วันที่ 23 มิ.ย 65 จากกรณีที่ นายกฤษฎา ศรีอาจ อายุ 25 ปี คนงานไทย ภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 71 หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านโพน อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร ซึ่งเดินทางไปทำงานเกาหลีใต้ ถูกทำร้ายร่างกายบริเวณศีรษะ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 มีอาการปวดศีรษะและล้มบ่อย จนกระทั่งช็อคหมดสติ จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์แจ้งว่า นายกฤษฎา ได้รับการผ่าตัดเนื่องจากมีเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มสมองชั้นนอก โดยไม่มีแผลเปิดในกระโหลกศีรษะ หลังผ่าตัดยังไม่ได้สติและไม่สามารถหายใจด้วยตนเองได้  ญาติมีความต้องการนำคนงานรายดังกล่าว กลับมารักษาที่ประเทศไทย 

     

ทั้งนี้ จากการประสานงานของกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงาน จนในที่สุด นายกฤษฎาฯ ถูกส่งกลับมาประเทศไทย เข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ แล้ว เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมาและส่งต่อกลับไปรักษาที่ โรงพยาบาลโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร บ้านเกิด ในวันที่ 22 มิถุนายน 2565

     

นางณัฐกฤตา ดาหาร แรงงานจังหวัดสกลนคร  กล่าวว่ากรณี นายกฤษฎาฯ จะได้รับการช่วยเหลือตามสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  ทั้งเรื่องสิทธิประโยชน์เงินประกันการเดินทางกลับประเทศ จำนวน 400,000 วอน เงินประกันการทำงานครบสัญญาจ้าง จำนวน 5,000,000 วอน (55 เดือน) และเงินสงเคราะห์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ  โดยญาตินายกฤษฎาฯ สามารถดำเนินการยื่นเอกสารเพื่อติดตามสิทธิประโยชน์ตังกล่าวได้ที่สำนักงานแรงานจังหวัดสกลนครและสำนักงานจัดหางานจังหวัดสกลนคร

 

ด้าน นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร  กล่าวว่า ได้ประสานผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์สกลนคร เพื่อให้นำ นายกฤษฎา ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร เนื่องจากมีเครื่องมือทางการแพทย์ ตลอดจนอุปกรณ์การรักษาที่พร้อมมากกว่า และขอเป็นให้กำลังใจให้ครอบครัว รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ตามสิทธิประโยชน์ของผู้ป่วย ที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

ขณะที่ นางพนาวรรณ  อินธิแสง  อาของผู้บาดเจ็บ  ได้กล่าวขอบคุณ กระทรวงแรงงาน  ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เข้ามาให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว   โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ที่มีความห่วงใย โดยให้กระทรวงแรงงานเร่งประสานความช่วยเหลือและติดตามสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายโดยด่วน   สำหรับอาการของ นายกฤษฎา ศรีอาจ พบว่าดีขึ้น สามารถลืมตาและหายใจได้เองแล้ว  แต่ยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดต่อไป