นครราชสีมา วันนี้ (4 ตุลาคม 2565) นายนิมิต  ปัทมเจริญ  นายอำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.ชุมพวงว่า อำเภอชุมพวงเป็นพื้นที่รับน้ำจากแหล่งน้ำ  3 แหล่งใหญ่ คือ แม่น้ำมูล , ลำน้ำเค็ม จาก อ.พิมาย และลำน้ำมาสา จาก  อ.ลำปลายมาศ จ.บรีรัมย์ ไหลมาบรรจบกัน และปีนี้ปริมาณน้ำของแต่และลำน้ำมีมามหาศาลมาก จึงไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มน้ำของ อำเภอชุมพวง รวม 7 ตำบลจากทั้งหมด 9 ตำบล ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 1,000 หลังคาเรือน

ล่าสุดวันนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนราชการถูกน้ำท่วมสูงต้องปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนด  ทั้ง ที่ว่าการอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ สถานีตำรวจ โรงเรียนอนุบาลชุมพวง ที่ดินอำเภอ และส่วนราชการอื่นที่อยู่ในโซนเดียวกัน มีเพียงสำนักงานเกษตรและโรงพยาบาลชุมพวงที่น้ำยังไม่ท่วม ถือเป็นสถานการณ์น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 30 ปีของเภอชุมพวง

นายนิมิตฯ กล่าวอีกว่า การให้ความช่วยเหลือประชาชนนั้น ทางอำเภอได้ดำเนินตามแผนเผชิญเหตุที่วางไว้ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าช่วยเหลือประชาชน และขณะนี้ทหารและหน่วยงานอื่นๆ ได้ส่งกำลังเข้ามาในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน  ขณะนี้ทุกพื้นที่ได้พักพิงชั่วคราวขึ้น ส่วนใหญ่จะใช้วัดที่ไม่ถูกน้ำท่วมเพื่อให้ประชาชนได้มีสถานที่พักและย้ายสิ่งของมาไว้ และบางส่วนที่ไม่ต้องการจะย้ายออกจากบ้านแม้จะมีน้ำท่วมได้ให้เจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปแจกถุงยังชีพ ส่งน้ำส่งอาหารให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง และในส่วนใดที่ยังขาดแคลนหรือต้องการความช่วยเหลือ ทางอำเภอจะประสานทางจังหวัดเพื่อของบประมาณในการช่วยเหลือต่อไป

ขณะนี้เป็นห่วงพื้นที่ท้ายน้ำมากที่สุด เช่น ต.ประสุข , ต.หนองหลัก และ อบต.ชุมพวง ซึ่งระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การระบายน้ำทำได้ค่อนข้างลำบาก เพราะการะบายน้ำจะต้องไปเจอกับเขื่อนที่เมืองยางก่อนไปไหลลงสู่ลำมูล ในช่วงการระบายน้ำอาจจะต้องใช้เวลาหลายวัน และระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก

นายนิมิตฯ กล่าวอีกว่า ในช่วงนี้ขอแจ้งเตือนประชาชนที่จะใช้เส้นทางประทาย-ชุมพวงขอให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทนเพราะน้ำท่วมสูงมาก ส่วนพื้นที่เกษตรขณะนี้ประเมินความเสียหายไม่ได้รวมถึงต้องสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าจะเสียหายเป็นจำนวนมาก

ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา สรุปสถานการณ์สถานการณ์น้ำท่วมเนื่องจากอิทธิพลของพายุ “โนรู” ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน –4ตุลาคม2565 ว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น จำนวน 18 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครราชสีมา , อ. จักราช , อ.พิมาย , อ.สูงเนิน , อ.พระทองคำ , อ.เฉลิมพระเกียรติ ,อ.ปักธงชัย , อ.คง , อ.ประทาย ,อ.ลำทะเมนชัย , อ.แก้งสนามนาง , อ.ด่านขุนทด , อ.โนนสูง , อ.ห้วยแถลง , อ.ชุมพวง , อ.โนนไทย , อ.เมืองยาง และอำเภอหนองบุญมาก รวม 116 ตำบล 1 เทศบาลนคร 605 หมู่บ้าน 4 ชุมชน บ้านเรือนท่วมน้ำขัง จำนวน 3,224 หลัง

นอกจากนี้วัด 11 แห่ง , รพ.สต. 1 แห่ง , โรงเรียน 5 แห่ง , ถนน 141 สาย และโรงสูบน้ำ 1 แห่ง ความเสียหาย ของพื้นที่การเกษตรในเบื้องต้น ประมาณ 114,527 ไร่ อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (นายดำรงเกียรติ จอมเกาะ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 159 หมู่ที่ 6 ตำบลด่านจาก อำเภอโนนไทย พลัดตกจมน้ำเสียชีวิตคลองน้ำบ้านแฉ่ง ตำบลถนนโพธิ์)

ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบัน (4 ต.ค. 2565) คลี่คลายแล้ว 1 อำเภอ คือ อำเภอหนองบุญมากฯ ยังคงมีสถานการณ์จำนวน 17 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครราชสีมา , อ.จักราช , อ. พิมาย , อ.สูงเนิน , อ.พระทองคำ , อ.เฉลิมพระเกียรติ , อ.ปักธงชัย , อ.คง , อ.ประทาย , อ. ลำทะเมนชัย , อ.แก้งสนามนาง , อ.ด่านขุนทด , อ.โนนสูง , อ.ห้วยแถลง , อ.ชุมพวง , อ. โนนไทย และ อ.เมืองยาง รวม 114 ตำบล / 1 ทน. 603 หมู่บ้าน 4 ชุมชน บ้านเรือน ถูกน้ำท่วม 3,210 หลัง วัด 11 แห่ง รพ.สต. 1 แห่ง โรงเรียน 5 แห่ง ถนน44 สาย และโรงสูบน้ำ 1 แห่ง และพื้นที่การเกษตร 114,527 ไร่