วันเสาร์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 18:28 น.

ภูมิภาค

พระครูวรพงศ์ พิสุทธิ์ พระนักพัฒนา ไม่สะสมทรัพย์ สู่รางวัลวัดดีเด่น จ.อำนาจเจริญ

วันอาทิตย์ ที่ 08 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 14.58 น.
วันที่ 8 พ.ค.65 สนธยา พาเข้าวัดฟังธรรมเทศนา ไปที่วัดโนนสำโรง บ้านน้ำปลีก ต.น้ำปลีก อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ อยู่ห่างจากตัวเมืองอำนาจเจริญ ประมาณ 30 กิโลเมตร ด้านทิศตะวันตก ไปตามถนนอรุณประเสริฐสายหลัก เมื่อถึงสี่แยกไฟแดง(แยกกุญชร) เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายรองอีก 5 กิโลเมตร(น้ำปลีก-หัวตะพาน) จะเป็นที่ตั้งวัดโนนสำโรง มีพระครู วรพงศ์ พิสุทธิ์ อายุ 69 ปี บวช 39 พรรษา เป็นเจ้าอาวาสวัดโนนสำโรง มีพระภิกษุสงฆ์ 5 รูป สามเณรไม่มี มรรคนายก 1 คน สังกัดธรรมยุตินิกาย บนเนื้อที่ 80 ไร่ บริเวณวัดเงียบสงบ ร่มรื่น ท่ามกลางป่าไม้หลากหลายชนิด รวมถึง ต้นสัก ไม้พยุง จำนวนหนึ่ง จึงเป็นที่ชื่นชอบ ถูกใจ บรรดา พุทธศาสนิกชน ญาติโยม ทั้งหลาย เข้าไปนั่งปฏิบัติธรรม ถือศีล เดินจงกลม เพื่อคลายทุกข์ทั้งหลวงทั้งปวง สู่หนทางแห่งความสุข นั่นเอง 
สำหรับ พระครู วรพงศ์ พิสุทธิ์ หรือ หลวงพ่อพงศ์ศักดิ์ ฐิตาโภ (สกุลเดิม นามจันทรา) ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าวาสวัดโนนสำโรง ในปี 2530 เป็นนักปฏิบัติ นักพัฒนา ที่มีวิศัยทัศน์กว้างไกล เมื่อปี 2534 ได้สร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ขึ้นแทนศาลาการเปรียญไม้หลังเก่า ที่มีสภาพทรุดโทรม โดยได้รับบริจาคปัจจัย สำหรับการก่อสร้างจากความศรัทธาของญาติโยมชาวน้ำปลีกและหมู่บ้านใกล้เคียง รวมทั้งญาติโยมที่อยู่ในกรุงเทพฯและในจังหวัดต่างๆมาช่วยกันบริจาคปัจจัยในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ ใช้ปัจจัยทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 3,000,000 บาท และได้มีพิธีสมโภชน์เฉลิมฉลองศาลาการเปรียญหลังใหม่ ในปี พ.ศ. 2538 นอกจากนี้ ยังได้ก่อสร้างเมรุฌาปนกิจ ศาลานาบุญ เสนาสนะหลายหลัง ตลอดจนสร้างศาลาเอนกประสงค์ รวมถึงปลูกต้นสัก(ซึ่งพ้องกับนามชื่อของท่าน)ภายในวัดเป็นจำนวนมาก รวมถึงอนุกรักษ์ป่าไม้หลายหลากชนิด ตลอดถึง ไม้พยุง เพื่อความสงบร่มรื่น เหมาะสำหรับ ปฏิบัติธรรม 
 
พระครูวรพงศ์พิสุทธิ์ เป็นชาวบ้านน้ำปลีก ต.น้ำปลีก หลังเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3(ม.ศ.3) ที่โรงเรียนน้ำปลีกวิทยา ได้ช่วยเหลือบิดามารดาทำไร่ทำนาอยู่ที่บ้าน จวบจนบรรลุนิติภาวะอายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ จึงได้อุปสมบท ณ.พัทธสีมาวัดโนนสำโรง ต.น้ำปลีก อ.อำนาจเจริญ จ.อุบลราชธานี (ขณะนั้น อ.อำนาจเจริญ ขึ้นกับ จ.อุบลราชธานี) โดยมีพระครูวิจิตรธรรมภานีย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระครูทัศนประกาศ(หลวงพ่อเขียน นารโท) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ จากนั้น ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดสำราญนิเวศน์ และสอบได้นักธรรมเอก เมื่อปี พ.ศ.2526 จนได้รับแต่งตั้งให้ดำรงสมณศักดิ์ เป็นเจ้าคณะจังหวัดตำบลบุ่ง เขต 4 เมื่อปี พ.ศ.2528 ต่อมาในปี พ.ศ.2530 ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโนนสำโรง และได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าคณะอำเภอหัวตะพานอีกตำแหน่งหนึ่ง ควบคู่กับเจ้าคณะตำบลบุ่ง เขต 4 จากนั้น ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงสมณศักดิ์เป็น พระครูวรพงศ์พิสุทธิ์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2533 และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอหัวตะพาน(ธรรมยุติ) เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2539 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2541 และมหาเถรสมาคม ได้พิจารณาคัดเลือกพระครูสัญญาบัตรที่ดำรงตำแหน่งพระสังฆาธิการ ผู้บริหารคณะสงฆ์ เลื่อนจากเจ้าคณะอำเภอชั้นโทเป็นชั้นเอก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2546 ล่าสุด ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์จากพระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก เป็นชั้นพิเศษ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2551  
 
เพราะเป็นพระนักพัฒนา ไม่สะสมทรัพย์ เมื่อได้รับการถวายปัจจัยจากญาติโยม ที่ศรัทธาเลื่อมใส ก็จะนำมาสร้างเสนาสนะและพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรือง จนได้รับการคัดเลือกเป็นวัดดีเด่นอันดับที่ 1 ของจังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อปี พ.ศ.2551 และวัฒนธรรมจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ส่งวัดโนนสำโรงเข้าประกวด วัดร่มรื่น สะอาดถูกหลักอนามัยระดับภาค ได้รับรางวัลชมเชย  
 
นอกจากนี้ ยังได้ก่อตั้ง ศาลาชมรมผู้สูงอายุขึ้น ภายในวัด เมื่อปี พ.ศ.2542 ภายใต้แนวคิดที่ว่า “ ผู้สูงอายุจักต้องเข้าวัดฟังธรรม เพื่อบำเพ็ญสมาธิ รักษาศีล ในบั้นปลายของชีวิต “  
 
พระครูวรพงศ์พิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดโนนสำโรง เทศนาสั้นๆว่า พุทธศาสนิกชน ที่เข้ามาวัดส่วนใหญ่จะมีความทุกข์ ไม่เหมือนกัน ก็จะมานั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม เดินจงกลม เพื่อคลายทุกข์ ซึ่งที่นี่  จะแนะนำให้นำคำสอนของ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหลักในการปฏิบัติ ไปสู่หนทางพ้นทุกข์

หน้าแรก » ภูมิภาค