วันที่ 23 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจดังฯ ที่จ.อุดรธานี ได้โพสต์ชี้แจงอีกครั้งเรื่องปมเงินบริจาคให้แก่เหล่าฮีโร่ช่วยน้องๆ ไฟดูด หลังประชาชนยังสงสัยในเรื่องนี้ และยังไม่ทีท่าเรื่องจะจบลงง่ายๆ โดยวันนี้ เพจ udonthani update ได้โพสต์ แจ้งว่า ขอชี้แจงรายละเอียดยอดเงินที่ผู้ใหญ่ใจดีติดต่อให้เพจนำไปให้น้องฮีโร่ มีดังนี้ ก่อนอื่นต้องขอชี้แจงก่อนว่า ทางเพจไม่ได้เปิดรับบริจาคในเคสนี้แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะทางผู้ใหญ่ใจดีติดต่อประสานเข้ามาเพื่อให้ทางเพจเป็นตัวกลางนำส่งมอบให้เท่านั้น โดยรายละเอียดมีดังนี้ 1. คุณพีระวัฒน์ เจริญพืชผล  มอบให้ 20,000 บาท  ในส่วน 20,000 นั้นให้ผู้ดูแลเพจ 5,000 บาทเพื่อสนับสนุนและเป็นค่าใช้จ่ายที่ทีมงานลงพื้นที่ช่วยเหลือฮีโร่ จะเหลือยอด 15,000 บาท 2.ปัณณวิชย์ 5,000 บาท 3.คุณขวัญเตี๋ยวไก่มะระ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 30,000 บาท 1.วันที่ 17 กันยายน 2565 จ่ายให้น้องบาส 15,000 บาท 2.ให้เอ๋ 5,000 บาท แต่น้องเอ๋ไม่ขอรับซองน้องบอกว่าไม่เป็นไรน้องอยากให้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บมากกว่า  แอดมินจึงให้น้อง 2,000 บาท และแบ่งให้ผู้บาดเจ็บชื่อ น้องโซดา 3,000  ยังเหลือผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ชื่อน้องเลย์ ไม่มีคนบริจาคให้ แอดมินจึงได้ ควักเงินส่วนตัวใส่ซองให้น้อง 1,000 บาท

 

วันที่ 19 กันยายน 2565 ทางแอดมินได้มอบเงินผู้ใจบุญที่บริจาคมาใหม่ ให้กับทางน้องบาส 5,000 บาท แอดมินได้ประสานและกดเงินสดเพื่อไปรอพบน้องตั้งแต่เวลา16.48 น.นั่งรอนานพอสมควร จึงได้ติดต่อไปหาน้องและสอบถามว่าจะเข้ามาตอนไหน น้องบาสบอกว่าทำธุระอีกพักนึงเดี๋ยวกลับครับ แอดมินจึงขอตัวกลับก่อน ในระหว่างขับรถกลับบ้านทางแอดมินได้จอดเติมน้ำมันแต่เนื่องจากแบตหมดไม่สามารถสแกนจ่ายได้ จึงได้ใช้เงินสดในซอง 1,000 บาท เพื่อเติมน้ำมัน พอมาถึงบ้านชาร์แบตแล้วโทรหาน้องเวลา 18.48 ซึ่งน้องบอกถึงบ้านแล้วแอดมินจึงขับรถไปหาน้องและได้ถ่ายรูปมอบซองให้กับน้องและแจ้งน้องบอกว่าพี่เติมน้ำมันไป 1,000 นึง เดี๋ยวโอนให้น่ะ  จากนั้นก็ได้นั่งคุยกับน้องโดยวางกระเป๋าเอกสารไว้บนโต๊ะ คุยกันสักพักใหญ่จนมีแฟนโทรมาหาแอดมิน บอกว่าร้านน้ำดื่มที่สั่งไว้ 100 แพ็ค เขาเอามาส่งแล้วให้รีบกลับมาด่วน  แอดมินจึงได้เก็บเอกสารบนโต๊ะและขับรถกลับบ้าน ในระหว่างทางจึงได้โพส ยอดบริจาคในเพจ พอถึงบ้านได้มีป้าน้องบาสทักมาหาว่าทำไมบาสถึงได้แค่ 1,000 เดียว เห็นโพสบอกว่าได้คนล่ะ 5,000 บาท แอดมินจึงแจ้งไปว่าก็ถูกแล้วไงค่ะโอนให้ 1,000 บาท กับเงินในซองที่มอบให้ 4,000 บาท ไงค่ะ แต่ป้าก็ยืนยันไม่เห็นซอง แอดมินจึงได้โทรสอบถามน้องบาสว่าเจอซองมั้ยหาดีๆถ้าไม่เจอเดี๋ยวพี่จะไปดูในกระเป๋าเอกสารในรถให้ จนแอดมินได้เดินไปตรวจสอบกระเป๋าเอกสารในรถพบซองติดมากับเอกสารจริง จึงรีบแจ้งและส่งภาพไปให้น้องดูและบอกว่าน้องสะดวกมารับเองมั้ย น้องบอกว่าไม่สะดวกให้โอนเลยแอดมินจึงโอนให้ 4,000 บาท

 

น้องบอส 5,000 บาท สาเหตุที่น้องบอสได้เงินช้าในวันที่ 19 เนื่องจากว่าน้องบอสไม่ว่างมารับ 17-18 จึงได้ทำการโอนให้น้องในวันที่ 19 ก.ย. 65 กรณีที่เป็นข่าวว่าให้น้องเอ๋บอกได้รับ5,000บาทนั้น เพราะเป็นความประสงค์จากผู้ใหญ่ใจดีต้องการมอบให้ฮีโร่ทั้ง3คนเท่านั้น ไม่ได้ประสงค์มอบให้ผู้บาดเจ็บ แอดมินองุ่นกลัวผิดจุดประสงค์ของผู้มอบ จึงไปโทรไปแจ้งน้องเอ๋เช่นนั้น**ว่าได้5,000 จริง เพราะกลัวผู้ใจบุญตำหนิว่าแบ่งให้คนอื่นทำไม ทางเพจขอยืนยันตามยอดนี้ ถ้ามียอดอื่นที่ไม่ได้กล่าวถึง สามารถลงสลิปหรือหลักฐานการโอนได้ในโพสนี้ หากโอนมาและทางเพจไม่ได้ทำการส่งมอบ ยินดีให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่แอดมินองุ่นนำส่ง แต่น้องบาสแจ้งไม่ได้รับเงินนั้น ให้เป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป

 

ส่วนในกรณีที่มีผู้ใช้ ที่ มีผู้ใช้ Facebook ชื่อ Nan Nalita แชทตอบในเพจข้อความดังนี้ 1.จำนวนเงินจากคุณขวัญก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ 10,000 บาท 2. คุณพีระวัฒน์เจริญพืชผล 15,000 บาท 3. และยังมีอีกสามท่าน ได้แก่ร้านเจริญการไฟฟ้า 2,000 บาท 4. คุณตฤภรรษ 1,000 บาท5. คุณทรงพล 20,000 บาท รวมเป็นยอด 48,000 บาท ชี้แจงดังนี้  ในส่วนของร้านการเจริญการไฟฟ้า และคุณตฤภรรษ และคุณทรงพล บุคคลทั้ง 3 ท่านนี้ เป็นคนไปมอบด้วยตนเอง ไม่ได้บริจาคผ่านเพจ แอดมินแค่ลงข่าวให้เท่านั้นว่าเขามอบเงินเท่าไหร่  ทำไมถึงเอายอดมารวมกันมันเลยเยอะ ทำให้คนสับสน ส่วนเรื่องที่เป็นประเด็นว่ามอบเงินให้จริงหรือไม่นั้น ต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบสวนสอบสวนหาความจริง แอดมินแค่แจงยอดบริจาคเท่านั้น หากแอดมินองุ่นผิดจริงก็สามารถดำเนินคดีได้เลย ทางแอดมินอีกหลายท่านบริสุทธิ์ใจ ส่วนเรื่องที่คนเข้าใจว่าน้องแจ้งความดำเนินคดีแอดมินขอแจงแบบนี้ว่าวันที่ 20 ก.ย. 65 ที่น้องไปแจ้งความนั้นเป็นการลงบันทึกประจำวันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือให้เพจเปิดรับบริจาคแค่นั้นเอง ไม่ได้ดำเนินคดีน่ะครับ จึงขอชี้แจงเท่านี้และขอรวบรวมเอกสารเพื่อไปศูนย์ดำรงธรรมต่อไป

 

นอกจากข้อความที่ทางเพจฯ ชี้แจงเรื่องเงินบริจาคแล้วยังมีแชทคุยกันระหว่างน้องบาส น้องเอ๋ และหลักฐานการโอนเงินให้ที่ทางเพจฯ เอามาแสดงด้วย ขณะที่มีประชาชนเข้าไปแสดงความคิดเห็นว่า เหมือนเพจไม่แสดงเจตนาบริสุทธิ์เรื่องเงินบริจาคช่วยน้องฮีโร่ เจ้าของเพจไม่ออกมาแถลงข่าวให้ชัดเจน และไม่เอาสเตรทเม้นมาโชว์ให้หายสงสัย บางคนก็บอกว่าทำไมเราเป็นคนขี้สงสัยขนาดนี้ เงินก้อน 30,000 บาส 15,000 บอส 5,000 เอ๋ 5,000ยอดรวม 25,000 ?? สงสัยต่อได้มั้ย บางคนก็บอกว่า ควรสรุปตั้งแต่แรกก่อนที่ทัวร์จะลง และอยากให้เจ้าหน้าที่ฯ เรียกเจ้าของเพจมาชี้แจงในเรื่องนี้ด่วน

 

ล่าสุดวันนี้ เวลา 17.00 น.ที่สภ.เมืองอุดรธานี น.ส.สุภารัตน์ ภูเหมือนบุตร อายุ 28 ปี หรือน้องเอ๋ ฮีโร่สาวหล่อที่ไปช่วยน้องเรดิโอถูกไฟดูดช่วงน้ำท่วมที่ถนนศรีชมชื่น เมื่อวันที่ 16 ก.ย.65 ได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.เจษฏา ว่องไว  พนักงานสอบสวนสภ.เมืองอุดรธานี เพื่อแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและอยากให้เจ้าหน้าที่ฯ นำภาพกล้องวงจรปิดที่รพ.มาเปิดให้ประชาชนดูเลยว่า วันนั้นเรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่

 

โดยน้องเอ๋ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว กรณีทางเพจดังฯ ได้ออกมาชี้แจงทางเพจในวันนี้ว่า ตามข้อ 2 ที่ว่า องุ่นได้มอบเงินจากผู้ใจบุญให้ 5,000 บาท และหนูเป็นคนบอกว่า แบ่งให้น้องโซดา 3,000 บาท  โดยในเรื่องนี้น้องเอ๋ บอกว่า ตนยืนยันอีกครั้งว่า ในวันนั้นเดินทางไปเยี่ยมน้องเรดิโอ และพบกับองุ่น แอ้ดมินเพจฯ พอดี เขาก็มาหาแล้วบอกว่ามีคนใจดีมอบเงินให้ จากนั้นก็หยิบเอาเงินในกระเป๋าใส่ซองขาว มอบให้และถ่ายรูป ตนไม่รู้หรอกว่าใครมอบให้เท่าไรอย่างไร วันนั้นไม่ได้มารับเงินด้วยตั้งใจมาเยี่ยมน้อง จากนั้นเราก็กลับบ้านพอแฟนเปิดออกมาเห็นเงิน 2,000 บาท ก็ไม่ได้คิดอะไร ต่อมาองุ่นก็โทรมาหาบอกว่า ถ้าใครโทรมาหาให้บอกว่า เปิดซองดูแล้วมอบเงินให้ 5,000 บาทนะ เราก็บอกว่า ให้เราบอกอย่างนั้นไม่ได้เพราะในซองมีแค่ 2,000 บาท ขอยืนยันแบบนี้ แต่ที่เขาลงชี้แจง เหมือนเขาโยนความผิดมาให้หนู หนูไม่มีเจตนาจะได้เงินอะไร เพราะตั้งใจช่วยน้องเรดิโอด้วยใจ องุ่นเขาเป็นคนพูดเองเออเองหมดเลย หนูได้เห็นเขาชี้แจงในวันนี้แล้วไม่สบายใจ จึงเดินทางมาพบตร.แจ้งความว่า ทางเพจฯ ลงชี้แจงไม่เป็นความจริง คนจะเข้าใจว่าหนูพูดอย่างนั้น และอยากให้ตร.นำภาพวงจรปิดมาดูให้สาธารณะชนดูเลยว่า ตกลงคืออะไรกันแน่ และอยากฝากบอกถึงองุ่น ให้ออกมาพูดต่อหน้าสื่อเลยว่า ตกลงพูดอะไรไปบ้าง เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจเสียที เขาพูดอย่างนั้น ทำให้หนูรู้สึกเสียใจและไม่โอเค เราไม่เคยโกหกใคร แต่มาพูดแบบนี้เหมือนโยนความผิดมาให้เรา น้องเอ๋กล่าวตอนท้าย