เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 พ.ค. 65 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ นายก อบจ.กาญจนบุรี สั่งการให้ น.ส.พลอย ธนิกุล เลขานุการ นายก อบจ.กาญจนบุรี ลงพื้นที่ประสานงานกับนายแพทย์ สมเจตน์ เหล่าลือเกียรติ ผอ.รพ.พหลพลพยุหเสนา เพื่อขอรับการสนับสนุนในการดูแลรักษานางเพ็ญนภา นายแพทย์สมเจตน์ สั่งการให้ นายแพทย์ รักษ์พงศ์ เวียงเจริญ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาฝ่ายการแพทย์ ประสานงานไปยัง รพ.มะการักษ์ ส่งรถกู้ชีพ รับตัวนางเพ็ญนภา มารับการรักษาตัวที่รพ.พหลฯทันที

น.ส.พลอย ธนิกุล เลขานุการ นายก อบจ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ทาง อบจ.กาญจนบุรี พร้อมให้สนับสนุนดูแลผู้ป่วยรายนี้ ซึ่งมีอาการบาดเจ็บน่าสงสารมาก ดังนั้นเพื่อให้การรักษาต่อเนื่อง จึงประสานทรพ.พหลฯ เพื่อรักษาต่อไป ส่วนผู้ป่วยที่รับวัคซีนในโครงการนี้หากมีอาการข้างเคียงได้รับผบกระทบสามารถประสานมายัง อบจ.กาญจนบุรี เพื่อสนับสนุนในการดูแลอำนวยความสะดวกได้ตลอดเวลา อบจ.กาญจนบุรีพร้อมช่วยเหลือในทุกด้านต่อไป

ด้าน นายแพทย์ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยนายแพทย์ รักษ์พงศ์ เวียงเจริญ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาฝ่ายการแพทย์ได้สรุปรายงานผู้ป่วย หญิง อายุ 34 ปี ที่อยู่ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด19 ยี่ห้อ Covilo ของบริษัท ซิโนฟาร์ม 2 เข็มกับ รพ.มะการักษ์ เมื่อ 27ก.ย.2564 และ 20 ตค.2564 ไม่มีรายงานผลข้างเคียง

ผู้ป่วยเป็นอาสาสมัครโครงการวิจัย เพื่อประเมินผลความปลอดภัย ปฏิกิริยาตอบสนอง และผลการสร้างภูมิคุ้มกัน ของวัคซีนป้องกันโรคโควิด19 ชนิดเชื้ออะดีโนไวรัส26 ( Ad26CoVS ) โดยการฉีดกระตุ้น หลังจากได้รับวัคซีนโควิด19 ชนิดเชื้อตาย มาแล้ว 1-2 เข็มซึ่งเป็นโครงการวิจัยที่ผ่านการกระบวนการระเบียบวิธีวิจัย รวมถึงการผ่านการรับรองจริยธรรมวิจัยโดยคณะกรรมการพิจารณาจริยธรรมวิจัยในคน และคณะกรรมการวิจัยประจำสถาบันเรียบร้อยแล้ว โดยมีอาสาสมัครในโครงการวิจัยมากกว่า 300 คน

โดยการศึกษานี้ เป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์วัคซีนคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี โดยมี แจนเซ่น เอเชีย แปซิฟิก ประเทศสิงคโปร์ เป็นผู้ให้ทุนวิจัย และสนับสนุนวัคซีนวิจัยผู้ป่วยได้เข้าโครงการวิจัย โดยได้รับทราบและทำความเข้าใจ และสมัครใจเข้าร่วมโครงการ และได้รับการฉีดวัคซีนยี่ห้อ Janssen ของ บริษัทจอห์นสันแอนด์จอนห์สัน เมื่อวันที่ 18 มค. 2565 ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา หลังฉีดไม่มีรายงานอาการผิดปกติ ได้นัดผู้ป่วยมาตรวจติดตามอาการและผลข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีน 7 วัน 14 วัน 28 วัน ตามระเบียบวิธีวิจัย ไม่มีอาการผิดปกติรุนแรง

วันที่ 12 เมย.65 หลังการฉีด วัคซีน 84 วัน ผู้ป่วยมาตรวจตามนัด ได้แจ้งว่ามีอาการตุ่มขึ้นตามตัว ได้บันทึกอาการไว้ โดยผู้ป่วยแจ้งว่าได้รักษาที่คลินิกแล้ว แพทย์แจ้งว่าแพ้เหงื่อตนเอง ได้โทรติดตามอาการผู้ป่วย ทราบว่ามีผื่นมากขึ้น จึงนัดผู้ป่วยมาตรวจรักษา เมื่อวันที่ 26 เมย. 65  แพทย์วินิจฉัยเป็น Pemphigus Vulgaris โดยได้ให้การรักษาตามมาตรฐาน และนัดผู้ป่วยมาติดตามอาการ อีกครั้งในวันที่ 6 พ.ค.65 โดยได้รายงานภาวะผิดปกติ (SAE) เสนอทีมวิจัยทราบ

ผู้ป่วยไปเข้ารับรักษาต่อเป็นผู้ป่วยในที่โรงพยาบาลมะการักษ์ 5 วัน หลังจำหน่าย ทางทีมวิจัยได้โทรนัดผู้ป่วยมาติดตามการรักษาที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา แต่ผู้ป่วยไม่สะดวกมา และรักษาโดยวิธีทางเลือกอื่น ยังไม่ดีขึ้น ทางโรงพยาบาลมะการักษ์ จึงส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 17 พ.ค.65

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีได้ประสานส่งทีมแพทย์และรถพยาบาลนำคนไข้เข้ารับการรักษาโดยเร่งด่วน ให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาลที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อคนไข้มากที่สุด

ด้าน นายแพทย์ รักษ์พงศ์ เวียงเจริญ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาฝ่ายการแพทย์ เผยว่า อาสาสมัครในพื้นที่กาญจนบุรีที่ฉีดวัคซีนยี่ห้อนี้ 300 คน ยังไม่พบผู้ป่วยที่มีการข้างเคียง พบรายนี้รายแรก ผู้ป่วยมีประวัติการรักษาโรคผิวหนังมาก่อน ตอนนี้กำลังตรวจเพื่อรักษาและเก็บข้อมูลเพื่อรายผลกระทบที่เกิดขึ้น ส่วนการรักษาใช้เวลาพอสมควร อาการเบื้องต้นเกิดผื่นบาดแผลพุพองในชั้นผิวหนังชั้นนอก ก็จะรักษาตามอาการ คงใช้เวลาพอสมควร