วันพฤหัสบดี ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 06:40 น.

ภูมิภาค

จ.ปราจีนฯ ชี้แจงกรณีสารกัมมันภาพรังสี ซีเซียม-137 หายจากโรงไฟฟ้า

วันอังคาร ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2566, 19.47 น.
เมื่อเวลา14.30 น.วันที่ 14 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานความคืบหน้า จากกรณีพนักงานสอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี  ได้รับแจ้งมีการตรวจสอบพบวัสดุกัมมันตรังษี ซีเซียม-137  ของบริษัทแห่งหนึ่ง   ย่านนิคมอุตสาหกรรม 304  ต.ท่าตูมอ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี  ได้หายไป จำนวน1ชิ้น รับแจ้งเมื่อ เมื่อวันที่10 มี.ค. 66 ทาง จ.ปราจีนบุรี  เกรงว่าหากบุคคลภายนอกพบหรือแกะดู   อาจเป็นอันตรายได้   ได้ติดตามโดยให้เจ้าหน้าที่ปรมาณูเพื่อสันติ  ตรวจสอบหารังษีของสารที่แผ่,ติดตามจากร้านรับซื้อของเก่า  และ  จากกลัองวงจรปิด แต่ยังไม่ได้เบาะแสใด ๆ   ทางนายรณรงค์  นครจินดา ผวจ.ปราจีนบุรี  ได้กำหนดแถลงสื่อมวลชนที่ศูนย์การเรียนรู้ห้อง402  ศูนย์ราชการใหม่ เวลา15.00น.ตามที่ได้นำเสนอรายละเอียดก่อนหน้านี้  นั้น
 
คืบหน้า ต่อมา เวลา 15.00 น.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   นายรณรงค์   นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี  , พร้อมด้วย นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาญเพื่อสันติ , นายกิตติพันธ์ จิตต์เป็นธรรม  ผู้แทน บ.เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5  เอ จำกัด, นพ.นายสุรินทร์ สืบซึ้ง   นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี  ร่วมแถลงข่าวสื่อมวลชน
 
สรุปความว่า   ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนว่า วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137  หายไปจากโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งที่ปราจีนบุรี นั้น   จังหวัดปราจีนบุรี ขอรายงานเบื้องต้นดังนี้    ข้อมูลทั่วไป วันที่ 14 มีนาคม 2566 ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชน บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์แพลนท์ 5 เอ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 217 หมู่ที่ 2 ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี    ประกอบกิจการผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า มีนายประหยัด แช่มภุชา นายธนงศักดิ์ ศรีสองเมือง นายกฤตย์ดิศร กรเกศกมล นายปณัสย์ เอื้อนรการกิจ นางสาววนิดา ภาวนาภรณ์ นายสิงห์ เนียมมุณี และ นายธนรัตน์ วิทยเตชะกุล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันธ์บริษัทฯ ปัจจุบันมีลูกจ้างรวมจำนวน 59 คน
 
ได้ตรวจพบว่า วัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม -137 ของบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ได้หายไป จำนวน 1 ชิ้น เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 เกรงว่าจะเป็นอันตราย ถ้ามีผู้ไปสัมผัส ขอให้ผู้พบเห็นนำไปคืนให้กับบริษัท จังหวัดปราจีนบุรี ได้ตรวจสอบแบบแจ้งประเภทต้นกำเนิดรังสี ปริมาณรังสี  สถานประกอบกิจการซึ่งต้นกำเนิดรังสีตั้งอยู่ ข้อมูลเกี่ยวกับการอนุญาตหรือการแจ้งการครอบครองหรือใช้ และกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ของบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์แพลนท์ 5 เอ จำกัด พบว่า บริษัทฯ มีการจัดทำแบบรายงานการปฏิบัติงานของผู้รับผิดชอบดำเนินการทาง  ด้านเทคนิคในเรื่องรังสี (แบบ ร.5) เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565
 
การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ทุกภาคส่วน จะได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้ประสานศูนย์ความปลอดภัยแรงงาน เขต ๒ ชลบุรี ทราบด้วยแล้ว และได้ประสานข้อมูล การรักษาพยาบาลกับสำนักงานประกันสังคมจังหวัดปราจีนบุรี ในช่วงมกราคม 2566 – ปัจจุบัน ยังไม่มีการรักษาพยาบาลของลูกจ้างที่อาจเข้าข่ายการได้รับอันตรายจากรังสี ทั้งนี้วัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ที่หายไปเป็นแท่งทรงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาประมาณ  5 นิ้ว ยาว10 นิ้ว ติดอยู่ที่ปลายท่อปล่องควันของโรงไฟฟ้า   แต่ทางบริษัท ไม่ทราบว่า หายไปได้อย่างไร และหายไปตั้งแต่เมื่อใด และได้แจ้งเหตุต่อสถานีตำรวจภูธรศรีมหาโพธิ ไว้แล้ว
 
ซีเซียม-137 คือสารไอโซโทปของซีเซียมซึ่งเป็นสารกัมมันตรังสี ที่มีเลขอะตอมเท่ากับ 55  มีครึ่งชีวิต 30 ปี จาก 300 ปี   สลายโดยปล่อยรังสีบีตา และรังสีแกมมา เป็นหนึ่งในผลผลิตการแบ่งแยกนิวเคลียส    และซีเซียม-137 ยังเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งโอกาสที่จะเป็นมะเร็งต้องได้รับสารปนเปื้อน เมื่อได้รับเข้าไปจะกระจายไปทั่ว ส่วนใหญ่จะสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อ ตับ และไขกระดูก
ดร.รุ่งธรรม ทาคำ   ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านความปลอดภัยทางรังสี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ  กล่าวว่า  ตราบใดที่  วัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137  อยู่ในสภาพสมบูรณ์   จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต  ที่หลุดเอาไปจากจุดที่ ติดตั้งคาดว่ามีคนเอาไปขาย   เมื่อ 10 มีนาคม 66 ถ้าไม่มีใครไปแงะไปตัดมันก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรได้ ได้ร่วมกันในทุกภาคส่วน  ร่วมกันค้นหาในพื้นที่ทั้งโรงรับซื้อของเก่า   วัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137  วัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137  นี้เป็นตัววัดที่อยู่ในท่อ   มันหลุดออกมา  เนื่องจากเกิดสนิมความสูงประมาณ 20-30 ซ.ม. น้ำหนัก 25 ก.ก. ใช้วัดผลิตภัณฑ์ในภาชนะปิดตัวข้างใน  มีสารก่อมะเร็ง   แต่ ตัวภายนอก ไม่มีผลกระทบอะไร ดร.รุ่งธรรม กล่าว
 
ขณะที่ นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง ขั้นต้นถ้าโดน  ระดับอันตรายที่จะมีผลต่อสุขภาพ ขนาดเล็กน้อยก็จะมีอาการพุพอง หรือไหม้  เพิ่มขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง  จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว ปวดไขกระดูก ถ้าเพิ่มมากขึ้นอีกระดับ จะกระทบระบบประสาท จนถึงเสียชีวิตและระดับสูงสุดจะทำให้เป็นมะเร็งได้ในช่วงเวลา 1 เดือนหลังจากที่ทราบมีใครได้เข้ามารับบริการไหมซึ่งตอนนี้ยังไม่มีแต่ได้ประสานงานทางโรงพยาบาลให้รับให้รับมือไว้แล้วติดต่อ 037-211-626 ต่อ 102 ถ้ามีข้อสงสัยสามารถโทรได้เลย นายแพทย์สุรินทร์กล่าว
 
ด้านนายนายกิตติพัฒน์ จิตต์เป็นธรรม ผู้แทนบริษัทฯ กล่าวว่า เมื่อบริษัททราบก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามสืบหา และได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอน จนขณะนี้ก็ยังไม่พบ ขอความร่วมมือผู้ใดที่ชี้เบาะแส ให้แจ้งบริษัท หรือหน่วยงานได้ทุกที่ จะมีรางวัล 50,000 บาท
 
ด้าน นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรามณูเพื่อสันติ กล่าวว่า ขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่า ของที่หายไปหายไปเองจากสภาพ หรือหายไปเพราะฝีมือมนุษย์ ซึ่งถ้าคนที่เอาไปไม่ทำอะไรก็จะปลอดภัย เพราะบริษัทผลิตมีการป้องกันความปลอดภัยอย่างสูงสุด แต่ถ้าผู้ที่นำไปเอาไปผ่าก็จะเจอหลอดข้างใน ถ้าหักก็จะเจอซีเซียม ถ้าเจอก็จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จะป่วยอย่างร้ายแรงท่านะเป็นมะเร็ง ตกจากที่สูงเท่ากับตึก 5 ชั้น ยังไม่เป็นอะไร ฉะนั้นท่านที่นำไปอย่านำไปผ่า ผมเชื่อว่าต้องมีคนหิ้วออกไป ขอความร่วมมือร้านค้า อย่ารับซื้อจากคนที่นำไปขายโรงหลอมเหล็กทั้งขจังหวัด ถ้าเจอวัสดุลักษณะนี้ท่านอย่านำไปหลอม ที่พูดเพื่อเตือนมาตรการต่อไป เราต้องพยายามวางแผนเพื่อหาให้เจอ ในเรื่องนี้เลขาฯย้ำให้ทางโรงงานหาให้เจอ
 
ด้าน   นายรณรงค์  นครจินดา ผวจ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า  การตรวจพิสูจน์และค้นหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม ๑๓๗ (Cesium – 137, Cs -137) ของบริษัทเนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ ๕ เอ จำกัด สูญหาย วันอังคารที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๕.๐๐ น. ณ ห้องประชุมศูนย์การเรียนรู้ ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ ๕ เอ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ ๑ หมู่ ๒ ถนน ทางหลวง ๓๐๗๙ ตำบล ท่าตูม อำเภอ ศรีมหาโพธิ จังหวัด ปราจีนบุรี ประกอบธุรกิจประเภท ไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำ และระบบการปรับอากาศ โดยให้บริการด้าน การจ่ายไฟฟ้า ติดตั้งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-๑๓๗ (Cesium – 137, Cs -137) จำนวน ๑๔ ชิ้น ห่อหุ้มด้วยท่อเหล็กกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๕ นิ้ว ความยาว ๘ นิ้ว น้ำหนัก ๒๕ กิโลกรัม ใช้เป็นเครื่องมือวัดระดับของขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้า ติดตั้งใช้งานเมื่อปี ๒๕๓๘
 
สรุปสถานการณ์ วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-๑๓๗ สูญหาย   ลำดับเหตุการณ์   วันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๓.๐๐ น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ว่า วัสดุกัมมันตรังสีได้สูญหายจากบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ ๕ เอ จำกัด
วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๖ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี จัดประชุมหารือ พิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาการตรวจพิสูจน์และค้นหาวัสดุกัมมันตรังสีที่สูญหาย โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีเป็นประธาน จากการรวบรวมข้อมูล ได้ความว่ามีวัสดุกัมมันตรังสีสูญหาย ประมาณวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ บริษัทฯ ได้สอบถามพนักงานขับรถที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ทราบว่า ได้ยินเสียงดังมากเหมือนว่ามีโลหะตกลงพื้น และไม่คิดว่าเป็นวัตถุอันตราย    ซึ่งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-๑๓๗ ติดตั้งอยู่บนถังไซโลเก็บขี้เถ้า โดยมีความสูง จากพื้นดินประมาณ ๑๖-๑๗ เมตร
 
คาดว่าวัสดุกัมมันตรังสีจะตกอยู่ในพื้นที่ ๒๐๐ ตารางเมตร    จากจุดที่มีการ ติดตั้งวัสดุกัมมันตรังสี วัสดุกัมมันตรังสีมีลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอก   มีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นในและห่อหุ้ม ด้วยเหล็กขนาด   เส้นผ่าศูนย์กลาง ๕ นิ้ว ความยาว ๘ นิ้ว น้ำหนัก ๒๕ กิโลกรัม     และมีป้ายติดรายละเอียดแสดง ข้อมูลของวัสดุกัมมันตรังสี และมีสัญลักษณ์ทางรังสีขนาดเล็กติดอยู่ โดยวัสดุกัมมันตรังสีผ่านการใช้งาน มาแล้วประมาณ ๒๘ ปี
 
แนวทางแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-๑๓๗ สูญหาย    วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๐.๓๐ น. เป็นต้นไป บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ ๕ เอ จำกัด ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินภายในโรงงาน และจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เพื่อดำเนินการค้นหาวัสดุจำนวน ๕๐ คน โดยมีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติให้การสนับสนุนการปฏิบัติ กัมมันตรังสีซีเซียม-๑๓๗ ที่สูญหาย ในพื้นที่โรงงานทั้งหมดผลการตรวจสอบไม่พบวัสดุกัมมันตภาพรังสีที่สูญหายภายในโรงงาน ซึ่งสามารถ สรุปได้ว่า อาจมีการนำวัสดุกัมมันตภาพรังสีออกนอกโรงงานไปแล้ว
 
วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖ ชุดปฏิบัติการตรวจสอบวัสดุกัมมันตรังสีสูญหาย โดย เจ้าหน้าที่จากอำเภอศรีมหาโพธิ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และบริษัทฯ ได้ออกค้นหาและตรวจสอบโดย ใช้เครื่องมือวัดทางรังสีในพื้นที่อำเภอศรีมหาโพธิ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เช่น ร้านขายของเก่า ร้านรับซื้อ เศษโลหะมือสอง เป็นต้น การเฝ้าระวังด้านสุขภาพของประชาชน   วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-๑๓๗ ที่สูญหาย เป็นวัสดุกัมมันตรังสีที่มีตะกั่วปกป้องอยู่ ชั้นในและห่อหุ้มด้วยเหล็ก โดยวัสดุกัมมันตรังสีจะอยู่ในชั้นในสุด หากวัสดุกัมมันตรังสียังอยู่ในสภาพเดิมจะ ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม
 
กรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-๑๓๗ ที่สูญหาย มีการถอดประกอบหรือชำแหละเครื่อง กำบังที่ห่อหุ้มจนทำให้วัสดุกัมมันตรังสีมีลักษณะเปลือยเปล่า จะมีรัศมีการแผ่รังสีออกจากวัสดุ กัมมันตรังสีประมาณไม่เกิน ๑-๒ เมตร หากมีการสัมผัสวัสดุกัมมันตรังสีโดยตรง จะทำให้ผู้สัมผัสเกิดผื่นแดง หรือเป็นแผล ไหม้บริเวณที่สัมผัสวัสดุกัมมันตรังสี    จากการประเมินสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม ๑๓๗ ที่สูญหายได้หลุดออกจากเครื่องกำบัง ดังนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน และสิ่งแวดล้อม
การเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-๑๓๗ สูญหาย   โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้หน่วยงานราชการ/บริษัทฯ ดำเนินการเตรียมความ พร้อมในการรับมือกรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-๑๓๗ สูญหาย ดังนี้ ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ดำเนินการ ยกระดับภัย จากภัยระดับ ๑ เป็นระดับ ๒ ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๗๐ โดยจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม ๑๓๗ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีดังกล่าว
 
ให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความ ปลอดภัยของพนักงานในโรงงาน ที่อาจได้รับอันตรายจากวัสดุกัมมันตรังสี ดูแลการจ้างงานในกรณีมีการหยุด การทำงาน ตลอดจนสิทธิสวัสดิการของพนักงานในระหว่างที่หยุดการทำงาน ในระหว่างตรวจหาและแก้ไข ปัญหาวัสดุกัมมันตรังสีสูญหาย    และ   ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ประสานโรงพยาบาล เตรียมความในการ บำบัดรักษาผู้ป่วย ที่อาจได้รับผลกระทบจากวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-๑๓๗ สูญหาย ให้อำเภอศรีมหาโพธิ ตรวจค้นหาวัตถุดังกล่าว ในสถานประกอบการร้านค้าของเก่า และประเภทอื่น ๆ ในพื้นที่
 
ทั้งนี้ หากท่านใดพบเห็นวัตถุดังกล่าว โปรดแจ้งกลับมาที่คุณอารีย์ จักษ์ตรีมงคล ฝ่ายชุมชน สัมพันธ์ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ ๕ เอ จำกัด หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๕๘๓๕๐๑๙๐ (ตลอด ๒๔ ชั่วโมง) สำหรับผู้ที่ชี้เบาะแสจนสามารถนำวัสดุกัมมันตรังสีที่สูญหายกลับมาได้ จะได้รับเงินรางวัล ๕๐,๐๐๐ บาท

หน้าแรก » ภูมิภาค