เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 24 กันยายน 2565 ร.ต.อ.เทียนชัย ใหม่เอี่ยม รองสารวัตรสอบสวน สภ.คูคต ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มวัยรุ่นไล่ฟันคู่อริบาดเจ็บเหตุเกิดบริเวณ ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งบริเวณชุมชนเลียบคลองสองหมู่ 5 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี หลังรับแจ้งได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู โดยที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่อาสาสมัครนำผู้ได้รับบาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้
  

ที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 รายทราบชื่อ ด.ช.รพีพันธ์  อายุ 15  ปี มีบาดแผลถูกอาวุธมีดฟันข้อศอกซ้ายได้รับบาดเจ็บเป็นแผลความยาวประมาณ 3 เซนติเมตร  ทางอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูรีบปฐมพยาบาลนำส่งโรงพยาบาลประชาธิปัตย์ ภายในห้องน้ำข้างปั๊มน้ำมันมีรอยเลือดเปื้อนกำแพงประตูห้องน้ำพังได้รับความเสียหายจากแรงมีดที่กลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งพังประตูเข้าไปฟันผู้ได้รับบาดเจ็บพร้อมกับปาระเบิดปิงปองจำนวน 2 ลูกเข้าใส่ นอกจากนี้ยังพบมีดหัวตัด ยาว1 ฟุต 1 เล่มตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และปลอกมีด รถจักรยานยนต์ของผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 คันไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ยี่ห้อ honda สีดำ โดยไฟหน้ารถแตก
 

จากการสอบถามนางสาว ศิริจันทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปีพนักงานสาวปั๊มน้ำมัน ได้เปิดเผยว่า ในขณะเกิดเหตุตนนั่งทำงานอยู่ มีกลุ่มวัยรุ่นไล่ฟันกันมา  ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้นที่ถูกฟันนั้นขับรถมาจอดภายในบริเวณปั๊มน้ำมันที่ตนทำงานอยู่ จากนั้นก็มีวัยรุ่นที่ขับรถตามกันมา โดยมีทั้งหมด 6 คนใช้รถจักรยานยนต์ 3 คันสวมหมวกกันน็อคเต็มใบได้เข้ามารุมทำร้ายและฟันน้องจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นน้องผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้วิ่งเข้าไปภายในห้องน้ำและ ได้วิ่งไล่ตามคล้ายลักษณะเอาลูกระเบิดปิงปองเขวี้ยงเข้าไปภายในห้องน้ำจนประตูห้องน้ำพังได้รับความเสียหาย จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่มากันทั้งหมด 6 คนยังไม่หนำใจได้รุมฟันรถจักรยานยนต์ของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่นานกลุ่มวัยรุ่นได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งผู้ที่ไล่ฟันนั้นมีอาวุธครบมือ หลังจากเหตุสงบลงตนจึงได้โทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครได้มาที่เกิดเหตุให้การช่วยเหลือ
 

เบื้องต้น ร.ต.อ.เทียนชัย ใหม่เอี่ยม รองสารวัตรสอบสวน สภ.คูคต ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนี้ก็จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสของผู้ที่ก่อเหตุ และจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เพื่อติดตามกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป