วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 13:14 น.

ภูมิภาค

รำลึกครบรอบ 67 ปี “แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์” ถวายดอกบัวในหลวง ร.9 คอหวยส่องเลขน้ำมนต์

วันอาทิตย์ ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 16.32 น.

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2565 เวลา 09.00 น. บริเวณบุ่งแซง บ้านศรีบุญเรือง หมู่ 11 ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม องค์การบริหารส่วนตำบลพระกลางทุ่ง(อบต.พระกลางทุ่ง) สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านวัดธาตุน้อยศรีบุญเรือง พร้อมใจกันจัดงาน "น้อมรำลึก 67 ปี ดอกไม้แห่งหัวใจ...ไม่มีวันโรยรา แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์” โดยมีการทำบุญถวายภัตตราหารแด่พระภิกษุสงฆ์ และร่วมรับฟังเสวนาในหัวข้อส่งเสริมสนับสนุนให้ท้องถิ่นได้ตระหนัก และเห็นความสำคัญสิ่งที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม เพื่ออนุรักษ์สืบสาน

 


         

ทั้งนี้ นายสวาท ลำทอง นายก อบต.พระกลางทุ่ง ได้เตรียมปรับปรุงสถานที่บริเวณปฏิมากรรมหินแกะสลักภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงโน้มพระองค์ลงมาจนพระพักตร์เกือบชิดกับศีรษะของแม่เฒ่าตุ้ม เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 พฤศจิกายน 2498 เนื่องในวโรกาสที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรภาคอีสานเป็นครั้งแรก นับถึงปัจจุบันก็เป็นเวลา 67 ปีเต็ม โดยทาง อบต.จะจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งศึกษาเรียนรู้

 


         

ขณะที่นายบรม จันทนิตย์ อายุ 82 ปี หลานชายของแม่เฒ่าตุ้ม กล่าวว่ารู้สึกตื้นตันใจจนพูดอะไรไม่ออก ครอบครัวตระกูลจันทนิตย์ขอขอบคุณ อบต.พระกลางทุ่ง และ สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม ที่ทำให้วันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของจังหวัดนครพนม ส่วน นายคมสิน ศรีมานะศักดิ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม ได้อ่านบทกลอนที่เขียนขึ้นงานนี้โดยเฉพาะ โดยมีนักศึกษาจากมหาวิทยาราชภัฎสกลนครขับเสภาเทิดพระเกียรติ

 


         

หลังเสร็จพิธีบวงสรวง พระสงฆ์ 9 รูปเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมจุดเทียนหยดน้ำมนต์ในขัน ได้ปรากฏตัวเลขที่สร้างความฮือฮาแก่ผู้ร่วมพิธีเป็นอย่างมาก หลายคนที่มุงดูหยดเทียนในขัน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หยดเทียนคล้ายตัวเลข 13 จึงนำเลข 9 ผสมกับเลข 13 กว้านซื้อเลขท้าย 913 และเลขท้าย 2 ตัว เช่น 13 31 93 39 91 19 67 76 เป็นต้น

 


สำหรับยายตุ้ม จันทนิตย์ เป็นหญิงชราวัย 102 ปี (ในขณะนั้น) อาศัยอยู่ที่บ้านธาตุน้อย(ศรีบุญเรือง) รอรับเสด็จฯ ในหลวง ร.9 บนเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212  ทางสามแยกชยางกูร-เรณูนคร ต.พระกลางทุ่ง เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2498 โดยยายตุ้มไปรอรับเสด็จฯ พร้อมดอกบัวสายสีชมพู จำนวน 3 ดอก ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายโดยแดดแผดเผาจนดอกบัวสายในมือแห้งเหี่ยว แต่ด้วยหัวใจจงรักภักดียายตุ้มก็ยังคงรับเสด็จฯ ด้วยความตื่นเต้นและเบิกบานใจ และเมื่อในหลวง ร.9 เสด็จฯ มาถึงทรงตรงมาที่แม่เฒ่า ด้านแม่เฒ่าก็ได้ยกดอกบัวสายโรยรา 3 ดอกนั้นขึ้นจนเหนือศีรษะ แสดงความจงรักภักดีอย่างสุดซึ้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ร.9 ทรงโน้มพระองค์ลงมาจนพระพักตร์เกือบชิดกับศีรษะของแม่เฒ่า ทรงแย้มพระสรวลอย่างอ่อนโยน พระหัตถ์แตะมือกร้านคล้ำของแม่เฒ่าอย่างนุ่มนวล

 

 


หลังจากที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพฯ แล้ว ทางสำนักพระราชวัง ได้ส่งภาพรับเสด็จฯ ของแม่เฒ่าตุ้ม พร้อมพระบรมรูปหล่อด้วยปูนพาสเตอร์ ผ่านมาทางอำเภอธาตุพนม ให้แม่เฒ่าตุ้มไว้เป็นที่ระลึก เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ซึ่งแม่เฒ่าตุ้มก็มีอายุต่อหลังจากนั้นอีก 3 ปี และถึงแก่กรรมเมื่อปี พ.ศ.2501 จากนั้นลูกหลานได้สร้างธาตุเจดีย์บรรจุอัฐิแม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ ไว้ ณ หน้าบ้านเลขที่ 22 หมู่ที่ 11 ต.พระกลางทุ่ง ส่วนภาพที่แม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ ทูลเกล้าฯ ถวายดอกบัว 3 ดอก ถ่ายโดยนายอาณัติ บุนนาค ช่างภาพส่วนพระองค์ฯ ที่ถูกเรียกว่า "ภาพดอกไม้แห่งหัวใจ"  ทำให้ประชาชนชาวไทยซาบซึ้งในพระจริยาวัตรอันงดงามของพระองค์ท่านและภาพดังกล่าวได้กลายเป็นภาพอมตะมาจนตราบเท่าทุกวันนี้

หน้าแรก » ภูมิภาค