วันพฤหัสบดี ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567 18:05 น.

ภูมิภาค

“อธิบดีโสภณ” หารือข้อร้องเรียนโครงการสร้างกำแพงกันคลื่น “หาดเเม่รำพึง”

วันพฤหัสบดี ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2565, 07.42 น.

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เป็นประธานการประชุมหารือโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ในพื้นที่ชายฝั่งทะเล ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยมี นางพรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน กลุ่ม Beach For Life กลุ่ม SAVE หาดแม่รำพึง กลุ่มอนุรักษ์ฯบ้านกรูด และพี่น้องเครือข่ายประชาชนในพื้นที่ ต.แม่รำพึง ราว 30 คนเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมลำแพน ชั้น 9 กรม ทช.

 

 

ทั้งนี้การประชุมเป็นการหารือถึงแนวทางการสร้างกำแพงกันคลื่น ที่กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดแม่รำพึง ซึ่งมีความยาว 966 เมตร การก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดแม่รำพึง คือหายนะทางสิ่งแวดล้อมของชุมชน กำแพงกันคลื่นหาดแม่รำพึงเป็นโครงการก่อสร้างที่วางทับชายหาดแม่รำพึง ทำให้ชายหาดแม่รำพึงถูกแทนที่ด้วยคอนกรีต ไร้ซึ่งความเป็นธรรมชาติ และเป็นการทำลายระบบนิเวศชายฝั่งทะเลอย่างสิ้นเชิง ซึ่งปัจจุบันปี 2565 สภาพชายหาดกลับเข้าสู่สภาพปกติ การกัดเซาะชายฝั่งที่เกิดขึ้นเป็นภัยชั่วคราวที่ได้รับการเยียวยาความเสียหายและไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมชายหาดอย่างรุนแรง หรือทำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย หรือหากเสียหาย ความเสียหายเหล่านั้นก็ถูกบรรเทาเสร็จสิ้นแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นใดๆต้องใช้กำแพงกันคลื่นป้องกันชายหาด บทเรียนจากชายหาดต่างๆที่มีการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น เช่น หาดทรายแก้ว จ.สงขลา หาดชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นต้น กำแพงกันคลื่นทำให้ชายหาดหายไปและเกิดผลกระทบต่อชายฝั่งทะเล เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทำให้ทัศนียภาพของชายหาดธรรมชาติถูกทำลายไป

 

 

 

 

โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือน มี.ค.65 เครือข่ายประชาชน Save หาดแม่รำพึง และประชาชน ต.เเม่รำพึง ได้รวบรวมรายชื่อเรียกร้องต่อนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่รำพึง และกรมโยธาธิการฯให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดแม่รำพึง เพราะโครงการดังกล่าวจะกลายเป็นหายนะของชุมชนและสิ่งแวดล้อม และขอให้รับฟังเสียงของประชาชนที่ปรารถนาดีต่อการรักษาสภาพแวดล้อมชายหาดไว้ให้คงเป็นธรรมชาติ โดยเชื่อว่าการป้องกันและฟื้นฟูชายหาดแม่รำพึงมีมาตรการอื่นๆที่เหมาะสมต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการท่องเที่ยว มากกว่าการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทบทวนและยกเลิกโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นหาดแม่รำพึงโดยเร็วที่สุด.

 

 

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค