วันที่ 23 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศสีสัน งานเทศกาลศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 ที่มีฑูตวัฒนธรรมกว่า 15 ประเทศเข้าร่วมงาน จัดขึ้นที่บริเวณลานกิจกรรมวัฒนธรรมอำเภอสังขะ อำเภอสังขะ เมื่อวันที่ 21 ต.ค.65 ที่ผ่านมา โดยนายธาตรี สิริรุ่งวนิช นายอำเภอสังขะ เป็นประธานเปิดงานเทศกาลศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 ด้วยอำเภอสังขะได้ร่วมกับมูลนิธิศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติ มูลนิธิส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ สภาวัฒนธรรมอำเภอสังขะ จัดกิจกรรมเทศกาลศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติแห่งประเทศไทย Thailand International Folklore Festival ( ThailandIFF หรือ ไทยแลนด์ดีฟ ) ระหว่างวันที่ 21 – 22 ตุลาคม 2565 โดยมีคณะบุคคล สถาบันในประเทศสมาชิกคือ มหาวิทยาลัย สถาบันทางศิลปวัฒนธรรม สถาบันการศึกษา โรงเรียน องค์กร นิติบุคคลทางศาสนาและองค์กรที่ยูเนสโกรับรอง ที่น่าเชื่อถือทั่วโลกกว่า 36 ประเทศ ในงานดังกล่าวนี้ มีผู้แทนแต่ละประเทศนำคณะศิลปินมาแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ชาติพันธ์ พิธีกรรม ประเพณีและความเป็นพื้นบ้าน สัมมนาและจัดค่ายวิชาการ ความสัมพันธ์วิถีไทยวิถีพุทธและวิถีโลก การประกาศสันติภาพโลก และหลักสูตรภูมิปัญญาท้องถิ่นและความเป็นนานาชาติ มีทั้งสิ้น 15 ประเทศได้แก่ บัลแกเรีย,กัมพูชา , จีน, ฮังการี, อินเดีย, อินโดเซีย, อิตาลี, เกาหลี, เม็กซิโก, เมียนมาร์, ฟิลิปปินส์, ปากีสถาน, โปแลนด์ , ศรีลังกา และเวียดนาม รวมเป็น 15 ประเทศ จำนวนศิลปินนานาชาติ 181 คน รูปแบบการจัดกิจกรรม มีการลงนามความร่วมมือระหว่างผู้แทนอาคันตุกะศิลปินนานาชาติทุกประเทศกับผู้นำท้องถิ่น รวมทั้งให้คำรับรองประเทศ เขตมรดก ล้ำค่าต่อสาธารณชนโลก ยกย่องเชิดชูประกาศเกียรติคุณพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบควบคู่กับการประกาศหมู่บ้านศีลห้า ที่ดีเด่นเป็นหมู่บ้านในฝันสันติภาพโลก เพื่อเผยแพร่ทาง Platform ต่างๆแก่สาธารณชนทั่วโลก มีการทำบุญผ้าป่านานาชาติทอดถวาย ณ สำนักปฏิบัติธรรม “สติภาวนาภิรตาราม” อาคันตุกะศิลปินนานาชาติจัดแสดงนาฏศิลป์และดนตรีให้ชมแลกเปลี่ยนกับนักแสดงชาวไทย ณ.อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ขณะที่ในช่วงเย็นวันเดียวกันฑูตวัฒนธรรมต่างๆแต่ละประเทศได้ทยอยเดินทางแยกย้ายกันลงพื้นที่ชุมชนแต่ละตำบลเพื่อแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ชาติพันธ์ พิธีกรรม ประเพณีและความเป็นพื้นบ้าน

 

และในช่วงเย็น วันที่ 22 ต.ค.65 ทูตวัฒนธรรมทั้งหมด ก็ได้เดินทางไปร่วมงานแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 20  ที่ อบต.ทับทัน อ.สังขะ จ.สุรินทร์   โดยมีนายธนจักร ธนันคุณธร นายก อบต.ทับทันอ.สังขะ จ.สุรินทร์ เป็นประธานเปิดงานแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติแห่งประเทศไทย มีรองนายกอบต.ทับทัน ส่วนราชการในพื้นที่ อ.สังขะ อบต.ทับทัน สมาชิก อบต.กำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้มาร่วมงานพร้อมให้การต้อนรับผู้แทนจากประเทศต่างๆเข้าร่วมกิจกรรม

 

นายธนจักร ธนันคุณธร นายกอบต.กล่าวว่าตำบลทับทันได้ร่วมกับมูลนิธิศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติ มูลนิธิส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติ มูลนิธิส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์สภาวัฒนธรรมตำบลทับทันจัดโครงการเทศกาลแสดงศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติแห่งประเทศไทยThailand internation Folklore Festival(ThailandiFFหรือไทยแลนด์ดีฟ)ระหว่างวันที่21-22ตุลาคม2565โดยมีคณะบุคคลทางศาสนาและองค์กรที่ยูเนสโกรับรองที่น่าเชื่อถือทั่วโลก36ประเทศเข้าร่วมงาน

 

ในงานดังกล่าวมีผู้แทนแต่ละประเทศนำคณะศิลปินมาแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาชาติพันธ์พิธีกรรมประเพณีและความเป็นพื้นบ้านสัมนาและจัดค่ายวิชาการความสัมพันธ์วิถีไทยวิถีพุทธและวิถีโลกการประกาศสันติภาพโลกและหลักสูตรภูมิปัญญาท้องถิ่นและความเป็นนานาชาติมีทั้งสิ้น17ประเทศได้แก่ Bulgaria Cambodia China Hunggary india  indonesiaitalt Korea Mexico Myanmar Philippines Sri Lanka และVietnamรวม15ประเทศจำนวนศิลปะนานาชาติ 181 คน

 

รูปแบบในการจัดกิจกรรมมีการลงนามความร่วมมือระหว่างผู้แทนอาคันตุกะศิลปินนานาชาติทุกประเทศกับผู้นำท้องถิ่นรวมทั้งให้การรับรองประเทศเขตมรดกล้ำค่าต่อสาะธารณชนโลกยกย่องเชิดชูประกาศเกียรติคุณพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบควบคู่กับการประกาศหมู่บ้านศีลห้าที่ดีเด่นเป็นหมู่บ้านในฝันสันติภาพโลกเพื่อเผยแพร่ทางPlatformต่างๆแก่สาธารรชนทั่วโลก มีการทำบุญผ้าป่านานาชาติทอดถวายณสำนักปฏิบัติธรรม"สติภาวนาภิรตาราม"อาคันตุกะศิลปินนานาชาติจัดแสดงนาฏศิลป์และดนตรีให้ชมและเปลี่ยนกับนักแสดงชาวไทยณตำบลต่างๆในเขตพื้นที่อำเภอสังขะจังหวัดสุรินทร์

 

ซึ่งการจัดงานแสดงศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติแห่งประเทศไทยครั้งที่20ในครั้งนี้ได้มีคณะทูตวัฒนธรรมต่างๆลงพื้นที่จัดกิจกรรมในเขตพื้นที่จังหวัดสุรินทร์แต่ละอำเภอซึ่งแต่อำเภอจะจัดพิธีต้อนรับและนำศิลปะพื้นบ้านวัฒนธรรมออกมาแสดงตลอดจนผักผลไม้และอาหารพื้นบ้านให้คณะทูตที่เดินทางมาได้ร่วมรับประทานร่วมกับพี่น้องหัวหน้าส่วนราชการพี่น้องประชาชนคนในพื้นที่ได้ชิมรสอาหารต่างๆตลอดจนได้สร้างรอยยิ้มให้กับคณะทูตที่เดินทางมาในครั้งนี้พร้อมกับแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันตลอดจนรอยยิ้มของคนไทยที่มีให้กับคณะฑูตที่เดินทางมาเยี่ยมชมในครั้งนี้แทบจะไม่ลืมเลือนเลย