สั่งเข้ามาจนต้องเพิ่มสาขาอีกแห่งให้ลูกสาวคนเก่งดูแลรับออร์เดอร์ จากวันละไม่กี่กล่องมาเป็น 1200 ถึง 1500 กล่องต่อวัน ที่สำคัญยังคงขายราคาเดิมกล่องละ 8 ชิ้น ราคา20 บาท รสชาติเหมือนเดิม
หลายคนที่ผ่านขึ้นมาแถว อ.นาดี มักจะนึกถึงขนมเขียว แม่ปุก หรือคุณแม่ บุญส่ง บุดดา เลขที่ 169 หมู่ 1 ต.สันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี แม้จะต้องขับรถเข้าไปในตัวตลาดสำพันตา ร่วมสิบกิโลเมตร แต่ด้วยชื่อเสียงของความอร่อยระยะทางจึงไม่ใช่อุปสรรค แต่บางครั้งมาถึงของหมดเพราะถูกจองเต็มทำให้หลายคนต้องโทรสั่งจองก่อนจึงจะได้รับประทาน
ปัจจุบันแม้จะมีการเพิ่มสาขาอีกแห่งที่มุมสี่แยกตลาดอุดมสุข ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยคุณ วิไลภรณ์ พันเรือง ลูกสาวคนเก่งเป็นผู้ดูแลและทำส่งให้กับลูกค้า คุณวิไลภรณ์ บอกว่า แม้จะเป็นอีกสาขาแต่สูตรเดียวกันทุกอย่าง แป้งผสมใบเตยเหนียวนุ่มที่เป็นสูตรเฉพาะ กับไส่ถั่วเน้นสดใหม่ผสมกับมะพร้าวทึนทึกใส่เกลือน้ำตาลเป็นรสชาติมาตรฐานทานเมื่อไหร่ก็ยังคงรสชาติเดิมทุกอย่าง ซึ่งเป็นสูตรของคุณแม่ที่หลายคนชื่นชอบในแต่ละวันจึงมีลูกค้าสั่งเข้ามา1200 ถึง 1500 กล่อง รวมกันทั้งสองสาขา โดยคุณแม่ปุกจะอยู่ที่สำพันตา ที่เดิม ส่วนที่ตลาดอุดมสุข ตนดูแลเปิดขายตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึง บ่าย 3 โมง คุณวิไลภรณ์ บอกด้วยว่า ตอนนี้นอกจากขนมเขียวแล้วยังมีขนมเปียกปูนใบเตยที่หวานหอมแป้งนุ่มเพิ่มมาอีกอย่างให้ลองทาน ส่วนลูกค้ามีทั้งในพื้นที่ พนักงานโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงนักท่องเที่ยวที่รู้ก็จะแวะมาซื้อก่อนเดินทางต่อ มีบางคนตอนกลับยังแวะมาซื้อกลับบ้านก็มี ขอย้ำว่าถ้าอยากทานขอให้โทรที่เบอร์ 081-8658042 และ 087 – 9874877 จะได้รู้ว่าตำนานแห่งความอร่อยนั้นเป็นยังไง
และกล่าวถึงความเป็นมาของขนมเขียวมรกต หรือเขียวใบหยกนี้ ว่า เป็นขนมที่ขึ้นชื่อที่สุดของอำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรีเป็นขนมที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นโดยแท้ ขนมเขียวมรกต แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาที่เป็นกระบวนการ ตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบ และกรรมวิธีทำให้สุกโดยอาศัยฝีมือของผู้ทำเป็นประการสำคัญวัตถุดิบที่นำมาทำแยกเป็น 2 ส่วน คือตัวแป้งและไส้ ตัวแป้งเป็นแป้งที่ได้จากข้าวเจ้าผสมใบเตยซึ่งให้ทั้งสีเขียว และกลิ่นหอมเย็นชวนชิมปนกับน้ำตาลทรายให้รสออกหวานเล็กน้อย ส่วนไส้ขนมนั้นประกอบด้วย มะพร้าวขูด ถั่วเขียวผ่าซีกนึ่งจนสุก ผสมกันกับเกลือให้มีรสชาติเค็มปนมันจากมะพร้าวกรรม
วิธีที่ทำให้สุกจะเลือกเอาหม้อที่หุงหาอาหารในครัวเรือนนั้นมาใช้ถ้ามีหม้อที่ไม่มีหูจับ เช่น หม้อกลม หรือ หม้อดินจะสะดวกต่อการทำ
เพราะต้องใช้ผ้าขาวบางหรือผ้าสีขาวมาปิดปากหม้อไว้เจาะผ้านั้นให้เป็นรูกว้างประมาณเท่าไข่ไก่ขนาดเล็ก เพื่อให้ไอที่ขึ้นมาตามรูที่เจาะไว้นี้เติมน้ำในหม้อแล้วนำตั้งบนเตาไฟ เมื่อน้ำเดือดพล่านแล้วจึงตักแป้งที่เตรียมไว้ หยอดพร้อมละเลงเป็นแผ่นกลมให้บางพอประมาณลงบนผ้าที่ปากหม้อนั้น พร้อมทั้งหาฝามาครอบปิดไว้ กะพอให้ไอน้ำขึ้นมาตามรูที่เจาะไว้ทำให้แป้งสุกเมื่อแป้งสุกแล้ว ใช้พายซึ่งทำจากไม้ไผ่อันเล็กๆ บางๆ ขนาดเท่านิ้วมือนำมาแซะลอกออกไป วางบนก้นจานที่ทาหัวกะทิรอไว้กันติดก้นจาน แล้วนำไส้ขนมที่เตรียมไว้มาหยอดใส่ให้ได้ครึ่งหนึ่งของแป้ง แล้วพับอีกครึ่งมาปิดทับจะได้ตัวขนมที่เสร็จแล้วรูปร่างคล้ายกับถั่วแปบ แต่มีสีเขียวและรสชาติหอมหวาน มันและอร่อย
ส่วนผสมไส้ ถั่วเขียวเราะเปลือก 0.5 กิโลกรัม มะพร้าวทึนทึก 1 ลูก น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น วิธีการทำ แช่ถั่วเขียวค้างคืน 1 คืนล้างให้สะอากนำไปนึ่งให้สุก ขูดมะพร้าวทึนทึกเป็นเส้นหยาบๆ นำไปนึ่งให้สุก นำถั่วเขียวและมะพร้าว, น้ำตาลทราย, เกลือป่นคลุกเคล้าให้เข้ากันตามสัดส่วน ชิมรสให้อร่อยตามใจชอบ ส่วนผสมของแป้ง แป้งข้าวเจ้า 2.5 ถ้วยตวง แป้งมันสำปะหลัง 1.5 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง น้ำปูนใส 7 ถ้วยตวง ใบเตยตามความเหมาะสม
วิธีการทำล้างใบเตยให้สะอาดนำมาหั่นเป็นฝอยแล้วนำปั่นกับน้ำปูนใสให้ละเอียด บีบเอาแต่น้ำแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง นำแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาลทรายผสมกับน้ำใบเตยตามสัดส่วนแล้วใช้ทัพพีคนให้เข้ากัน นำแป้งที่ผสมแล้วมาทดลองว่าแข็งหรือนิ่มจนเกินไปหรือไม่
โดยนำแป้งลงละเลงบนผ้าที่ผูกปากหม้อนึ่งที่น้ำเดือดแล้ว โดยละเลงเป็นวงกลมใช้ฝาหม้อปิดไว้ประมาณ 1 นาทีแป้งจะสุก ใช้ไม้ที่เหลาแบนๆ บางๆ แคะแป้งออกจากผ้า ถ้าแป้งขาด แสดงว่าแป้งนิ่มเกินไปให้เติมแป้งมันและแป้งข้าวเจ้า ถ้าแป้งแข็งเกินไปให้เติมน้ำปูนใสและทดลองเนื้อแป้งใหม่ ถ้าส่วนผสมแป้งดีแล้วให้ตักแป้งละเลงบนผ้าให้เป็นวงกลม ใช้ไม้แคะออกมาวางบนก้นจานที่ทาหัวกะทิไว้ก่อน เพื่อไม่ให้แป้งติดบนก้นจาน นำแป้งที่เตรียมไว้ตักไส้ใส่ประมาณ 1 ช้อนชาแล้วพับครึ่ง วางใส่ถาดพร้อมเสิร์ฟ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
![]()
- เศร้า! พระครูใบฎีกามรณภาพในกุฏิ ทิ้งจดหมายลาพ่อแม่ 16 ต.ค. 2568
- คอหวยแน่นวัด! แห่ขอเลขเด็ดพญานาค–ท้าวเวสสุวรรณ 16 ต.ค. 2568
- มาอีกระลอก! เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำ พื้นที่ท้ายเขื่อนจับตาระดับน้ำหนุน 16 ต.ค. 2568
- เรือห้องสมุดหนังสือลอยน้ำระดับโลก "Doulos Hope" เปิดให้ ปชช.เข้าชมแล้ว ที่ท่าเรือสัตหีบ 16 ต.ค. 2568
- สหกรณ์ครูขอนแก่นเดินหน้าทวงคืน 500 ล้าน ย้ำโปร่งใสตรวจสอบได้ 16 ต.ค. 2568
ข่าวในหมวดภูมิภาค
![]()
7 ชีวิตหนีตายไฟไหม้บ้านทั้งหลัง อัศจรรย์พระบรมฉายาลักษณ์ไม่ไหม้ไฟ 21:10 น.
- ปฏิบัติการพิเศษอำเภอศรีมหาโพธิ จับผู้ค้า–ผู้เสพยาบ้า–ไอซ์รวมหลายราย 20:59 น.
- นพ.ประวัติ เปิดศาลาชุมชน-รพ.สต.พรีเมี่ยม ยกระดับสุขภาพชาวกาญจนบุรี 20:46 น.
- ผกก.ทำเซอร์ไพรส์ภรรยา มอบรถเบนซ์หรูวันเกิด สุดอบอุ่นกลางงานทำบุญบริษัท 20:16 น.
- ฉะเชิงเทราเตรียมจัดงานสัตว์น้ำไทยชูทำตลาดส่งออก หลังเงินสะพัดครั้งก่อนกว่า 50 ล้านบาท 20:14 น.