วันอังคาร ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568 11:20 น.

ภูมิภาค

เกษตรกรปลูกขมิ้นแซมยางมีรายได้ไร่ละ 2 แสน

วันจันทร์ ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2566, 12.13 น.

ขมิ้นแกงหรือขมิ้นชันเป็นพืชไร่อีกชนิดหนึ่งที่เกษตรกรชาวสวนยางในภาคใต้ นิยมใช้เป็นพืชปลูกแซมยาง เพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว และในช่วงที่ราคายางตกต่ำ เกษตรกรชาวสวนยางก็จะหันมาปลูกพืชแซมยางเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกล้วย ถั่วลิสง ตะใคร้และขมิ้น โดยเฉพาะการปลูกขมิ้นแซมยางนั้น ชาวสวนยางในพื้นที่ตำบลบ้านนาและตำบลลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายและสามารถขายผลผลิตมีรายได้ดีกว่าการปลูกพืชชนิดอื่น และที่สำคัญหัวขมิ้นแกงหรือขมิ้นชัน เป็นพืชที่ชาวใต้ใช้เป็นส่วนผสมเครื่องของแกงที่ใช้เป็นอาหารและขมิ้นก็ยังเป็นสมุนไพร ที่นิยมนำไปใช้เป็นส่วนผสมของยารักษาโรค ผลิตเป็นน้ำมันขมิ้นใช้ในสปา และยังใช้ขมิ้นเครื่องสำอางที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย จึงทำให้ผลผลิตของขมิ้นมีราคาและมีตลาดรองรับทั้งภายในและต่างประเทศ และจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงบ้านทุกวันทำให้เกษตรกรมีรายได้ตลอดปี

 

          
นางอาภรณ์ สีขาว อายุ 49 ปี เกษตรกรชาวสวนยางบ้านเขาคราม เลขที่ หมู่ที่ 4 ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เป็นเกษตรกรชาวสวนยางรายหนึ่ง ที่มีปัญหาไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง แต่ก็พยายามร้องขอที่ดิน ของเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะที่ว่างในร่องสวนยางปลูกใหม่ ใช้ปลูกขมิ้นเป็นพืชแซมยางจนประสบความสำเร็จ สร้างรายได้มาเลี้ยงครอบครัว ส่งลูกเรียนจนจบมีงานทำ และยังมีเงินเหลือเก็บอีกด้วย

 

          
นางอาภรณ์ สีขาว กล่าวว่า บ้านเขาคราม หมู่ที่ 4 ต.บ้านนา และบ้านโหล๊ะไฟ หมู่ที่ 5 ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านใกล้เคียง ถือเป็นแหล่งปลูกผลิตขมิ้นที่สำคัญของจังหวัดพัทลุง ในแต่ละวันจะมีผลผลิตออกจากหมู่บ้านวันละ 1-2 ตัน พ่อค้าจะรับซื้อเพื่อส่งขายต่อไปที่ตลาดใน อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และส่งไปขายต่อยังประเทศมาเลเชีย

 


สำหรับครอบครัวของตนนั้นก่อนที่จะมีการลงทุนปลูกขมิ้น ก็เป็นครอบครัวที่มีฐานะยากจน ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง ได้อาศัยรับจ้างกรีตยางพาราของเพือ่นบ้าน สามีก็จะทำงานรับจ้างทั่วไป เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวและส่งลูกเรียนหนังสือ จนกระทั่งเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2550 ได้ขอใช้ที่ร่องสวนยางพาราปลูกใหม่ของเพื่อบ้าน ลงทุนปลูกขมิ้นแซมยาง เพื่อสร้างรายได้เสริมในครอบครัว โดยใช้ร่องสวนยางปลูกขมิ้นประมาณ 2 ไร่ ใช้เวลาดูแลประมาณ 6 เดือน เมื่อขมิ้นครบอายุก็ขุดหัวส่งขายให้กับแม่ค้าที่รับซื้อในหมู่บ้าน ก่อนที่จะนำไปส่งขายต่อให้กับผู้ผลิตเครื่องแกง
 

 


แต่มีระยะหลังๆตลาดภายในและต่างจังหวัดมีความต้องการขมิ้นมากขึ้น เพื่อนำไปใช้ตำเครื่องแกงและใช้ผลิตเป็นน้ำมันขมิ้น ผลิตเป็นยารักษาโรค เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อื่นๆ เมื่อตลาดมีความต้องการ จึงได้ขยายพื้นที่ปลูกขมิ้นเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 5 ไร่ และสามารถขุดขมิ้นขายได้ทุกวัน ทำให้ครอบครัวมีรายได้วันละ 3-4 พันบาททุกวันและมีรายได้ตลอดปี และปีนี้เป็นปีทองของเกษตรกรที่ปลูกขมิ้น เนื่องจากตลาดภายในและต่างประเทศมีความต้องการขมิ้นจำนวนมาก และจะมีแม่ค้าเดินทางมารับซื้อถึงผลผลิตในหมู่บ้าน ให้ราคากิโลกรัมละ 40-45 บาท และสามารถขุดขมิ้นขายได้วันละ 80- 100 กก ทุกวัน

 

 

          
เทคนิคการปลูกขมิ้นแซมยางให้ได้ผลผลิตสูงนั้น ไม่มีอะไรยุ่งยาก เนื่องจากที่ดินในหมู่บ้านเป็นดินร่วนบริเวณเชิงเขา เหมาะสำหรับใช้ปลูกขมิ้นอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่คัดเลือกพันธุ์ขมิ้นที่สมบูรณ์และแก่จัด นำไปปลูกในที่ดินที่ได้จัดเตรียมไว้ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกขมิ้นเป็นพืชเดี่ยวหรือปลูกขมิ้นแซมยาง ขุดหลุมระยะห่างประมาณ30- 40 ซม.ก่อนที่นำพันธุ์ขมิ้นที่เตรียมไว้ปลูก ที่ดิน 1 ไร่ ใช้ต้นพันธุ์ปลูกประมาณ 300 กก. และใช้เวลาดูแลบำรุงรักษา กำจัดวัชพืชที่ขึ้นมาปกคลุมขมิ้นเป็นระยะ และใส่ปุ๋ยบำรุงต้น 2 ครั้ง และให้ปุ๋ยเร่งหัว 1 ครั้ง ไม่จำเป็นต้องให้น้ำและไม่ต้องฉีดยากำจัดแมลงเหมือนปลูกพืชชนิดอื่น เมื่อขมิ้นที่ปลูกไว้อายุครบ 5- 6 เดือนก็สามารถขุดหัวขาย จะได้ผลผลิตไร่ละประมาณ 5 ตัน ปัจจุบันราคาขมิ้นพ่อค้ารับซื้อในหมู่บ้าน กก.ละ 40 บาท เกษตรกรผู้ปลูกขมิ้นจะมีรายได้ไร่ละประมาณ 2 แสนบาท ซึ่งถือว่าการปลูกขมิ้นเป็นพืชแซมยางมีรายได้สูงกว่าปลูกพืชชนิดอื่น

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค