เพื่อนร่วมก๊วนฮาร์เลย์ เดวิดสัน ระงมหลังเห็นภาพ รุ่นพี่วัย 53 ควบฮาเลย์พุ่งชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิตคาที่ เผยไปเที่ยวกับกลุ่มรุ่นน้อง ขากลับบ้าน รถเสียหลักปีนฟุตบาต แล้วพุ่งชนเสาไฟหัวกระแทกแท่งเหล็กข้างทาง คาดวูบบวกเมา

วันที่ 7 กพ.66 เวลาประมาณ 02.00 น. ร.ต.อ.ประสพ ตาประโคน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนเสาไฟข้างทางมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ และแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าโรงพิมพ์วินัย ด้านข้างมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ ใกล้แยกศาลากลางหลังเก่า ในตัวเมืองบุรีรัมย์ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮาร์ลีย์-เดวิดสัน สีเทา ล้มอยู่ข้างทาง มีร่องรอยการชนบริเวณหน้ารถฝั่งซ้าย มีชิ้นส่วนของตัวรถตกหล่นแตก พื้นถนนมีร่องรอยของการถไหลบริเวณฟุตบาตริมทางไปยังบริเวณเสาไฟข้างทาง และเสาไฟฟ้าข้างทางมีรอยของการถูกกระแทก

ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายหนึ่งราย ทราบชื่อนายชาญณรงค์ ชาวไทย อายุ 53 ปี อยู่บ้านในพื้นที ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุในสภาพศีรษะแตกมีรอยยุบซึ่งเกิดจากการกระแทกของแข็ง มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก

ประมาณ 5 นาที ได้มีกลุ่มเพื่อนรุ่นน้องทั้งหญิงชาย และชาวต่างชาติ มาเห็นสภาพรถและศพ ต่างวิ่งออกมากอดศพร่ำไห้ด้วยความเสียดายและเสียใจ เพราะเพิ่งแยกจากวงสังสรรค์กันมาไม่ถึง 5 นาที

สอบถามนาย นายนรวิชญ์ ผดุงการเลิศ อายุ 25 ปี รุ่นน้องที่ไปเที่ยวด้วยกัน เล่าว่า ขากลับจากเที่ยวกำลังเดินทางกลับบ้าน นายชาญณรงค์ ขับรถนำหน้า ส่วนตนเองก็ขับตามหลังกันมา ขับมาเรื่อยๆไม่เร็ว ประมาณ 40 กม./ชม.เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆนายชาญณรงค์ก็มีอาการคล้ายวูบ ก่อนรถจะปีนขึ้นฟุตบาต แล้วถไหลไปชนเสาไฟข้างทางอย่างจังจนศีรษะกระแทกเหล็ก กระเด็นตก ตนจึงรีบเข้าไปช่วย แต่นายชาญณรงค์ไม่รู้สึกตัวแล้ว จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ไม่นึกว่าพี่ชายจะเสียชีวิตแบบนี้

เบื้องต้น ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดของการเกิดอุบัติเหตุตั้งไว้สองประเด็น คาดเกิดอาการวูบตามคำบอกกล่าวของเพื่อนที่ไปเที่ยว หรือมีอาการเมา ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ และเรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบถามให้ระเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป