จากกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุรถไฟชน กับรถยนต์ บริเวณจุดตัดทางกั้นรถไฟ ถนนเฉลิมพระเกียรติ (ทางหลวง 4009) ต.นาสาร ที่เชื่อมไปยังถนนทางหลวงเอเชีย 41ใกล้สถานีรถไฟบ้านนาสารประมาณ 100 เมตร เขตเทศบาลเมืองนาสาร อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นมีผู้ติดอยู่ภายใน และหัวรถจักร รถไฟขบวนที่ 84 รถด่วนตรัง-กรุงเทพฯ ชำรุดพบมีผู้เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อต่อมาคือ นายโกศล ศุทธางกูร อายุ 63 ปี เป็นนายกเทศมนตรีเมืองนาสาร เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำออก สภาพศพมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ใบหน้า ศีรษะและซี่โครงด้านขวาหัก จึงนำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี พนักงานจุดดังกล่าวแจ้งเบื้องต้นไม้กั้นมีทั้งหมด 4 อัน เสีย 1 อัน ซึ่งเป็นอันที่กั้นทางที่รถผู้เสียชีวิตขับมาพอดี พนักงานอ้างว่าพยายามใช้ไฟฉายส่องโบกแล้ว แต่รถผู้เสียชีวิตไปหยุดจอดนิ่งพาดรางรถไฟ หยุดที่ทางกั้นอีกฝั่ง จนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 มีนาคม 66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดตัดรถไฟที่เกิดเหตุ พบว่า ได้มีการซ่อมไม้กั้นอันที่เสียแล้ว และทางครอบครัวพร้อมญาติของนายโกศล ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเชิญวิญญาณ

ด้าน พ.ต.อ.วิทย์ทวี ภริตานนท์ ผกก.สภ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุไดัเชิญพนักงานรถไฟประจำจุดทางตัด มาให้ปากคำ โดยทางพนักงานแจ้งว่า ไม้กั้นมีทั้งหมด 4 อัน เสีย 1 อัน ซึ่งเป็นอันที่กั้นทางที่รถผู้เสียชีวิตขับมาพอดี พนักงานอ้างว่าพยายามใช้ไฟฉายส่องโบกแล้ว แต่รถผู้เสียชีวิตไปหยุดจอดนิ่งพาดรางรถไฟ หยุดที่ทางกั้นอีกฝั่ง อาจจะไม่รู้ว่าทางกั้นเสีย

ในเบื้องต้นผู้เสียชีวิตอาจเข้าใจว่า ข้างหน้าคือทางกั้น ไม่ให้ผ่านรถไฟ ขณะนี้ประสานให้พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจพื้นที่อีกครั้ง และรอตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ประสานขอกล้องวงจรปิด แต่ทางสถานีรถไฟบ้านนาสาร อ้างว่าต้องรอช่างเทคนิคจากกรุงเทพ และสอบปากคำเพิ่มเติม จึงยังไม่สรุปสาเหตุข้อเท็จจริงได้ในขณะนี้

ขณะที่ทางญาติกล่าวว่าก่อนเกิดเหตุนายกเทศมนตรีเมืองนาสารขับรถกลับจากงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนเพียงลำพัง เมื่อช่วงเวลาก่อน 2 ทุ่ม และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุ ส่วนสาเหตุจะเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของระบบไฟหรือไม่นั้น ต้องรอให้เสร็จสิ้นงานศพก่อน ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ในขณะที่ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวให้ข้อมูลว่าเป็นไปไม่ได้ที่ระบบไฟของแผงกั้นจะมีปัญหาหรือชำรุดเพียงอันเดียว ทั้งนี้ต้องรอการพิสูจน์ข้อเท็จจริง.