นครราชสีมา ช่วงสายวันนี้ (4 พฤศจิกายน 2565) ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สํานักงานป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด ภาค 3 ได้แถลงผลการจับกุมยึดทรัพย์คดียาเสพติด ยุทธการขุดรากถอนโคน คนค้ายาอีสานใต้ จับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 1 ราย พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดรวมมูลค่ากว่า 4,200,000 บาท โดยมี พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 , พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ รอง ผบช.ภ. 3 , พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 และชุดสืบสวนสอบสวน 3 ตร.ภ. 3 ร่วมกับนายไกรเลิศ ดาวเรือง ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค, นายวรเชษฐ์ สัจจาลักษณ์ ผอ.ส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย ปปส.ภ.3 และเจ้าหน้าที่สํานักงานป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด ภาค 3 ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้อย่างพร้อมหน้า  

โดยชุดสืบสวนกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ภาค 3 ก็ได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่า นายยงยุทธ มาอิสูงเนิน และภรรยา มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด และมีทรัพย์สินหลายรายการ รวมทั้งมีการสร้างบ้าน ซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และทรัพย์สินอื่นๆ จำนวนมาก ทั้งที่ไม่ได้ประกอบอาชีพอื่นใด ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสีคิ้ว เข้าตรวจค้นบ้านพักที่เกี่ยวข้องกับนายยงยุทธ จำนวน 4 จุด

จากการเข้าตรวจค้นสามารถจับกุมตัว นายยงยุทธ มาอิสูงเนิน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทำการจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก พร้อมทั้งตรวจยึดทรัพย์สินหลายหลายการ อาทิ อาวุธปืนพกสั้น  2 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 55 นัด , ยาบ้า จํานวน 100 เม็ด, บ้านพร้อมที่ดิน 1 หลัง , รถยนต์ 3 คัน, รถจักรยานยนต์ 3 คัน , ทองรูปพรรณ 5 รายการ , พระเครื่องดังเลี่ยมทอง 5 องค์ , เงินสดกว่า 1 แสนบาท , กระบือหรือควาย 16 ตัว และพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด รวมทั้งตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป

พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภาค 3 เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ชุดสืบสวนได้จับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยหลายคนในเขตจังหวัดนครราชสีมา และจากการขยายผลทราบว่า กลุ่มผู้ค้ารายย่อยได้สั่งซื้อยาบ้ามาจาก นายยงยุทธ มาอิสูงเนิน โดยติดต่อกับนายยงยุทธทางโทรศัพท์ และโอนเงินค่ายาบ้าให้นายยงยุทธ โดยใช้บัญชีบุคคลอื่นในการรับเงินค่ายาเสพติด ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า มีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารนายยงยุทธมากกว่า 10 ล้านบาท ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับนายยงยุทธ ในฐานความผิดฐานสบคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรง เกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สบคบกัน ก่อนติดตามจับกุมตัวนายยงยุทธ และเข้าตรวจค้นบ้านพักยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดได้ดังกล่าว