สุราษฎร์ธานี-กล้องวงจรปิดจับภาพขณะคนร้ายขว้างปากุฏิเจ้าอาวาสวัด เป็นครั้งที่ 5 ล่าสุดหารือคณะกรรมการวัดเกรงจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงกว่านี้
              

นี่คือภาพวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ได้ขณะที่มีคนร้ายก่อเหตุขว้างปากุฏิเจ้าอาวาสวัดเจริญประชาราม หรือ วัดในปราบ เลขที่ 80/9 ม.5 ต.บ้านเสด็จ อ.เคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงคืนวันที่ 16 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ขณะที่พระใบฎีกา แซม สุชมุโม อายุ 85 ปี เจ้าอาวาสกำลังจำวัดอยู่

พระใบฎีกา แซม สุชมุโม อายุ 85 ปี เจ้าอาวาสวัด กล่าวว่าขณะที่จำวัดอยู่ภายในกุฏิที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงมีคนตะโกนเสียงดัง และตามมาด้วยเสียงกระจก ด้านหน้าต่างแตก แต่เจ้าอาวาสก็ไม่กล้าออกมาดูเพราะกลัวว่าอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้ เพราะเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว รวมครั้งล่าสุดเป็นครั้งที่ 5แล้ว  แต่ยังหาสาเหตุไม่ได้และยังตามหาคนทำไม่ได้ ครั้งล่าสุดจึงได้เชิญ หน่วยงาน และคณะกรรมการของวัด เข้ามาพูดคุยหารือเพื่อหาแนวทางป้องกัน หาตัวผู้ก่อเหตุมาสอบถามถึงเหตุผลที่ทำ เพราะอะไร “หลวงพ่อก็คิดอยู่ตลอดเวลาว่ามีอะไรที่ทำไม่ถูกใจหรือไม่ตั้งแต่ปฏิบัติภารกิจมา มีคนร้ายมาก่อเหตุอยู่บ่อย  ตลอดเวลาก็อยู่อย่างพระ ปฏิบัติอย่างพระ ขอฝากให้ข้าราชการทั้งหลาย ให้รับทราบโปรดกรุณาช่วยหลวงพ่อด้วย ช่วยพระแก่ๆ ด้วย อายุ 85 ปีแล้วขออยู่อีกสักนิด ขอให้ทุกท่านช่วยเมตตากรุณาปราณีด้วย ขอขอบพระคุณยิ่ง” เจ้าอาวาสกล่าว

ด้าน นายวิฑูรย์ ชัยสิทธิ์ อายุ 57 ปี ตำแหน่ง ไวยาวัจกร ของวัด  กล่าวว่า ตนเองกลัวว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้ อาจจะมีเหตุการณ์ที่ร้ายแรงมากกว่านี้เกิดขึ้น เพราะเจ้าอาวาสอายุมากแล้ว แม้ว่ามีกรรมการวัด วนเวียนกันมาช่วยดูแล แต่ก็ไม่ได้อยู่ตลอดเวลา เลยอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับผิดชอบโดยตรง นำผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้ เพราะเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งรวมครั้งนี้เป็นครั้งที่5ยังไม่สามารถหาสาเหตุและนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ขอฝากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องช่วยดำเนินการด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับวัดในปราบเป็นวัดดังแห่งหนึ่งของ จ.สุราษฎรธานี โดยมีพระครูมงคลสมณกิจ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "พ่อท่านชื่น  อินทปัญโญ" หรือ "หลวงพ่อชื่น วัดในปราบ" เป็นผู้ก่อตั้งก่อนหน้านี้เป็นสำนักสงฆ์และเป็นวัดเมื่อปี 2532 หลวงพ่อชื่นเป็นที่รู้จักโด่งดังเรื่องเจ้าของตำนานเจ้าตำรับ "ผาลพลิกแผ่นดิน พลิกชีวิต" คือผานไถนา ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทำนาในสมัยยังใช้วัวควายไถนามีคันไถทำด้วยไม้เอาหัวไถเป็นเหล็กใส่หัวไม้ด้านติดดินให้วัวควายลากกดหัวไถให้จมดินแล้วคอยขยับให้ดินพลิกหงายขึ้นเรียกไถแปร

คติการใช้ผาลเป็นวัตถุอาถรรพณ์ ส่วนใหญ่เป็นคนในภาคใต้ โดยจะใช้ผาลในการประกอบพิธีต่างๆ เมื่อหมดอายุใช้งาน หรือมีผาลเก่าๆ ก็จะเอาขึ้นหิ้งบูชา บางรายถึงกับใส่ไว้ในโอ่งน้ำเพื่อป้องกันอาถรรพณ์ ขณะเดียวกันการทำพิธีถอนอาถรรพณ์พื้นดิน เมื่อเสร็จพิธีสวดถอนก็จะเอาผาลพลิกธรณีทั้ง 8 ทิศ นอกจากนี้แล้วในการถอนหรือย้ายตำหนิบนร่างกาย (ไฝ-ปาน) จะใช้ผาลในการประกอบพิธีถึงจะได้ผลดี

หลวงพ่อชื่น ถือเป็นตำนานแห่งผู้สร้างเครื่องรางผาลไถอันโด่งดัง เมตตาให้คติว่า วัตถุจากธรรมชาติและเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตปกติประจำวันหลายชนิดมีอาถรรพณ์อยู่ในตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องปลุกเสกสามารถนำไปใช้ได้เลย อย่างกรณีผาลไถนา ซึ่งใช้ประโยชน์สำหรับไถพลิกพื้นดิน และเป็นของใช้ชนิดเดียวในโลกที่สามารถพลิกแผ่นดินได้ เมื่อไถลงไปในดินแล้วก็สามารถผ่านตลอดโดยไม่มีอะไรติดขัด คนจึงเกิดความเชื่อ ผาลเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่สามารถพลิกสิ่งร้ายๆ ให้กลายเป็นดี ทำอะไรก็ผ่านตลอดเช่นเดียวกับผาลไถ

ท่านมรณภาพอย่างสงบเมื่อวันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2558 เวลา 14.35  น. สิริอายุรวม 92ปี.