ที่ จ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 8 ธ.ค.65 เกือบทุกพื้นที่ของจังหวัดมีฝนตกหนักในบางช่วง โดยนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประกาศแจ้งเตือน เฝ้าระวังอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่ลุ่มต่ำ ทางน้ำไหลผ่าน ที่ลาดเชิงเขา เฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก  ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง  สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคทุกสาขา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควบคุม  การเดินเรืออย่างใกล้ชิด ผู้โดยสารเรือทุกคนต้องสวมเสื้อชูชีพ ทั้งเรือสปีดโบ๊ท เรือประมง เรือโดยสาร และเรือเฟอร์รี่

 

สำหรับแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานทุกแห่ง หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตก ถ้ำ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ถ้าสถานการณ์วิกฤติ ให้ดำเนินการปิดหรือห้ามเข้าโดยเด็ดขาด

 

ขณะเดียวกันนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (8 ธ.ค.65) ได้รับรายงานจาก นายสำนวน ทองศรี นายอำเภอท่าชนะ ว่า มีชาวบ้านพบเห็นจระเข้ขนาดใหญ่ ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา จึงได้สั่งการให้จัดเจ้าหน้าที่ค้นหาและเฝ้าระวังอันตรายกับประชาชนในพื้นที่ ก่อนที่ในช่วงสาย จะมีชาวบ้านพบเห็นอยู่ในคูน้ำ ใกล้ๆกับ คลองหิต พื้นที่ หมู่ 8 บ้านศรีทอง ตำบลคันธุลี อำเภอท่าชนะ ซึ่งห่างจากบ้านชาวบ้าน ประมาณ 100 เมตร จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน ประสานอำเภอท่าชนะ เพื่อนำเจ้าหน้าที่ ที่มีความเชี่ยวชาญมาจับกุม

 

จากการตรวจสอบข้อมูลกับนางพิไลพร ทองมาก ประมงอำเภอท่าชนะ ทราบว่า จระเข้ตัวดังกล่าวเป็นจระเข้น้ำเค็ม ความยาวประมาณ 4 เมตร น้ำหนักไม่น้อยกว่า 150 กิโลกรัม คาดว่าจระเข้น่าจะเข้ามาทางปากน้ำคลองคันธุลี ที่ไหลออกสู่ทะเลได้ ซึ่งได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดไกรทอง เข้ามาจับตัว เนื่องจาก จระเข้น้ำเค็มมีนิสัยดุร้าย กว่าจระเข้น้ำจืด และในพื้นที่ดังกล่าว ไม่เคยพบเห็นมานานหลายปี

 

ล่าสุด ชาวบ้านในพื้นที่ ที่มีความรู้เรื่องจระเข้ ได้ช่วยกันจับจระเข้ไว้ได้สำเร็จ เพราะกลัวจะหลบหนี ตามหาไม่เจอ แล้วหลุดไปทำร้ายชาวบ้าน ก่อนที่ชุดไกรทองจะมารับตัวไปดูแลไว้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่อไป ซึ่งจระเข้ตัวใหญ่คาดว่าน่าจะเป็นตัวแม่ ส่วนตัวเล็กน่าจะเป็นลูก

 

อย่างไรก็ตามผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้กล่าวย้ำว่า หากมีการพบเห็นจระเข้ ไม่ว่าสายพันธุ์ใด ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องถิ่น เพื่อประสานผู้มีความเชี่ยวชาญมาจับกุม โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน น้ำหลาก ซึ่งอาจมีจระเข้ ธรรมชาติออกมาหากิน หรือหลุดจากฟาร์มที่ถูกน้ำท่วมได้ จึงขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวัง .