กรณีหนุ่มผู้เช่าห้องพักเก็บสะสมขยะไว้เต็มห้อง ย่านอ่าวนางกระบี่นั้น ล่าสุดช่วงบ่ายวันที่ 3 ก.ค.65 นายเอ อายุ 36 ปี ผู้ที่เช่าห้องพักห้องดังกล่าว เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอ่าวนาง  และนางบุญศรี อุบล อายุ 72 ปี เจ้าของห้องเช่า เพื่อเจรจา ค่าเสียหาย ค่าเช่าที่ค้างชำระประมาณ กว่า 1 หมื่นบาท ทันทีที่นายเอ พบกับนางบุญศรี ก็ยกมือไหว้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยินดีชดใช้ค่าเสียหาย และ ค่าเช่าที่ค้างทั้งหมด แต่ขอเป็นการผ่อนจ่าย เป็นรายเดือนเดือนละ 4-5 พันบาท นางบุญศรีก็ตกลง 

 

นายเอ เปิดเผยว่า  เนื่องจากที่ผ่านมา ต้องทำงานตั้งแต่เช้า กลับตอนดึก ไม่มีเวลา นำขยะไปทิ้ง ตลอดสองปี ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และขับรถตู้ รับส่งนักท่องเที่ยวของโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านแหล่งท่องเที่ยวอ่าวนาง เลิกงานเดินทางกลับมานอนที่ห้องพักแห่งนี้ เป็นประจำ ใช้ชีวิตอาบน้ำแต่งตัว พักผ่อน อยู่ในห้องกับกองขยะ เป็นเรื่องปกติ  สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุค โทรศัพท์มือ หม้อหุงข้าว เครื่องใช้ฟ้าต่างๆ ส่วนหนึ่งเป็นของตนเองที่ซื้อมาใช้ แล้วชำรุดเสียหาย จึงซื้อใหม่ ของเก่าที่เสีย ไม่ได้นำไปทิ้ง เก็บไว้ในห้องพัก และบางส่วน เก็บได้ จากของเก่าที่มีคนนำมาทิ้งไว้ เพื่อนำมาซ่อม แต่ซ่อมไม่ได้ เนื่องจากตนเป็นช่าง ซ่อมรถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าเอง กระเป๋าสะพายแบบของผู้หญิงเป็นของอดีตภรรยาเก่าที่เลิกรากันไปแล้ว ซึ่งไม่ได้ ไปขโมยของผู้อื่นมา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจาก ทรัพย์สินที่พบมีเป็นจำนวนมาก ต้องตรวจสอบว่า ที่ผ่านมา และย้อนหลังสองปีที่ผ่านมา มีการแจ้งความถูกคนร้ายขโมยทรัพย์สินในพื้นที่บ้างหรือไม่ 

 

ด้านผู้เช่าห้องพักติดกัน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาไม่เคยพบเห็นผู้ที่เช่าห้องพักนี้มาก่อน เนื่องจากอาจเลิกงานดึก แต่เมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้ยินเสียงเพลงดังจากห้องติดกัน คิดว่าถูกผีหลอก จึงเอาหูไปฟังใกล้หน้าต่างๆ ก็ได้ยินเสียงเพลงดัง จึงคิดว่ามีคนอยู่ในห้อง แต่ไม่คิดว่าเมื่อเปิดห้องพักพบว่า มีขยะจำมากขณะนี้ เชื่อว่ามากที่สุด เท่าที่เป็นข่าวในประเทศไทย ไม่น่าเชื่อว่าจะอาศัยอยู่ได้กับขยะจำนวนมากอย่างนี้ได้