วันเสาร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568 02:22 น.

ภูมิภาค

แชมป์ตลอดกาล! เรือไฟโพนสวรรค์ลำใหญ่ที่สุดในโลก โชว์ความงามกลางสายน้ำโขง

วันพฤหัสบดี ที่ 06 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 18.04 น.
วันที่ 6 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้รายงานบรรยากาศตลอดแนวริมฝั่งน้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ยังคงเต็มไปด้วยบรรดาเหล่าศิลปินเรือไฟ รวมถึงตัวแทนแรงงานชาวบ้าน ที่ระดมแรงกายแรงใจ มาร่วมต่อเติมสรรค์สร้างเรือไฟ รวมทั้ง 12 ลำ เพื่อเตรียมไหลตามลำแม่น้ำโขง และประกวดโชว์ในคืนวันออกพรรษา เพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 11 ของวันที่ 10 ตุลาคมนี้  และถือเป็นคืนไฮไลท์(Highlight)ของงาน โดยได้กำหนดจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 1-11 ตุลาคม 2565 ปีนี้ถือว่าจัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี หลังได้รับผลกระทบจากโควิดระบาดมานานกว่า 2 ปี ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวซบเซาลง ในปีนี้จึงมีการจัดอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงพลังศรัทธา รวมถึงความสามัคคีของชาวบ้าน ส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวฟื้นตัว
 
เช่นเดียวกันกับชาว อ.โพนสวรรค์ นับเป็น 1 ใน 12 อำเภอของจังหวัดนครพนม เรือไฟที่ผ่านมาถือว่าเป็นแชมป์ผูกขาด  เพราะเป็นอำเภอแรกๆที่สร้างเรือไฟประยุกต์ ที่มีขนาดใหญ่ สูง และยาว อีกทั้งศิลปินเรือไฟผู้รังสรรค์แบบลวดลาย ก็มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ สำหรับปีนี้โดยการนำของ นายนิพพิชฌน์ อติอนวรรตน์ นายอำเภอโพนสวรรค์ ได้ระดมตัวแทนศิลปินเรือไฟ แรงงานชาวบ้าน วันละกว่า 100 คน มาร่วมต่อเติมสร้างสรรค์เรือไฟขนาดใหญ่ เพื่อบันทึกเป็นสถิติเรือไฟประยุกต์ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดความยาวถึง 88 เมตร ความสูง 26 เมตร ฐานกว้างประมาณ 15 เมตร ใช้ไม้ไผ่มากกว่า 5,000 ลำ ประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟเกือบ 30,000 ดวง
 
โดยเป็นการแสดงออกถึง ความร่วมมือร่วมใจ พลังศรัทธาของชาวบ้าน หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ทุ่มทุนสร้างใช้งบประมาณเกือบ 1 ล้านบาท ส่งประกวดในประเภทความสวยงาม เพื่อสร้างความประทับใจให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว ที่จะมาเที่ยวชมในคืนวันออกพรรษา อีกทั้งเป็นการ กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ตื่นตากับเรือไฟยักษ์ที่สวยงามที่สุดในโลก โดยไม่ได้คำนึงถึงค่าจ้างรางวัล  แต่มุ่งเน้นความสวยงาม และความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมกันสร้างเรือไฟขึ้น 
 
นายนิพพิชฌน์ อติอนวรรตน์ นายอำเภอโพนสวรรค์ เปิดเผยว่า อ.โพนสวรรค์เป็นอำเภอขนาดเล็ก แต่มีการสร้างเรือไฟขนาดใหญ่มาทุกปี  แสดงออกถึงพลังศรัทธาความรักสมัครสมานสามัคคีของพี่น้องชุมชนต่างๆ ที่ช่วยกันบริจาคสมทบทุน รวมถึงอุปกรณ์ในการต่อเติมเรือไฟ ตั้งแต่ไม้ไผ่ไปจนถึงกระป๋องกาแฟรีไซเคิล ที่นำมาทำเป็นตะเกียงไฟโบราณตามภูมิปัญญาชาวบ้าน ประดับตกแต่งให้แสงไฟออกมาอย่างสวยงาม ถือเป็นอำเภอที่เคยได้แชมป์ประกวดเรือไฟประเภทความสวยงามเกือบทุกปี ปีล่าสุด 2562 ก็คว้าแชมป์ประเภทความสวยงามไปครอง
 
ส่วนปีนี้ อ.โพนสวรรค์ยังคงเน้นสร้างเรือไฟขนาดใหญ่ ความยาว 88 เมตร ความสูง 26 เมตร ฐานกว้างประมาณ 15 เมตร และประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟมากกว่า 20,000 ดวง ได้งบประมาณสนับสนุนจากทางจังหวัดบางส่วน ส่วนใหญ่จะมาจากภาคประชาชนและเอกชน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันสนับสนุน เรือไฟลำนี้ใช้งบประมาณเกือบ 1 ล้านบาท โดยไม่คำนึงถึงค่าจ้างรางวัล สำคัญที่สุดคือความภาคภูมิใจที่ประชาชนชาว อ.โพนสวรรค์ ได้มีส่วนร่วมในการสร้างเรือไฟขนาดใหญ่ ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวชมเกิดความประทับใจ ไม่ผิดหวังแน่นอน 
 
สำหรับลวดลายความสวยงามปีนี้ จะเน้นรูปแบบเป็นสัญลักษณ์ของ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงพระธาตุโพนสวรรค์ และพระธาตุประจำวันเกิดของ จ.นครพนม นอกจากนี้ยังมีพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลปัจจุบัน แสดงออกถึงความจงรักภักดี มีภาพเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ที่ออกแบบจากลวดลายเหล็กดัด ก่อนนำตะเกียงไฟโบราณมาร้อยเรียงกว่า 20,000 ดวง สร้างความสวยงามกลางน้ำโขง ในคืนวันออกพรรษา สำคัญที่สุดแรงงานทุกคนที่ร่วมสร้างเรือไฟใช้เวลากว่า 1 เดือน ไม่มีค่าจ้างค่าแรงใดๆ เน้นพลังศรัทธา แรงกายแรงใจ  และไม่คำนึงถึงค่าจ้างรางวัล เนื่องจากรางวัลชนะเลิศแค่ไม่กี่หมื่นบาท แต่การก่อสร้างต้องใช้งบประมาณเกือบล้านบาท เพื่ออยากให้ประชาชน นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจ และได้ร่วมสืบสานประเพณีอันยิ่งใหญ่ที่สำคัญของ จ.นครพนม

หน้าแรก » ภูมิภาค