ตื่นตา! ฝูงปลาดาวหลากสีนับร้อยที่อ่าวทึงจ.กระบี่ พบแหล่งหญ้าทะเลอุดมสมบูรณ์ เนื้อที่กว่า 100 ไร่ เป็นแหล่งอาศัย ปะการังและปลาดาวหลากสี และสัตว์ทะเลหายากนานาชนิด โดยเฉพาะช่วงน้ำลงจะมีนักท่องเที่ยวและช่างภาพแห่บันทึกภาพไม่ขาดสาย กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่ง "อันซีน"ใหม่ได้รับความนิยม วอนห้ามจับ ช่วยกันอนุรักษ์

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีช่างภาพระดับมืออาชีพและมือสมัครเล่น รวมทั้งนักท่องเที่ยว แห่เดินทางไปที่บริเวณอ่าวทึง หมู่ที่ 2 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ชมพระอาทิตย์ที่สวยสดงดงามยามรุ่งอรุณ พร้อมเก็บภาพปะการัง และปลาดาวหลากสีสวยงาม ที่โผล่เรียงรายตลอดแนว ในช่วงน้ำทะเลลด จะเห็นแนวผืนหญ้าทะเลสีเขียวตระการตานับ 100 ไร่ สร้างความตื่นเต้นแก่ช่างภาพและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
นายไพฑูรย์ ล่องเพ็ง อดีตผจก.หอการค้าจ.กระบี่และช่างภาพอิสระจ.กระบี่ ชื่นชอบถ่ายภาพแสงยามเช้า เล่าว่า เช้าวันนี้(24 ม.ค.) ขณะที่ตนมาถ่ายภาพแสงยามเช้าที่บริเวณดังกล่าว ได้พบกลุ่มปลาดาวและหญ้าทะเลเป็นจำนวนมาก จึงถ่ายภาพแล้วโพสต์ลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว จนเป็นที่ชื่นชอบของชาวโลกออนไลน์ โดยที่อ่าวทึงพบว่าคงมีความสวยงามของทรัพยากรใต้ทะเลที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะปลาดาวทะเล และปะการัง ที่มีความสวยงามหลากหลายชนิด รวมถึงผืนหญ้าทะเลที่เขียวขจี ที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าโดยไม่ต้องดำลงไปใต้ทะเล นับว่าเป็นแหล่งที่พบหญ้าทะเลที่สมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของ จ.กระบี่ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี 

โดยปลาดาวที่พบมีหลายสายพันธุ์ และหลากสีถูกกระแสน้ำพัดมากองนอนเรียงรายจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีสัตว์ทะเลพวกหอยแม่น ปลิงทะเล ปูเสฉวน หอยตาชัย หอยชักตีนและกุ้งทะเลสวยงามซึ่งไม่ค่อยพบบ่อยนัก ที่ก่อนหน้านั้นได้หายไปจากทะเลอ่าวกระบี่ รวมทั้งหนอนทะเล และฝูงปลาขนาดเล็กต่างเข้ามาแหวกว่าย และหาอาหารเป็นจำนวนมาก

นายไพฑูรย์ เล่าอีกว่า ช่วงหนึ่งที่กำลังเพลินกับการบันทึกภาพความงามของปลาดาวหลากสี สายตาก็ไปสังเกตุเห็นปลาดีโม้ตัวน้อย นอนเกยกอหญ้าทะเล ตอนแรกนึกว่าตายแล้ว พอใช้นิ้วแตะดูพบว่ายังมีชีวิต จึงใช้ฝ่ามือประคอง นำออกไปยังจุดที่มีน้ำทะลไหลถึง ซึ่งเมื่อปล่อยลงสู่ผืนน้ำ ปลาดีโม้ตัวดังกล่าวรู้สึกดีใจ ก่อนจะว่ายน้ำหนีไป เบื้องต้นคาดคงเล่นเพลินในดงหญ้าทะเล จนลืมกลับลงทะเล โดยไม่รู้ตัวว่าน้ำกำลังลด จนผืนทรายโผล่ ส่งผลให้นอนติดแห้งช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แม้รู้ว่าไม่ควรจับ แต่เพื่อรักษาชีวิตของปลาดีโม้ไว้ ตนจึงช่วยพาไปส่งตรงจุดน้ำไหลถึงได้อย่างปลอดภัย

ซึ่งหลังจากนี้คาดว่าจะมีผู้คนที่ทราบข่าวเดินทางมาชมกันมากขึ้น อยากจะฝากวิงวอนไปยังนักท่องเที่ยวไม่ควรไปจับ หรือเหยียบย่ำแนวปะการัง รวมทั้งปลาดาวหรือรบกวนสัตว์ทะเลอื่นๆ ขอแค่เข้าชมและถ่ายภาพเก็บไว้เท่านั้น เพื่อจะได้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้ให้คงอยู่ตลอดไป

ขอบคุณภาพ : นายไพฑูรย์ ล่องเพ็ง อดีตผจก.หอการค้า จ.กระบี่ และช่างภาพอิสระ จ.กระบี่