วันอาทิตย์ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 14:49 น.

ภูมิภาค

สุดอันซีน! อุโบสถช้างหนึ่งเดียวในเมืองไทย ที่ปลายพระยา

วันจันทร์ ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 09.50 น.
วันที่ 23 พ.ค.65 พระอุโบสถรูปช้างหมอบตั้งอยู่เด่นสง่าเบื้องหลังเป็นภูเขาท่ามกลางรายล้อมด้วยรูปปั้นช้างคือวัดถ้ำปราสาทนาฬาคิริง  ตั้งงอยู่ที่  ตำบลปลายพระบาอ.ปลายพระยาจ.กระบี่  มีไฮไลท์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนกันนั่นก็คืออุโบสถรูปช้างหมอบซึ่งไม่เหมือนที่วัดไหนๆแน่นอน เป็นสถาปัตยกรรมที่ดูสวยงามและแปลกตาที่ด้านหลังของวัดนี้เป็นที่ตั้งของถ้ำปราสาทนาฬาคิริงซึ่งถูกค้นพบโดยหลวงพ่อขจิตกมโลเจ้าอาวาสค้นพบถ้ำแห่งนี้ผ่านทางนิมิตรของท่านเองภายในถ้ำมีหินรูปหัวช้างอยู่เมื่อปี 2533 
 
 
สาเหตุที่หลวงพ่อขจิตตั้งชื่อถ้ำแห่งนี้ว่า “ถ้ำปราสาทนาฬาคิริง”นั้นเพราะถ้ำนี้มีก้อนหินหินงอกหินย้อยที่ชวนให้จินตนาการเกี่ยวกับช้างมากมายโดยชื่อ “นาฬาคิริง” มาจากชื่อ “นาฬาคิรี” ที่เป็นช้างสำคัญเชือกหนึ่งในสมัยพุทธกาลเป็นช้างที่พระเทวทัตสั่งให้มาทำร้ายพระพุทธเจ้าถึง 2 ครั้งแต่ไม่สำเร็จในครั้งที่ 3 พระเทวทัตจึงติดสินบนควาญช้างให้มอมเหล้าช้างนาฬาคิรีจนเกิดความคลุ้มคลั่งวิ่งมาจะทำร้ายพระพุทธเจ้าแต่พระพุทธองค์ได้แสดงพุทธปาฏิหาริย์บันดาลให้พญาช้างวิ่งเฉไปทางอื่นแล้วทรงแผ่เมตตาจนช้างสงบสติอารมณ์ทรุดกายถวายกราบบังคมทูลพร้อมน้ำตาไหลอาบแก้มสำนึกตนแล้วเดินกลับเข้าสู่โรงช้างดังเดิม
 
 
ซึ่งในคัมภีร์อนาคตวงศ์ระบุว่าหลังสิ้นยุคพระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้าแล้วจะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้อีกหลายพระองค์โดยช้างนาฬาคิรีจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งมีพระนามว่า “พระติสสพุทธเจ้า” “อุโบสถช้างนาฬาคิริง” ที่สร้างเป็นรูปช้างหมอบชูงวง-ชูงาดูแปลกตาแต่ว่าสมส่วนสวยงามโดยรอบอุโบสถมีใบเสมาที่ตั้งอยู่บนตัวช้างแล้วก็ยังมีไม้ตะเคียนที่วางไว้รอบๆอุโบสถเปรียบเสมือนกำแพงแก้วเมื่อเดินเข้ามาด้านในอุโบสถช้างก็จะเห็นตั้งแต่ประตูที่ทำเป็นรูปช้างด้านในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานส่วนฝาผนังและเพดานโดยรอบก็มีภาพเขียนสีเป็นรูปช้างในความเชื่อและวิถีชีวิตของคนไทยเดินชมความสวยงามของภาพต่างๆได้อย่างเพลิดเพลินใจนอกจากนี้เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมาได้มีการขุดพบแร่ควอตซ์  มีความสวยงาม  จำนวนมากถูกนำมาตกแต่งประดับไฟแสงสีภายในอุโบสถสวยงาม
 
 
หลวงพ่อขจิตกมโลเจ้าอาวาสเปิดเผยว่าเมื่อสองปีที่ผ่านมามีการขุดพบแร่ควอตซ์หรือคริสทัล  เขี้ยวหนุมานโป่งข่ามไหมแก้วโป่งข่ามไหมทองมีหลายชื่อที่ใช้เรียกแร่ชนิดนี้จากข้อมูลเกือบทุกวัฒนธรรมมีการยอมรับว่าผลึกควอตซ์ใสถูกใช้เพื่อการรักษาโรคในสมัยโบราณในประเทศอินโดนิเซียจะนิยมแก้วที่มีลักษณะแบบเดียวกันกับบ้านเราแต่จะมีความเชื่อในเรื่องของการป้องกันคาถาอาคมรวมถึงสามารถเป็นอาวุธที่ทำให้ผู้สวมใส่สามารถต่อสู้กับภูติผีปีศาจได้เป็นแร่ที่ทรงคุณค่าขลังโดยไม่ต้องปลุกเสกค้าขายดีมีโชคมีลาภเมตตา

หน้าแรก » ภูมิภาค