นครราชสีมา วันนี้(12 เมษายน 2566) เวลา 17.00 น ที่วัดพระนายรายณ์มหาราชวรวิหาร พระอารามหลวง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานฝ่ายฆราวาส , พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ ผบก.ภ.นครราชสีมา, ดร.ปทุม พรรณพิสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์ประสานงานเพื่อสาธารณะประโยชน์ จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้าคหบดี กลุ่มสตรี นักท่องเที่ยว พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ต่างสวมใส่เสื้อลายดอกสีสวยงาม นุ่งผ้าไทย ใส่ผ้าซิ่น แห่แหนร่วมพิธีแห่พระคันธารราฐ หรือพระปางขอฝน ถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวโคราชมาตั้งแต่สมัยพระนารายณ์มหาราช มีอายุกว่า 300 ปี เนื่องในงานประเพณีมหาสงกรานต์โคราช ฉลองสมโภชน์เมืองนครราชสีมา ครบรอบ 555 ปี โดยได้อัญเชิญพระคันธารราษฎร์ ขึ้นสู่ราชรถ ใช้กำลังคนเข็นลากจูง เคลื่อนขบวนแห่รอบตัวเมืองไปยังลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) เพื่อนำไปประดิษฐานในปะรำพิธี ข้างลานศาลาพิธีอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติ ได้สรงน้ำเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล และความเป็นมงคลกับชีวิตลึรอบครัว ซึ่งได้มีการจัดขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว ร่วมขบวนแห่เป็นจำนวนมากกว่า 1,000 คน 

ทั้งนี้ในช่วงเย็นวันสงกรานต์ 13 เมษายน เวลา 18.00 น.กำหนดมีพิธีอัญเชิญขบวนแห่พระคันธารราฐลอดซุ้มประตูเมือง (ประตูชุมพล) ด้วยใช้ผ้าทอง ผ้าเงิน ยาว555 เมตร ให้ประชาชนนักท่องเที่ยวร่วมกันลากจูง ไปตามถนนสายต่างๆ เพื่อความเป็นสิริมงคล ความเป็นมงคล เสริมส่งดวงชะตาราศีให้กับตัวเอง ครอบครัว และบริวาร และเพื่อร่วมสมโภช 555 ปีเมืองนครราชสีมา

นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จังหวัดนครราชสีมาได้จัดงานสงกรานต์ย้อนยุค เพื่อทำนุบำรุงวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น จัดตกแต่งเป็นเส้นทางบุญ อัญเชิญพระคันธารราษฎร์พระคู่บ้านคู่เมือง ลอดซุ้มประตูชุมพล ให้ประชาชนได้สรงน้ำพระ เพื่อนำความอุดมสมบูรณ์เข้าสู่เมืองโคราช รวมทั้งเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว ปีต่อๆไป ซึ่งจังหวัดพร้อมที่จะผลักดันให้กิจรรมมหาสงกรานต์โคราช แห่พระลอดซุ้มประตูเมือง ให้เป็นงานยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาคและจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี มุ่งหวังให้ประเพณีอันดีงามกลับคืนมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง แล้วสืบสานต่อไปยังคนรุ่นหลัง