ภูมิภาค
คาตู้!ทั้งราดำ-เพลี้ย-อ่อน ทุเรียนหมอนส่งจีนถูกตีกลับ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

ด่านตรวจพืชตีกลับทุเรียนหมอนทองล้งที่ จ.ชุมพร 38 ตัน ส่งขายประเทศจีน พบมีทั้งเพลี้ย ราดำ อ่อน ไม่มีคุณภาพ เผยทุเรียนราคาถูกลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านสวมสิทธิ์ทุเรียนไทยระบาดหนัก อาจดับอนาคตทุเรียนไทย
วันที่ 7 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากกรมวิชาการเกษตร นำโดย นายธรรมนูญ แก้วคงคา ผอ.สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร พร้อมด้วย นายก้องกษิต สุวรรณวิหค ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนาเกษตร เขต 7 สุราษฎร์ธานี นายธีระศักดิ์ ยมสวัสดิ์ เกษตรจังหวัดชุมพร และกำลังสารวัตรเกษตร นายตรวจพืช ลงพื้นที่ตรวจสอบล้งรับซื้อทุเรียนเพื่อส่งออกไปยังประเทศจีน หมู่ที่ 7 ตำบลนาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งมีเจ้าของเป็นชาวจีน หลังจากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืช จ.นครพนม และ จ.มุกดาหาร แจ้งว่ามีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์นำทุเรียนหมอนทองที่ไม่ผ่านการตรวจของด่านตรวจพืช ได้ถูกส่งกลับไปยังล้งรับซื้อทุเรียนต้นทางดังกล่าว โดยมี นายวีรวัฒน์ จีระวงส์ นายกสมาคมชาวสวนผลไม้ชุมพร นำคณะมาร่วมสังเกตุการณ์ด้วย
เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือตัดอุปกรณ์ล็อคตู้คอนเทนเนอร์เพื่อเปิดแล้วนำเอาทุเรียนหมอนทองที่บรรจุในกล่องกระดาษจำนวนมากมีน้ำหนักรวม 18 ตัน ออกมาตรวจสอบทุกคนถึงกับตกตะลึงเมื่อพบว่าลูกทุเรียนทั้งหมดมีสภาพไม่สมบูรณ์ ไม่มีคุณภาพ ไม่ได้ขนาดส่งออก เป็นตำหนิ มีทั้งเป็นโรคจากแมลง เพลี้ย และราดำ ไม่ได้มาตรฐานการส่งออกอย่างชัดเจน จึงได้สั่งอายัดทุเรียนเหล่านี้ไว้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปอีกจุดซึ่งเป็นสาขาเจ้าของล้งเดียวกัน ที่บริเวณสี่แยกเขาปีป หมู่ที่ 6 ตำทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งเป็นที่ตั้งของล้งทุเรียนอีกราย เนื่องจากได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตรวจของด่านตรวจพืชเช่นเดียวกันว่า มีล้งทุเรียนส่งออกถูกเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชตีกลับทุเรียนหมอนทองมายังล้งดังกล่าวจำนวน 20 ตัน เมื่อตรวจก็พบว่ามีทุเรียนหมอนทองจำนวนหนึ่งเป็นโรคและติดเพลี้ย เป็นราดำ ทุเรียนอ่อน ปะปนอยู่ด้วย จึงได้ทำการอายัดตรวจสอบดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับจำนวนทุเรียนหมอนทองที่ส่งออกประเทศจีนทั้งหมดรวม 38 ตัน ที่ไม่ผ่านด่านตรวจพืชชายแดนที่ จ.นครพนม และ จ.มุกดาหาร มีมูลค่าส่งออกประมาณ 19 ล้านบาท หากหลุดลอดส่งออกไปยังปลายทางประเทศจีนได้ หากถูกตีกลับและสร้างความเสียหายแก่วงการทุเรียนจากประเทศไทยเป็นอย่างมาก
ด้าน นางสาวมธุรา ศรีพรหม อายุ 43 ปี ผู้จัดการ ล้งทุเรียนที่ไม่ผ่านด่านตรวจพืชกล่าวว่า ทุเรียนจำนวน 17,000-18,000 กิโลกรัม ที่ล้งรับซื้อนี้มาจากชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช เป็นทุเรียนที่ตกไซส์ ไม่ได้ขนาด ไม่ใช่ทุเรียนเกรด A ได้รับซื้อมาเพียงกิโลกรัมละ 140-150 บาท เพราะเป็นทุเรียนที่ไม่ได้คัดเกรดตอนรับซื้อก็ไม่ได้มีการตรวจคุณภาพคัดกรองแต่อย่างใด เพียงแค่แยกของดีกับของเสียออกจากกันเท่านั้น การส่งออกไปขายยังประเทศจีนก็จะมีชิปปิ้งเป็นผู้ดำเนินการ ก่อนส่งออกก็มีการตรวจสอบที่ล้งก่อนแล้วแต่ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด อาจจะเป็นเพราะใช้เวลาขั้นตอนในการส่งออกนาน เมื่อทุเรียนไปถึงด่านตรวจพวกโรคพืชและเพลี้ยที่มันอาจฝักตัวอยู่ในผลทุเรียนจึงแสดงออกมาให้เห็นก็เป็นไปได้
นายธรรมนูญ แก้วคงคา ผอ.สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่าขั้นตอนก่อนส่งออกทุเรียนเมื่อถึงด่านตรวจพืชชายแดนจะมีการตรวจสินค้าก่อนออกใบรับรองไปยังต่างประเทศ และหากสงสัยว่าทุเรียนด้อยคุณภาพ เป็นโรค มีราดำ มีเพลี้ย มีน้ำหนักต่ำกว่าที่แจ้ง ก็จะระงับการส่งออกและตีกลับมายังต้นทาง แต่อย่างไร้ตามทั้งนี้ก่อนจะส่งทุเรียนออกจากจังหวัดชุมพร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการตรวจสอบก่อนและมีการติดสติกเกอร์รับรองให้ และเมื่อไปถึงด่านตรวจพืชจะมีการตรวจเอกสารและสินค้าเพื่อรับรองสินค้าก่อนออกจากด่านไปยังต่างประเทศ แต่ถ้าไม่ตรงกันก็จะไม่ออกเอกสารให้ ในด้านกฎหมายนั้นก็ต้องให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้นตนคงตอบไม่ได้ ซึ่งคนในพื้นที่ต้องช่วยกันตรวจสอบดูแลด้วย
ขณะที่ นายดำรงศักดิ์ สินศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าของสวนทุเรียนขนาดใหญ่ ที่เดินทางมาร่วมดูการตรวจสอบในครั้งนี้ด้วยกล่าวว่า ทุเรียนเป็นพืชสุดท้ายที่ผลผลิตราคายังไปได้ดี ถ้าชาวสวนหรือพ่อค้า เห็นแก่ตัว จะเป็นการดับอนาคตของทุเรียนไทย ส่วนทุเรียนที่เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในครั้งนี้ ตนพบความผิดปกติเนื่องจากดูคุณภาพของผลผลิตทั้งขนาด ผิวสีของเปลือกทุเรียนแล้ว ไม่น่าจะใช่ทุเรียนที่ปลูกในประเทศไทย น่าจะเป็นทุเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีราคาถูกกิโลกรัมเพียง 40-50 บาท เท่านั้น แล้วลักลอบนำเข้ามามาสวมสิทธิ์เป็นทุเรียนไทย แต่โชคดีที่ถูกตรวจพบเสียก่อนไม่งั้นเสียชื่อประเทศไทยแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของล้งทุเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นคนไทยมาเปิดรับซื้อทุเรียนในพื้นที่ จ.ชุมพร ได้มีผู้พ่อค้าซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัด เข้าไปพูดจาลักษณะเชิงข่มขู่ให้รับซื้อทุเรียนที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศเวียดนาม เพื่อสวมสิทธิ์เป็นทุเรียนไทยที่ปลูกในพื้นที่ จ.ชุมพร แต่เจ้าของล้งรายดังกล่าวไม่ยินยอมเพราะกลัวถูกจับและจะมีปัญหาสร้างความเสื่อมเสียงให้กับประเทศไทย และไม่กล้าไปร้องเรียนหน่วยงานเกี่ยวข้องในจังหวัด เพราะเกรงกลัวอิทธิพล จนตัวเองไม่ค่อยกล้าอยู่ที่ล้งรับซื้อทุเรียน ต้องให้ลูกน้องคอยดูแลรับหน้าที่แทนเรื่อยมา .
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
![]()
- ราชบุรี เปิดอาคารตลาดนัดเกษตรกรแทนอาคารที่เกิดเพลิงใหม้ 6 มิ.ย. 2568
- พราหมณ์ 700 ล้านบวงสรวงพญานาค เลขเบิ้ลโผล่กลางพิธี 6 มิ.ย. 2568
- รองผกก.สอบสวนจบชีวิตตัวเอง 6 มิ.ย. 2568
- ศิลปินดาราแฟนคลับแห่ร่วมอาลัย "วิรดา" นางเอกลิเกเงินล้านคืนที่ 4 ล้นบ้านวงศ์เทวัญ 6 มิ.ย. 2568
- เตือนทั่วไทยรับมือมรสุม! ฝนตกหนัก-ลมแรง-คลื่นสูง 7-11 มิ.ย. นี้ 6 มิ.ย. 2568
ข่าวในหมวดภูมิภาค
![]()
รวบ 3 นักค้ายา ยึดยาบ้า 2 แสนเม็ดกลางกาฬสินธุ์ 20:10 น.
- หยุดยาวคึกคัก! นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเกาะช้าง-เกาะกูด ท่ามกลางฝนตกคลื่นลมแรง 19:25 น.
- สลด! พระสงฆ์ขึ้นทำความสะอาดหลังคากุฏิ พลาดเหยียบกระเบื้องแตกร่วงหัวกระแทกพื้นมรณภาพ 19:19 น.
- “บิณฑ์-ไทด์” วิ่งฝ่าสายฝน สักการะคุณย่าโม ชาวโคราชต้อนรับอบอุ่น 18:49 น.
- วัดห้วยแก้วเปิดโครงการ 1 อำเภอ 1 ลานสร้างสรรค์ ขับเคลื่อน Soft Power 18:44 น.