วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 07:39 น.

ภูมิภาค

เตือนภัย! 3 สาวสวยร้องถูกหลอกไปทำงานนวดที่ดูไบ สุดท้ายถูกบังคับให้ค้าประเวณี

วันพุธ ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2566, 19.03 น.
วันที่ 22 มี.ค. 66 ที่ห้องทำงาน พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือเฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” พาน้องแพตตี้ อายุ 21 ปี น้องมาย อายุ 24 ปี และน้องกี้ อายุ 22 ปี ชาวจ.อุดรธานี พร้อมด้วยคุณแม่ดาว อายุ 44 ปี แม่ของน้องแพตตี้ ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์และดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานีและแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.หมิว อายุ 23 ปีกับน.ส.ออย อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นญาติทางพ่อของน้องแพตตี้นั่นเอง หลังจากทั้ง 3 คนถูกหลอกไปทำงานร้านนวดแต่จริงๆ แล้วไปค้าประเวณีที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือดูไบ แต่เนื่องจากคดีนี้ น.ส.หมิวและน.ส.ออยอยู่ต่างประเทศและเป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักร พนักงานสอบสวนฯ จะทำเรื่องเสนอไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้ตั้งอัยการมาสอบปากคำร่วม
 
น้องแพตตี้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า แต่ก่อนตนทำงานที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งที่จังหวัดอุดรธานี คิดว่าจะไปทำงานประเทศเกาหลี จึงหาคำแนะนำจากเพื่อนญาติที่รู้จัก กระทั่งน.ส.หมิว ซึ่งเป็นญาติทางฝั่งพ่อรู้เรื่องจึงติดต่อประสานมาว่าหาจะทำงานที่ต่างประเทศขอแนะนำให้ไปทำงานที่นวดสปาที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือดูไบ มีเงินเดือน 70,000 บาทไม่รวมทริป เดือนๆ หนึ่งจะตกเป็นแสนเลย โดยทางเราจะออกค่าใช้จ่ายให้ก่อนแล้วค่อยหักที่หลังเป็นงวดๆไป ยืนยันนวดอย่างเดียวไม่มีค้าประเวณีแน่นอน ตนเห็นว่ารายได้ดีและเป็นฝั่งญาติทางพ่อคงไม่ถูกหลอก จึงเดินทางไปโดยชักชวนคุณมายเพื่อนไปด้วยกันสองคนก่อน และเมื่อไปถึงที่เมืองอาบูดาบี ปรากฎว่าเป็นร้านสปาตกแต่งหรูหรามากมีประมาณ 10 ห้อง มีห้องน้ำในตัว มีผู้หญิงคนไทยทำงานที่นั้นเยอะ
 
สอบถามผู้ดูแลร้านได้คำตอบว่าที่นี่ไม่มีเงินเดือนให้ หากอยากได้เงินต้องทำบริการเสริมให้ลูกค้าเท่านั้น จึงจะได้เงิน 1 วันก็เริ่มเอะใจ แต่ก็ไปแล้วก็ลองดูโดยตนจะทำงานตั้งแต่ 13.00 น.เลิกงานก็ 01.00 น.ลูกค้าแต่ละวันมากน้อยต่างกันมากสุดที่เคยนับคือ 1 วัน 4 คน วันไหนไม่มีลูกค้าเลือกก็ไม่ได้เงิน ทั้งนี้หากลูกค้ามานวดเฉยๆ ไม่ว่าจะนวดไทยนวดน้ำมันคนนวดจะไม่ได้ค่าแรง หากลูกค้าต้องการมากกว่านั้นเราคนนวดก็จะได้เงินส่วนนั้น ตัวอย่าง หากเราใช้มือสำเร็จความใคร่ลูกค่าจะต้องจ่ายเงินราว 100 เดอร์แฮม (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 937.98 บาท) หากให้หมอนวดถอดเสื้อหรือแก้ผ้าหมดแล้วใช้มือและปากสำเร็จความใคร่ให้ ลูกค้าก็ต้องจ่ายเงินราว 200-500 เดอร์แฮมแล้วแต่เคสตกลงกัน แต่หากสอดใส่ราคาจะอยู่ที่ราว 500-600 เดอร์แฮม ทั้งนี้หากหมอนวดคนไหนปฏิเสธไม่ทำงานก็จะถูก ปรับ 300 เดอร์แฮม
 
น้องแพตตี้ เล่าต่อว่า เมื่อตนไปถึงที่นั้นตนเป็นหนี้ประมาณ 69,000 หมื่นบาทโดยตนไปอยู่ที่นั้นเกือบ 3 สัปดาห์ กระทั่งได้รู้จักกับคุณกี้ ซึ่งเรา 3 คน ทำงานที่นั้นก็คิดอยู่เสมอว่าถูกหลอก จึงปรึกษาหารือกันกลับประเทศไทย โดยไปขอความช่วยเหลือจากสถานทูตไทยที่นั้นและกลับมาไทยได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ตลอดระยะที่อยู่ที่นั่นผู้ดูแลชาวจีนข่มขู่ด้วยคำพูดว่าหาก 1 เดือนหาลูกค้าได้ไม่ถึง 10 คน แต่ละคนจะถูกปรับ 500 เดอร์แฮม และหลังเดินทางกลับมาที่ประเทศไทยก็ถูกข่มขู่จากเอเย่นต์อีกว่าให้ชดใช้เงินแทคที่เหลือ หากไม่ชดใช้ก็จะติดตามจนไม่มีงานทำ
 
ด้านแม่น้องแพตตี้ เปิดเผยว่า ทันทีเมื่อรู้ว่าลูกสาวถูกหลอกรู้สึกรับไม่ได้ที่ลูกไป ทั้งๆ ที่งานที่ลูกทำอยู่ก่อนไปก็ดีอยู่ด้วย ส่วนน.ส.หมิว ซึ่งเป็นญาติที่มาหลอกลูกสาวก็เป็นญาติของฝั่งอดีตสามี ก็ไม่ได้ติดต่อพูดคุยกันเกือบ 20 ปี หลังจากเลิกกับพ่อของลูก มันช้ำใจจริงๆ มาหลอกกันได้ โดยก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้ว่าลูกไปทำงานดูไบ เมื่อวานลูกมาคุยว่า “หนูมีอะไรจะบอกแต่พรุ่งนี้หนูค่อยบอก แม่ก็ถามเรื่องอะไรบอกแม่ตอนนี้ได้ไหมรอพรุ่งนี้” ตอนนี้กลัวลูกคนเล็กซึ่งอยู่กับพ่อของเขาจะได้รับอันตรายตามคำข่มขู่ซึ่งเคยขู่ไว้ด้วย จึงมากันมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับญาติของอดีตสามีให้ถึงที่สุด มันทำได้ ขนาดเป็นลูกหลาน หลอกไปค้าประเวณีมันยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า แม่กล่าวอย่างเดือด

หน้าแรก » ภูมิภาค