วันเสาร์ ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 15:17 น.

ภูมิภาค

ชัยนาทวิกฤตหนัก! เกาะคุ้งสำเภาจุดบรรจบเจ้าพระยา-สะแกกรังกลางแม่น้ำจมหาย

วันพุธ ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 09.51 น.

วันที่ 12 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำ ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ภาคกลาง พบว่าน้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณน้ำฝนจากทางตอนบนประเทศ วัดได้อัตรา 3,048 ลบ.ม./วิ โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ล่าสุดวัดได้ +17.70 เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง

 

 

ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้ปรับเพิ่ม อัตราการระบายไปที่ 3,159 ลบ.ม./วิ เพื่อรักษาสมดุลของน้ำเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน และ เพื่อชะลอน้ำเหนือไว้ในลำน้ำเหนือเขื่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งจากการระบายน้ำในเกณฑ์ดังกล่าวส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกระดับขึ้นรายชั่วโมง เมื่อเวลา 08.00น.ที่ผ่านมาวัดได้ +17.37 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เอ่อล้นสูงกว่าตลิ่ง 1.03 ม.รทก. ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่เขื่อนเจ้าพระยามีการปรับระดับการแจ้งเตือนจากธงเหลือง ในสถานการณ์เฝ้าระวัง ขึ้นเป็นธงแดง ซึ่งเป็นสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพขึ้นมานอนริมถนนสายต่างๆกันมากขึ้น โดยเฉพาะถนนคันคลองมหาราชที่ปัจจุบันมีกว่า 1,300 ครัวเรือน ที่ต้องขึ้นมานอนริมถนน

 

 

 

ซึ่งจากระดับน้ำเหนือเขื่อนที่เพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำเหนือ ส่งผลให้ระดับน้ำเอ่อล่นเข้าท่วมพื้นที่ริมตลิ่งเหนือเขื่อน โดยเฉพาะเกาะคุ้งสำเภา เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณจุดบรรจบแม่น้ำสะแกกรังกับแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ปัจจุบันระดับน้ำได้เอ่อขึ้นท่วมพื้นที่เกาะจนมิดแล้วทั้งเกาะ น้ำลึก 2 เมตรกว่า เหลือให้เห็นเพียงต้นไม้และบ้านเรือนประชาชนกว่า 40 ครัวเรือนที่อยู่เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ยังอยู่ได้เฉพาะบ้านที่สร้างบนสันเกาะเท่านั้น ประชาชนบางส่วนก็อพยพขึ้นมาพักอาศัยอยู่บ้านญาติบนฝั่งเพื่อความปลอดภัยแล้ว

 

 

 

ทั้งนี้เขื่อนเจ้าพระยามีแผนคงการระบายน้ำไว้ในเกณฑ์ 3,000 กว่า ลบ.ม.ในช่วงตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมเป็นต้นไป เพื่อพร่องน้ำในพื้นที่เหนือเขื่อนที่กำลังเต็มความจุลำน้ำ และลดผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่งเหนือเขื่อน แต่จะกระทบกับพื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งจะมีระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นได้อีก

 

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค