วันจันทร์ ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2568 11:38 น.

ภูมิภาค

ทึ่ง! มนต์เสียงพิณ “น้องแฮปปี้” วัย 9 ขวบ นักดนตรีพื้นบ้านอีสาน

วันเสาร์ ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2566, 20.27 น.

เป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วแล้ว ว่า ต.ท่าเรือ อ.นาหว้า จ.นครพนม ได้ชื่อเป็นแหล่งผลิตเครื่องดนตรีพื้นบ้านอีสาน เช่น พิณ แคน โหวด โปงลาง และเครื่องดนตรีอีสานอื่นๆ ใหญ่ที่สุดในประเทศ นับเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน มีประวัติกล่าวว่านายโลน แสนสุริยวงศ์ หรือพ่ออุ้ยโลนเป็นช่างทำแคนคนแรกของบ้านท่าเรือ พร้อมเพื่อนอีก 2 คน คือนายลอง และนายไกร แมดมิ่งเหง้า โดยประมาณปี พ.ศ.2466 ทั้งสามคนได้เรียนวิชาทำแคนจากพี่ชายของนายโลน ซึ่งไปเรียนมาจากช่างแคนบ้านพนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ต่ออีกทอดหนึ่ง ภายหลังก็กลับมาทำแคนในหมู่บ้านท่าเรือ จนกลายเป็นอาชีพหลัก เป็นที่ยอมรับจากนักเป่าแคนทั่วภาคอีสาน จึงประสิทธิประสาทวิชาการทำแคน ให้ลูกหลานได้ถ่ายทอดสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน

 


 

นอกจากหมู่บ้านท่าเรือจะเป็นแหล่งผลิตแคนที่ใหญ่สุดในประเทศแล้ว ยังมีเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่โดดเด่นของชุมชนคือ การทอผ้าไหมโดยได้รับรางวัลพระราชทานจากการประกวดผ้าไหมมากที่สุด ถือเป็นเป็นศูนย์ศิลปาชีพแห่งแรกที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย จึงมีคำขวัญประจำหมู่บ้าน ”แคน พิณ โหวด หลากหลาย ผ้าไหมสวยงาม วัฒนธรรมล้ำค่า ภาษาเฉพาะ ไพเราะเสียงดนตรี” เป็นความภาคภูมิใจของชาว ต.ท่าเรือ ที่บรรพบุรุษได้ฝากไว้เป็นมรดกตกทอดกันมา

 


และด้วยหมู่บ้านท่าเรือ ได้มีกรมโยธาและผังเมืองดำเนินการวางแบบแปลนให้ถนนทุกซอยสามารถทะลุหากันได้ โดยมีสถานศึกษาอยู่ระหว่างกลาง 3 หมู่บ้าน ได้แก่ 1.บ้านท่าเรือ 2.บ้านบะหว้า 3.บ้านนาซ่อม คือ โรงเรียนราษฎร์สามัคคี เป็นโรงเรียนขยายโอกาสสอนตั้งแต่อนุบาล-ม.3 ปัจจุบันมีนักเรียนรวม 700 คน ภายใต้การบริหารของนายวิญญู คำหา ผู้อำนวยการฯ และมีวงดนตรีโปงลางประจำโรงเรียน โดยมีนายศักดา ชาสงวน หรือครูโน้ต นอกจากเป็นคนตัวใหญ่แล้ว ใจยังใหญ่ด้วย ครูโน๊ตเอาความสามารถด้านดนตรีมาถ่ายทอด เป็นครูฝึกสอนดนตรีส่งเสริมลูกศิษย์ก้าวหน้าทางดนตรี ควบคู่กับการเรียนตามไปด้วย ทั้งคณะใช้นักเรียนเป็นนักดนตรี รวมถึงนางรำ นอกจากจะแสดงต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองแล้ว วงโปงลางคณะนี้ยังออกไปประกวดแข่งขันชิงแชมป์มาหลายเวที

 


ล่าสุด โรงเรียนราษฎร์สามัคคี นายวิญญู คำหา ผู้อำนวยการโรงเรียน นางสาวขวัญชีวา ปัญญารัตนวงค์ นางเพ็ญนภา วะชุม รองผู้อำนวยการฯ พร้อมด้วยคณะครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน ต้อนรับคณะจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 1 (ภาตะวันออกเฉียงเหนือ) จังหวัดอุดรธานี ได้มาทำกิจกรรมตามโครงการชุมชนปลอดภัยใช้ไฟ PEA ประจำปี 2566 และส่งมอบห้องสมุดสีเขียว (Green Library) พร้อมทั้งพานักเรียนทำกิจกรรมบันทึกนักประหยัดตัวน้อยและกิจกรรมต่างๆ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการแสดงจากวงโปงลางดีกรีแชมป์เหรียญทองระดับประเทศไทย

 

ครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็นอย่างมาก เรื่องประสบการณ์ด้านดนตรีไม่ต้องพูดถึง มีถ้วยรางวัลการันตีความสามารถ ทางผู้ฝึกสอนเอาเด็กนักเรียนตัวจิ๋วมาเป็นมือดีดพิณ ทราบต่อมาว่าชื่อ ด.ช.บุญยะกร คำชนะ หรือน้องแฮปปี้ อายุ 9 ขวบ ปีการศึกษา 2566 เรียนหนังสืออยู่ชั้น ป.3 โดยจากคำบอกเล่าของครูผู้ฝึกสอน ว่า น้องแฮปปี้เกิดจากครอบครัวที่ผลิตเครื่องดนตรีจากไม้ไผ่ ตั้งแต่จำความได้ก็สัมผัสเครื่องดนตรีเหล่านี้จนเคยชิน ต่อมาทางผู้ฝึกสอนเห็นแววจึงนำมาร่วมวง ขัดเกลาฝีไม้ลายมือในตำแหน่งมือพิณจนเกิดวามชำนาญ ครั้นไปแสดงที่ไหนน้องแฮปปี้กลายเป็นเสน่ห์ของผู้ชมอย่างมาก ทึ่งในความสามารถทางดนตรี ขณะที่การเรียนก็ไม่ด้อยกว่าใคร

 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามครูโน้ตว่า น้องแฮปปี้ถือเป็นมือพิณอายุน้อยที่สุดในโลกได้ไหม ครูโน้ตอธิบายว่าเท่าที่ทราบมือพิณที่มีอายุน้อยสุดในประเทศ อยู่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเกิดขึ้นประมาณปี 2563 ด.ช.ธนทัต สิงหาสาร หรือน้องมังกร อายุขณะนั้น 8 ขวบ เป็นนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านคำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ขณะที่น้องแฮปปี้ก็ขึ้นดีดพิณในตอนเรียนอยู่ ป.2 เช่นกัน อายุจึงเท่ากัน แต่ต้องให้เกียรติรุ่นพี่เขา ยกให้เป็นมือพิณอายุน้อยที่สุดในโลกดีกว่า แค่ช่วยกันจรรโลงเครื่องดนตรีอีสาน ให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดกาล เรื่องที่สุดในโลกเป็นเรื่องเล็กไปเลย

หน้าแรก » ภูมิภาค