เมื่อเวลาประมาณ 12.15 น.วันที่ 19 ก.พ. 66 ศูนย์วิทยุกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุมีเด็กขังตัวเองไว้ในบ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยดอนนก 4 ถ.ดอนนก ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จึงจัดกำลังไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3ชั้นประตูกระจกปิดล็อคอยู่ มีเด็กชายวัย 11 ขวบขังตัวเองไว้ในบ้าน หน้าบ้านพบคุณย่าวัย 60 ปี ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่

 

คุณย่าให้ข้อมูลว่า หลานชายวัย 11 ขวบ ชื่อน้องต้นกล้า น้อยใจที่ตนไม่ให้เงินเติมเกมส์และย่าดุด่า สาเหตุคงจะมาจากย่าเอาเงินให้น้องต้นกล้าไปซื้อของให้หลานชายอีกคน ซึ่งเป็นน้องชายของน้องต้นกล้า แต่น้องต้นกล้าได้เอาเงินไปเติมเกมส์  ย่าก็ได้ดุน้องต้นกล้าที่หน้าบ้านแต่ก็ไม่ได้ทุบตีแต่อย่างใด  จนทำให้น้องต้นกล้าโมโห วิ่งเข้าบ้านและล็อคประตูขังตัวเองไม่ให้ย่าเข้าบ้าน ย่าจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยงัดประตู

 

ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจสายตรวจได้งัดประตูเข้าไป เมื่อน้องต้นกล้าเห็นคุณย่าจึงได้วิ่งขึ้นไปนั่งร้องไห้บนขอบระเบียงดาดฟ้าชั้น3 และขู่จะกระโดด  เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงต้องช่วยกันเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่า30นาที จึงอาศัยจังหวะที่น้องต้นกล้าเผลอ วิ่งเข้ารวบตัวและพาลงมาสติอารมณ์ชั้นล่าง

 

นอกจากนี้ คุณย่าของน้องต้นกล้า ยังให้ข้อมูลด้วยว่า พ่อแม่ของน้องต้นกล้าแยกทางกันต่างคนก็ต่างไปมีครอบครัวใหม่ โดยได้ทิ้งหลาน2คนไว้ให้ย่าเลี้ยงตั้งแต่ยังแบเบาะ โดยปกติแล้วน้องต้นกล้ามีพฤติกรรมเป็นเด็กติดเกมส์ ไม่ค่อยสนใจอะไร เมื่อไม่ได้เล่นเกมส์ก็จะหงุดหงิด ทำลายข้าวของในบ้าน จนต้องพาไปพบจิตแพทย์มาแล้วครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ยังชอบหยิบเงินของย่าไปเติมเกมส์โดยไม่บอกอยู่เป็นประจำ  นับแล้วรวมๆกว่า1หมื่นบาทซึ่งย่าก็ดุด่าตักเตือนมาตลอด

 

ด้านนายอนิรุตน์ เหมประพันธ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัย กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากตำรวจว่ามีเด็กขังตัวเองไว้ในบ้าน ประสานกู้ภัยให้ช่วยไปเปิดประตู พอเปิดประตูแล้วเด็กกลัวย่าวิ่งหนีไปบนดาดฟ้า พยายามเกลี้ยกล่อมและอาศัยจังหวะเผลอจึงรวบตัวไว้ได้.