จากกรณีที่ได้มีการแชร์ต่อภาพและข้อความในโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับ เณรไปบิณทบาตรแล้วได้ ถุงยางอนามัย  มีข้อความว่า  #เณรไปบิณทบาตรแล้วได้มา  ถึงยุคที่โยมใส่บาตรถวายพระเณรด้วยถุงยางอนามัยแล้วหรือ โยมดูข่าวเกี่ยวกับพระมากเกินไปจนขึ้นสมองหรือเปล่า "โยมอย่าไปเหมารวม คิดไปเอง หรืออคติกับพระสงฆ์องค์เณรว่าเป็นคนแบบนั้นแบบนี้ ความดี ความชั่วนั้นอยู่ที่ตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะเหมารวมกลุ่มคนไม่ได้ ยิ่งแสดงอาการกิริยาแบบนี้ทั้งที่เป็นชาวพุทธยิ่งใช้ไม่ได้เลย"

พระภิกษุสามเณร ก็คือนักเรียน นักศึกษา ใครเรียนจบก็ผ่านการศึกษา (ถึงนิพพาน ควรค่าแก่การกราบไหว้) ใครเรียนไม่จบไม่ผ่านก็เรียนต่อซ้ำชั้นไปวัดยังเป็นวัดได้เพราะมีพระสงฆ์องค์เณรให้จ้างโยมมาเฝ้าวัดวัน 300 บาทโยมยังไม่มาเลยพระดีไม่ดีโยมก็ดูออก เขาเฝ้าวัดให้ท่านดูแลเสนาสนะทำความสะอาดให้ สวดมนต์ไหว้พระแผ่เมตตาให้กับท่านแลกกับข้าวที่ราคาไม่ถึงร้อยบาท จากโยมที่เมตตา

#ท่านอย่าไปทำร้ายจิตใจด้วยการกระทำแบบนี้เลย
#เหมือนจะตลกขบขันแต่มันไม่ใช่เลย
#ความดีความชั่วมีอยู่ในตัวทุกคนยอมรับมันแล้วดำเนินชีวิตต่อไปปกตินะครับ  

จากการตรวจสอบพบว่าที่เป็นผู้โพสเรื่องราวดังกล่าวลงในโลกโซเชียลคือ พระชิงชัย อิทธิเตโช พระลูกวัด วัดศรีเกิด อ.เมือง จ.เชียงราย จากการสอบถาม ทราบว่าเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤภาคม 2565 ในช่วงเช้าได้มีสามเณร 2 รูป อายุ 14-15 ปี  โดยบวชเรียนอยู่ที่วัด ได้ออกไปรับบิณฑบาตร ที่ตลาดสดเทศบาล หรือ กาดหลวงเชียงราย โดยเมื่อบิณฑบาตรไปถึงหน้าโรงรับจำนำ ได้มีชายร่างท้วม ท่าทางตุ้งติ้ง ได้ใส่บาตรกับข้าวและน่าจะมีถุงยางอานามัยประปนมาด้วย

เมื่อมาถึงวัดก็ได้จัดการของในบาตร และพบว่ามีถุงยางอนามัยหลายชิ้นติดมาด้วย ด้วยความคึกคะนอง สามเณรก็เลยเอามาเป่าเล่นตามวัย จนพระชิงชัยมาพบ จึงได้สอบถาม และทราบว่า ได้ถุงยางอนามัยมากับการรับบิณฑบาตร ตอนแรกสามเณรก็นึกว่าซอสพริก  แต่ดูเข้าจริงกลับเป็นถุงยางอนามัย จึงได้ขอเก็บทั้งหมด และถ่ายรูปเอาไว้ เพราะไม่สมควรที่สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในวัด จากนั้นก็ได้โพสต์และข้อความในเฟซบุ๊คดังกล่าว

หลังจากนั้นได้สอนสามเณรว่า สิ่งของที่เขาให้มาในบาตรนั้นไม่ผิดแต่เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง จึงขอฝากญาติโยมที่จะทำบุญควรคิดก่อนให้ดี ว่าจะถวายอะไรอย่าดูว่าพระเหมือนกับในข่าว